เชฟ เอนท่อน มอสสิมาน : The World’s Best Dressed Chef

เวลาเล่าเรื่องงานแต่งกายอย่างครบๆ ผู้คนก็ค่อนกันว่า ใคร้?-มันจะไปใส่เสื้อปลายแขนพับสองชั้นฝรั่งเศสกลัดกระดุมโลหะ แล้วมัดคอตัวเองด้วยแพรผ้า ใส่รองเท้าหนังขัดเงา ไปทำงานอย่างอื่นนอกจากทนายว่าความ กับวาณิชธนาคารค้าเงิน กันได้เล่า...ก็ตอบว่า...เชฟไง_เชฟแบบว่าพ่อครัวตัวเอกนั่นแหละ แต่งครบชุดทั้งกระดุมมือ กระดุมคอ รัดโบหูกระต่าย และใส่เสื้อนอก_ประจำตำแหน่ง (Chef Jacket) กระดุม 2 แถว บัญชาการครัวและลงมือปรุงปรนวิเสทโภชนา_อาหารจานวิเศษให้คนพิเศษของโลกได้รับประชมรับประทาน มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบจนบัดนี้จะ 80 เข้าให้แล้ว

เชฟผู้นั้น...เอนท่อน มอสสิมาน ยอดเชฟร่วมสมัยของโลก

ตั้งแต่เยาว์ เอนท่อน มอสสิมาน ณ สวิตเซอร์แลนด์ เฝ้าดูท่านบิดาเจ้าของภัตตาคาร ปรุงอาหารบริการแขกผู้โหยหิวความอร่อย กลิ่นการปรุงบรรดาเครื่องกับข้าวกับไฟนั้น ตรึงให้เด็กชายวัย 6 ขวบหลงใหล ก้าวเข้าไปสู่พรมแดนลึกลับของโลกอาหาร ในวัยนั้น เขาเริ่มเสกสรรกับข้าวจานแรกด้วยสัญชาตญาณนักปรุง _สปาเก็ทที โบโลญเนส เนื้อสับในเครื่องมะเขือเทศส้มแดง โรยเนยแข็งขูด บริการแก่เพื่อนเด็กและครอบครัว ภายใต้การพยักหน้าหงึกหงักผู้ได้รับชิมว่า_กับข้าวนั้น “ใช้ได้” การปฏิญาณก็เกิดขึ้นกับตัวเด็กชายว่าแต่นี้ต่อไปอาชีวะแห่งตนจะไม่มีเปนอื่นนอกจาก_พ่อครัว 

เขาเดินหน้าความฝันนั้นด้วยการยอมตนเข้าฝึกงานในโรงแรม แบเร่น ของสวิส ด้วยความมุ่งมั่นอย่างไม่สนว่าจะได้ค่าแรงเท่าไหร่ งานหนักที่นี่ กว่าจะได้เลิกก็เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว 

อายุ 16 ได้รับใบประกาศวิชาชีพการครัวชั้น ดิพโพลมา และคว้ารถสปอร์ต 2 ประตูของไทรอัมพ์มาครอบครอง 2 ปีถัดมา ขับมันข้ามไปหาประสบการณ์กับหัวหน้าพ่อครัว_เชฟมือฉมังต่างๆ ในโรงแรมดังๆของอิตาลี 

อายุ 25 ได้รับประกาศนียบัตรหัวหน้าพ่อครัว Chef de Cuisine ผู้อายุเยาว์ที่สุดในประวัติศาสตร์สวิส 

อายุ 28 เปนนายครัว Mitre Chef de cuisine อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ณ โรงแรมดอว์เชสเตอร์อันเลื่องชื่อ คุมหัวหน้าพ่อครัว 132 คน ซึ่งแต่ละคนอาวุโสกว่าทั้งสิ้น บางคนมีประสบการณ์มากถึง 40 ปี_แต่เอาอยู่

