จุดดับ "อนาคตใหม่" จับตากกต. ถกคดีเงินกู้ 191 ล้าน

08 ธ.ค. 2562 | 08:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3529 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 8-11 ธ.ค.2562 โดย... ว.เชิงดอย

 

จุดดับ "อนาคตใหม่" จับตากกต. ถกคดีเงินกู้ 191 ล้าน

 

     ...ในที่สุด คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ก็ไม่รอรับเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมจากพรรคอนาคตใหม่ หรือ อนค. กรณีการกู้เงินจาก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เพราะได้ให้โอกาสถึงเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่ทางอนาคตใหม่ “โยกโย้” อ้างต้องใช้เวลาในการรวบรวมหลักฐาน จึงขอยืดเวลาออกไปอีก 120 วัน ดังนั้น กกต.จึงมีมติให้ตัดพยานหลักฐานที่เหลือ และให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนพิจารณาจากพยานหลักฐานที่อนาคตใหม่ส่งมาบางส่วนก่อนหน้านี้ และให้เสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาในวันพุธที่ 11 ธันวาคมนี้

     ...กกต.ให้เหตุผลที่ไม่รอหลักฐานจากอนาคตใหม่ เพราะเห็นว่ามีเจตนาต้องการถ่วงเวลา และเอกสารที่ กกต.ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองมีหมายเรียกไป เป็นเอกสารที่อยู่ในการครอบครองของพรรคอนาคตใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องรอรอบเวลาเพื่อที่จะรวบรวม และถือเป็นเอกสารที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคที่จะยืนยันต่อ กกต. ว่ามีการกู้ยืมเงินจริง ดังนั้น เมื่อพรรคไม่นำส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวได้ ก็ถือเป็นผลเสียต่อพรรคเอง

     ...ว่ากันว่า คดีอนาคตใหม่กู้เงินธนาธร จะเป็นอีกเรื่องที่นำไปสู่การ “ยุบพรรค” ได้ เพราะมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรสัญญากู้เงินที่ ธนาธร ได้ยื่นแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 ว่าได้ให้พรรคกู้เงิน กว่า 191 ล้านบาท ซึ่งตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง 2560 มาตรา 62 ระบุให้พรรคการเมืองมีรายได้จาก 7 ทางเท่านั้น คือ 1.เงินทุนประเดิมตามมาตรา 9 วรรคสอง 2.เงินค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมืองตามที่กำหนดในข้อบังคับ 3.เงินที่ได้จากการจำหน่ายสินค้าหรือบริการของพรรค 4. เงิน ทรัพย์สินและประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรค 5. เงิน ทรัพย์สินและประโยชน์อื่นใดที่ได้จากการบริจาค 6.เงินอุดหนุนจากกองทุน และดอกผล และ 7.รายได้ที่เกิดจากเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดของพรรคเท่านั้น ไม่สามารถมีการสนับสนุนทางอื่น นอกจากที่กฎหมายกำหนดได้

     ...ดังนั้น กรณีนี้เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า “อนาคตใหม่” กระทําการผิดกฎหมาย ก็สามารถยื่นเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” พิจารณาวินิจฉัยสั่งยุบพรรคได้เลย และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10 ปี...บอกได้เลยว่าคดีนี้ทำ “อนาคตใหม่” ร้อนๆ หนาวๆ แน่

 

ปล่อยกู้อนาคตใหม่
 

 

 

     ...หันไปดูเรื่องอื่น...ผู้โดยสารที่บินกับเที่ยวบินของ “การบินไทย” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา ต่างดีใจที่ได้มีโอกาสร่วมน้อมรำลึกในหลวง ร.9 ซึ่งนับเป็นวันสำคัญวันหนึ่งและเป็นที่ทราบกันดีว่าประชาชนชาวไทย ให้ความสำคัญเป็น “วันพ่อแห่งชาติ” วันสำคัญที่อยู่ในหัวใจของคนไทยทั้งแผ่นดิน ทางฝ่ายบริการบนเครื่องบิน ที่กำกับดูแลรับผิดชอบโดย ผอ.ใหญ่ สุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ได้ร่วมกับฝ่ายวางแผนและควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคบนเครื่องบิน ของ สุเทพ ตันติวิทยากรได้ออกแบบ “ขนมหวานจานพิเศษ” เพื่อร่วมฉลองในวันสำคัญแห่งชาติ โดยจัดรายการขนมหวานจานพิเศษในโทนสีเหลือง ใช้วัตถุดิบจากโครงการหลวงและน้ำผึ้งดอยคำ ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมกะทิ, ขนมฟักทองเชื่อม, ขนมทองโบราณ เช่น ขนมถั่วทองกวน ติดแผ่นทอง โดยเมนูพิเศษเหล่านี้จะให้บริการในทุกชั้นของการเดินทางโดยเหล่านางฟ้าแอร์สจวร์ต บนเครื่องเจ้าจำปี “ว.เชิงดอย” เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าการบริการจากใจที่เต็มไปด้วย “เสน่ห์ไทย” คงจะหาได้ยาก ในภาวะที่มีแต่การแข่งขันด้านราคาของธุรกิจแอร์ไลน์ คงจะเห็นและสัมผัสได้ก็เฉพาะบนเครื่องของการบินไทยเท่านั้น ที่ “รักคุณเท่าฟ้า”

     ...ขณะที่ ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. แจ้งว่า สำหรับคนที่ลงทะเบียนซื้อของขวัญ “โครงการ 100 เดียวเที่ยวทั่วไทย” ไม่ทันในรอบเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่ต้องเสียใจ เพราะททท.เตรียมเปิดให้ซื้อของขวัญรอบใหม่ได้ในวันที่ 11-12 ธันวาคมนี้ รอบนี้มีบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับในราคา 100 บาท จากสายการบินไทยแอร์เอเชีย โรงแรมหรู 5 ดาว และ โรงแรมระดับ 3-4 ดาว ทั่วประเทศกว่า 80 แห่ง จำนวนกว่า 6,000 ห้อง ทั้งมีกิจกรรมท่องเที่ยว รถเช่า สปา ร้านอาหาร และเพิ่มความพิเศษ Voucher โรงแรมให้สิทธิพักได้ในวันสุดสัปดาห์และวันหยุดยาว เพื่อให้คนไทยฉลองความสุขรับปีใหม่ได้เต็มที่ โดยกิจกรรมรอบใหม่นี้ เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 -24.00 น. ใครที่สนใจซื้อของขวัญ ซื้อได้จากช่องทาง www.100 เดียวเที่ยวทั่วไทย.com หรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้จากช่องทาง www.facebook.com/100TravelThailand, Line Official : @100teawtourthai