สภาทรงเกียรติหรือ สภา‘รูหนู’ ยืดเวลาสร้าง 1,864 วัน ไม่คิดค่าปรับ 2.23 หมื่นล้าน

11 ธ.ค. 2562 | 10:00 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3530 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 12-14 ธ.ค.62 โดย...พรานบุญ


สภาทรงเกียรติหรือ สภา‘รูหนู’
ยืดเวลาสร้าง 1,864 วัน
ไม่คิดค่าปรับ 2.23 หมื่นล้าน



          9 ธันวาคม บรรดา กุ้ง-หอย-ปู-ปลา ตลอดคุ้งนํ้าเจ้าพระยาตั้งแต่ย่านเกียกกาย-เขียวไข่กา-ท่าพระอาทิตย์-ท่าพระจันทร์ ยันปากอ่าวไทย ต่างพากันออกมาลอยคอเหนือนํ้าจำนวนมาก สร้างความประหลาดใจให้กับผู้อาศัยในพระนคร
          ลิง ค่าง เก้ง กวาง นังบ่าง ยัยชะนี และอีเห็น ตะโกนก้องร้องเรียกให้ผู้คนหันมาตระหนักกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
          พรานฯ ผู้นิยมท่องไพรไม่นิยมลุยนํ้า...จึงสอบถามนังชะนีและอีเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นคุ้งนํ้าจึงปั่นป่วน! ยัยบ่าง-นางชะนีไม่ตอบ ได้แต่ส่งเอกสาร ลงเลขที่ ซท/2019/0700 เรื่องการขยายระยะเวลาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ที่ ภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือถึง กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้อ่าน.....
          เนื้อความตามท้องเรื่องสรุปได้ว่า...ตามที่บริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบตามสัญญาเลขที่ 116/2556 ลงวันที่ 30 เมษายน 2556 โดยมีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ว่าจ้าง ซึ่งเดิมจะครบกำหนดระยะเวลาก่อสร้างในวันที่ 15 ธันวาคม 2562 นั้น ขอเรียนว่าระหว่างก่อสร้าง มีเหตุตามข้อกำหนดแห่งการขอขยายระยะเวลาก่อสร้างได้ตามสัญญาฯ บริษัทจึงได้ขอขยายเวลาก่อสร้างตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเสนอผ่านผู้ควบคุมงานและที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา
          ล่าสุด สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็นตามเงื่อนไขการขยายเวลาก่อสร้างแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จึงได้ทำบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมแนบท้ายสัญญาฯ ตกลงให้ขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ออกไปอีก 382 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2562 - 31 ธันวาคม 2563
          บริษัท จึงขอให้ข้อมูลมายังท่านเพื่อให้ท่านเผยแพร่ให้นักลงทุนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องตามความจริงและเพื่อเป็นการป้องกันมิให้บุคคลที่มีเจตนาไม่สุจริตนำข้อมูลอันเป็นเท็จไปอ้างว่าบริษัทก่อสร้างไม่แล้วเสร็จจะต้องถูกปรับตามสัญญาฯ เป็นเงินจำนวนมาก อันอาจทำให้บริษัทและนักลงทุนได้รับความเสียหายจากการกระทำของบุคคลดังกล่าว จึงเรียนมาให้ทราบ
    

          เรื่องการต่อสัญญาการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หรือ “สัปปายะสภาสถาน” มูลค่า 12,280 ล้านบาทบนเนื้อที่กว่า 123 ไร่ระยะสร้าง 900 วันตั้งแต่ 8 มิถุนายน 2556-24 พฤศจิกายน 2558 แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานมากที่สุด อื้อฉาวมากที่สุด นี่เองที่ทำให้กุ้ง หอย ปู ปลา เก้ง กวาง พากันร้องกันระงมไปทั้งเมืองว่าทุจริตกันหลายรอบ
          ขนาด สิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีตส.ว.อุทัยธานี กรรมการตัดสินการประกวดแบบและกรรมการควบคุมการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ ทนไม่ไหวเคยออกมาระบุว่า ม่ายรุจะทำอย่างไรให้การก่อสร้างเสร็จตามเป้าหมาย สถาบันรัฐสภาและข้าราชการ ผู้รับเหมาตกเป็นจำเลยสังคม เกิดการทุจริตของคนบางกลุ่ม รัฐตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดไม่ได้...มึนครับมึน
          สัปปายะสภาสถานแห่งนี้คือ สัญลักษณ์ของรัฐสภาไทยที่มีการอนุมัติต่ออายุสัญญาก่อสร้างกันยาวนานที่สุด การต่ออายุนานกว่าระยะเวลาก่อสร้างในสัญญาที่กำหนดไว้ 900 วัน มีก่อสร้างอะไรที่ช้ากว่านี้มั้ย...ท่านผู้ทรงเกียรติ
          ครั้งแรก สำนักเลขาธิการสภาฯ เห็นชอบให้ขยายเวลาออกไป 387 วัน จากสิ้นสุดวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 เป็น 15 ธันวาคม 2559
          ครั้งที่ 2 มีปัญหาในการก่อสร้างอีก จากเรื่องการระบายดินที่ขุดขึ้นมาเพื่อสร้างชั้นใต้ดินของอาคารรัฐสภาราว 5 แสนลูกบาศก์เมตร อันอื้ออึงไปทั้งปฐพี เพราะมีการขุดดินหลวงไปถมที่ไหนไม่รู้ จึงขอขยายเวลาครั้งที่ 2 อีก 421 วัน เป็นสิ้นสุดการก่อสร้างในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561
          ยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพใครเชียว ท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลายที่มาทำหน้าที่ออกกฎหมายบังคับใช้ให้ประชาชนทุกผู้ทุกนามปฏิบัติ ดูให้ดีว่าคนใน“สภาห้าร้อย”นี่แหละที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้สังคมขนาดไหน!
          ขยายระยะเวลาการก่อสร้างไป 387+421 วัน รวม 808 แล้ว บริษัท ซิโน-ไทยฯ ยังสร้างไม่เสร็จ ในเดือนมิถุนายน 2560 ทางบริษัท ซิโน-ไทยฯอ้างว่า มีปัญหาการส่งมอบพื้นที่ในส่วนของโรงเรียนโยธินบูรณะที่คาราคาซัง จึงขอขยายเวลาครั้งที่ 3 อีก 926 วัน.... คราวนี้ “อีลูกช่างขอ” ลืมไปกระมังว่า เวลาที่ขอรอบนี้ยาวนานมากกว่าสัญญาหลัก
          แต่สำนักเลขาธิการสภาฯ เห็นชอบให้ขยายเวลาไป “เบาะๆ” เพียงแค่ 674 วัน ให้ไปสิ้นสุดในวันที่ 15 ธันวาคม 2562
          สิริรวม 3 ครั้ง รัฐสภาเมืองไทยที่เต็มไปด้วยผู้แทนอันทรงเกียรติขยายเวลาการก่อสร้าง “รูหนู” ให้บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาประชุมกันแก่เอกชนคือ บริษัท ซิโน-ไทยฯ ไปทั้งสิ้นรวม 1,482 วัน หรือกว่า 4 ปี จากกำหนดเดิมต้องแล้วเสร็จภายใน 900 วัน หรือประมาณ 2 ปี 4 เดือน
          ครั้งที่ 4 คือ 9 ธันวาคม ที่อื้ออึงไปทั้งคุ้งนํ้า ทั้งๆ ที่มีการเสนอคัดค้านการต่อสัญญาออกไปจากผู้คนมากหน้าหลายตา แต่ “รัฐสภาไทย” กลับลงนามขยายอายุสัญญาออกไปให้อีก 382 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2562-31 ธันวาคม 2563 รวมกันแล้วมีการขยายสัญญาการก่อสร้างให้เอกชนรายนี้ 1,864  วัน อ่านว่า “หนึ่งพันแปดร้อยหกสิบสี่วัน”
    

          ขยายเวลาก่อสร้างนานกว่านี้มีอีกมั้ย? ผู้รับเหมารายอื่นทำได้รึเปล่าขอรับนายท่าน...นังบ่างตั้งคำถามดังๆ
          พรานฯ ไปส่องในสัญญาเดิมพบว่า มีการกำหนดเงื่อนไขว่า หากการก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่กำหนด ผู้รับเหมาต้องเสียค่าปรับวันละ 12 ล้านบาท ถ้าขยายเวลาให้ 4 ครั้ง กว่า 1,864 วัน คิดเป็นค่าปรับ 22,368 ล้านบาท คำถามคือใครรับผิดชอบ เอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่...
          อีนี่พรานฯมิอาจบอกได้ว่า ใครที่เป็นเจ้าของบริษัท เอกชนได้ประโยชน์ เพราะฝ่ายการเมืองบอกมาแล้วว่า “อนุทิน ชาญวีระกูล” ไม่เกี่ยวกับบริษัทแล้ว
          คุณพีระ นาควิมล
ผอ.โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาฯ บริษัท ซิโน-ไทยฯ เคยบอกว่า บริษัท ไม่ได้อยากขยายเวลาออกไปเลย เพราะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาท ถ้าระยะเวลาขยายออกไป 1,864 วัน ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1,864 ล้านบาท
          พิลึกมั้ยครับ! เอกชนไม่อยากขยายเวลาก่อสร้างออกไปเลย ราชการและสภาผู้ทรงเกียรติ ทำไมยอมขยายให้ และไม่มีท่าทีใดๆ ในการพิทักษ์รักษาสัญญาประโยชน์ของรัฐเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่สัญญาเปิดทางให้ฟ้องจากผิดสัญญาวันละ 12 ล้านบาท
          นี่พรานฯได้ข่าวมาอีกว่า งานระบบไอซีที 3,350 ล้านบาท ซึ่งรัฐสภาเพิ่งได้ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยีฯ (เอไอที) มาก่อสร้างกำหนดเสร็จสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ทำนายได้เลยว่า ขยายเวลาให้อีก และน่าจะพันไปกับงานโยธา
          จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปนะ พรานฯ ไปดูเงื่อนไขสัญญาพบว่า มีการระบุว่า การเข้าใช้พื้นที่ก่อนจะใช้นำมาเป็นเหตุในการขยายสัญญาไม่ได้ หรือถ้ามีอุปสรรคในการทำงาน ผู้รับเหมาต้องแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบ ภายใน 15 วัน ทำไมจึงไม่มีการนำเรื่องค่าปรับวันละ 12 ล้านบาทมาใช้...รึว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในรู!
          เราน่าจะปล่อยให้ผู้แทน ส.ส.-ส.ว.ของไทย ไปอยู่ “รูหนู” กันให้หมดดีมั้ยครับ อย่าอยู่เลยสภาอันทรงเกียรติ!