'จันทร์ส่องหล้า' สิ้นมนต์ นกกาผู้อาศัยแตกกระเจิง

26 พ.ย. 2562 | 11:06 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3526 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ย.2562 โดย...พรานบุญ

 

'จันทร์ส่องหล้า' สิ้นมนต์

นกกาผู้อาศัยแตกกระเจิง

 

          เสียงพึ่บพั่บขยับปีกดั่งผึ้งแตกรัง นกกาพากันบินจากป่าใหญ่ในจันทร์ส่องหล้าที่อุดมสมบูรณ์ อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ภายหลังที่ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร เพิ่งชนะคดีที่ถูกอัยการฟ้องฐานฟอกเงิน 10 ล้านบาท อันสะท้านปฐพี โดยที่องค์คณะศาลเห็นแย้งว่าควรจำคุก 4 ปี หลังจากนี้รอลุ้นระทึกว่าอัยการจะยื่นอุทธรณ์คดีหรือปล่อยผ่าน...

          พรานฯว่าระทึก แต่ที่ระทึกกว่า คือคดีนี้

          คดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาออกไป จากที่นัดพิพากษาวันที่ 26 พฤศจิกายน เบญจา หลุยเจริญ อดีตอธิบดีสรรพสามิต อดีตอธิบดีกรมศุลกากร อดีตรมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

          น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร

          นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร

 

          น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

          เหตุเพราะเป็นการแสดงความเห็น ไม่ให้ นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร (คุณากรวงศ์) บุตรของนายทักษิณ เสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย จากการได้มาซึ่งหุ้นจาก แอมเพิล ริช กรณีการซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549

          ผลของการพิจารณาว่าการได้มาซึ่งหุ้นของ “โอ๊ค-เอม” ไม่ต้องเสียภาษีครั้งนั้น ทำให้รัฐ กรมสรรพากรสูญเสียรายได้ไปกว่า 7.9 พันล้านบาท

          พรานฯได้ยินจากนังบ่างที่ไปสืบส่องไพรมาว่า คดีนี้ไม่เหมือนคดีพ่อโอ๊คที่รับเงินจากกฤษดามหานคร 10 ล้านบาท ที่หลุดคดีและโล่งอกไปในศาลชั้นต้นเป็นการชั่วคราว

          แต่คดีนี้ยากที่ “หญิงแกร่งมือเดียวคํ้าฟ้า” เบญจา-จำรัส-โมรีรัตน์-กริช ยากพ้นผิด หลายคนอาจต้องร้องห่มร้องไห้ ไอ คุกๆ

          แม้รอบนี้ศาลจะเลื่อนอ่านคำพิพากษา เพราะ “ปราณี” เลขาคุณหญิงพจมานป่วย แต่ครั้งหน้า ระทึกในฤทัยอย่างยิ่ง

 

          จะหันไปพึ่ง พานทองแท้ พินทองทา คุณหญิงพจมาน คงไม่ได้อีกต่อไป

          นกกาที่เคยพึ่งพาต้นไม้ใหญ่ ในกระท่อมใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้าในกลางซอยลึก จรัญสนิทวงศ์ 69 จึงพากันแตกรัง บินหนีบ้านใหญ่แบบตัวใครตัวมัน

          บารมีหาย ร่มเงาที่เคยปกป้องมลาย กลายเป็นภัยเสียแล้ว

          เหตุเพราะคดีนี้ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินว่า“เจ้เบญจา-จำรัส/โมรีรัตน์-กริช” มีความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83 สั่งจำคุกคนละ 3 ปี

          ขณะที่ เลขาคุณหญิงพจมานคนเก่ง “ปราณี” มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 86 มีโทษ 2 ใน 3 ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี

          ศาลอุทธรณ์ไปไกลขนาดว่า พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

          เพราะจำเลยทั้งหมดไม่ให้เก็บภาษีจากพานทองแท้-พินทองทา ไม่ต้องเสียภาษี จากการได้มาซึ่งหุ้นคนละ 164.6 ล้านหุ้น ราคา 1 บาท ขายไปในราคา 49.25 บาท ได้กำไร 48.25 บาท/หุ้น

          ซึ่งคนปกติต้องเสียเงินได้ แต่ พาน-พิณ ลูกนายกฯ ไม่ต้องเสียภาษีสักกระผีก

          เชื่อพรานฯ เหอะ หลังจากนี้ไป “บ้านใหญ่” ไม่คุ้มครองใครอีกต่อไป

            นํ้าไม่ไหล ไฟไม่สว่าง ทางไม่ดี

            หมดบารมี เพราะทักษิณสิ้นมนต์ขลังเสียแล้ว พี่น้องเอ๋ย...