หนุ่มเอนท่อนมีแนวทางประจำตัวคือเขาฟังมากกว่าพูด ทุกเช้าพ่อนายครัวตัวเอกของเราจะเดินสัมผัสเขย่ามือลูกครัวทุกคนไม่เว้น_ถามถึงครอบครัว ถามถึงลูก และปัญหาทั้งส่วนตัวและหน้าที่การงาน เขาจำเรื่องของทุกคนได้ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาจากต้นเหตุ และนี่เองก่อให้เกิด TRUST_ความเชื่อมั่นอันนำมาสู่ความศรัทธา ในตัวหัวหน้าอายุน้อย

เอนท่อนเล่าว่า “I am a cook as I cook everyday. But a chef is like a conductor of the symphony บ่งนิยามความหมายคนครัวทำครัวพร้อมอำนวยการเพลงครัว (จากคนครัวอื่นๆ) ให้ลื่นไหลและสอดประสานจนออกมาเปนจานอาหารที่สวยสมบูรณ์_คุมต้นทุนได้_สะอาด_และทันเวลา” 

ต่อข้อถามถึงพวกเชฟนรกที่คอยก่นด่าและกรีดกดดันลูกครัวออกทีวีจนเรตติ้งถล่มทลาย เอนท่อนยามปัจฉิมวัยทอดสายตาอ่อนโยน ผายมือในเเขนเสื้อฝรั่งเศส 2 ชั้นดับเบิลคัฟรีดเรียบกริบกลัดกระดุมแก้วไปยังพวกถกแขนเสื้อทำกับข้าว แล้วโปรยวาจา “No shouting, No screaming- I believe in talking and listening.”

เอนท่อนปฏิวัติวงการอาหารโรงแรมอังกฤษ ให้ทำสดใหม่ ไม่ทำค้างคืนแล้วเอามา รีฮีท_อุ่นใหม่ ได้รับเกียรตินิยมมิชลิน 2 ดาวนอกประเทศ เปนครั้งแรก-ประวัติการณ์ ทำครัวถวายเจ้านายอังกฤษในงานพระราชพิธีสำคัญๆแขกล้นหลาม ทำครัวสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯอีก 5 คน (จิมมี่ คาร์เตอร์ ติดใจเมนูซิกเนเจอร์ Bread & Butter Pudding ถึงขั้นมาขอถุงเปล่าเก็บกลับไปให้พวกที่ไร่ถั่วได้ชื่นเชยรสวิเศษขนมหวานนั้น) รวมถึงเหล่าคนดังชั้น อีลีท ของเกือบทุกประเทศ รวมทั้ง บอริส เยลซิน และ ยัตเซอร์ อาราฟัต

ยามว่างนั้นเอนท่อน หาเวลาคืนกลับให้สังคมด้วยการคิดเมนูว่าเงิน 10 ปอนด์สเตอลิง ทำอะไรอร่อยๆได้คุณค่ากินได้บ้างสำหรับครอบครัวยากจน และทำเมนูแบบเจ้าแจกเปนการกุศลแก่คนยากหลายที สถาบันการประมูลอย่าง Christie’s ถึงขั้นเปิดประมูลดินเนอร์ฝีมือมอสสิมาน หารายได้เพื่อการกุศลก็แล้วกัน

นอกจากเก็บคัมภีร์พงศาวดารอาหารเก่าแก่จนทำพิพิธภัณฑ์ของตนเองได้แล้ว เอนท่อน มอสสิมาน เก็บพาหนะที่วงการรถเก่าของโลกให้การยอมรับว่าใครมีในครอบครองแล้วถือว่าใช่ 1 ใน 2 _อย่าง จากัวร์ อีไทป์ ในตัวถังสีเขียวเฉด บริติชเรซซิ่ง (โปรดอย่าถามว่าอีกหนึ่งคืออะไร_ถ้าไม่ใช่ citroen ds เจ้าหน้ากบลอยได้อย่างพรมเหาะในตำนาน)

หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,527 วันที่ 1 - 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562