ทวงถามสปิริต "เสี่ยหนู"

01 ธ.ค. 2562 | 08:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3527 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 1-4 ธ.ค.2562 โดย... ว.เชิงดอย

 

ทวงถามสปิริต "เสี่ยหนู"

 

     ความไม่ลงรอยระหว่าง 3 พรรคร่วมคือ “พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย” ปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้น เมื่อคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน มีมติให้เลื่อนการแบน 2 สารเกษตรคือ “พาราควอต” และ “คลอร์ไพริฟอส” จากวันที่ 1 ธันวาคม 2562 ไปเป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ส่วนสาร “ไกลโฟเซต” ยกเลิกการแบน แต่ให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้แทน

     ทำให้ 2 รัฐมนตรีจากภูมิใจไทย ทั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ และยังรวมถึง ชาดา ไทยเศรษฐ์ พี่ชายของมนัญญา ถึงกับออกอาการแสดงท่าทีไม่พอใจอย่างหนัก ถึงขั้นประกาศคืนกรมวิชาการเกษตร ที่ มนัญญา ดูแลอยู่ โยนกับไปให้ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจว่าจะมอบหมาย “กรม”ใดให้ดูแลใหม่

     นั่นแสดงให้เห็นว่า จะไม่มีรัฐมนตรีคนใดของพรรคภูมิใจไทย แสดงสปิริตลาออก พรรคภูมิใจไทยไม่ถอนยวงจากรัฐบาล ทั้ง ๆ ที่ ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2562 ก่อนที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย จะมีการประชุมกันในวันที่ 22 ตุลาคม 2562 และมีมติแบน 3 สารพิษ โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แถลงข่าวร่วมกับ 7 รัฐมนตรีของพรรคต่อสาธารณชน ว่า พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนไม่เอาสารพิษทางการเกษตร นโยบายที่รัฐมนตรีในสังกัดพรรครับผิดชอบคือ ไม่เอาสารพิษ “หากมติของคณะกรรมการฯ สวน ไม่ทำตามมติ แนวทางของรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยที่กำกับ ก็พร้อมแสดงสปิริตลาออก เพราะเท่ากับว่าเราไม่มีความสามารถในการปกครองให้คนเหล่านั้น ปฏิบัติตามมติหัวหน้าส่วนราชการ”

 

     นั่นคือคำพูดของ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่เคยลั่นวาจาไว้แบบขึงขัง แต่มาวันนี้ อนุทิน กลับพูดเสียงอ่อยๆ ว่า “เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องต่างคนต่างทำหน้าที่ กระทรวงสาธารณสุขมองในแง่สุขภาพ กระทรวงอุตสาหกรรมมองในแง่ของธุรกิจ ส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ก็มองในแง่พืชผลการเกษตร ถึงต้องมีคณะกรรมการ ดังนั้นผลออกมาเช่นไรเราก็ต้องยอมรับ เราไม่ตีโพยตีพายเพราะเราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว” ... อ่าวแล้วที่เคยประกาศไว้ว่า “พร้อมแสดงสปิริตลาออก” ลืมไปแล้วหรือ? ระวังนะคนเขาจะมองเอาได้ว่า “ตระบัดสัตย์”

     หัวไปเรื่องอื่น... เป็นปลื้มกับ บริษัท ทีทีดับบลิว จํากัด (มหาชน) หรือ TTW ผู้ผลิตน้ำประปาภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ในพื้นที่สมุทรสาคร-นครปฐม และปทุมธานี-รังสิต ที่ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนของปี 2562 บริษัท และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 4,616.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลา เดียวกันของปีที่แล้ว 3.8% ส่วนกําไรสุทธิ 2,193.5 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 1.2% วลัยณัฐ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บอกว่าผลการดําเนินงาน 9 เดือน ปี 2562 เติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากปัจจัยหลักเป็นผลจากรายได้ของการดําเนินงานที่เพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้น้ำของภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือนที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสินทรัพย์รวมของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 มีกว่า  22,153 ล้านบาท หนี้สิน 9,974 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 12,179 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพียง 0.8 เท่า ทำให้ TTW ได้รับการประเมินการกํากับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ประจําปี 2562 ในระดับ “ดีเลิศ" (Excellent) สะท้อนให้เห็นว่า TTW มุ่งมั่นในการพัฒนา CSR ให้เป็นเครื่องมือในการกํากับดูแลกิจการที่ดี เพื่อยกระดับไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นไปตามกระแสการลงทุนทั่วโลก ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ..