ลอกคราบ
"หุ่นเชิด”บุรีรัมย์!
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ได้นำเสนอรายงานพิเศษเรื่อง การแบน 3 สารพิษ ที่รมช.เกษตรและสหกรณ์ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ และรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ผลักดันอย่างแข็งขัน และจะบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ใครมีอยู่ในครอบครอง มีโทษถึงคุก รายงานของไทยพีบีเอสได้นำเสนอให้เห็นร่องรอย เมื่อ 3 สารพิษ ที่ถูกบังคับให้ต้องยุติการใช้ ก็จะมีสารตัวหนึ่งที่บรรยายคุณสมบัติว่าไม่มีพิษ ไม่มีภัย มาใช้แทน
น่าสนใจตรงที่การแฉข้อมูลของ TBPS บอกว่า สารตัวใหม่ชื่อว่า PICO ที่ขณะนี้เริ่มเร่งเครื่องการตลาด เพื่อให้ทันการทดแทน 3 สารเคมี ซึ่งจะถูกยกเลิกวันที่ 1 ธันวาคมนี้ PICO ผลิตโดยบริษัทหนึ่งซึ่งมีที่ตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แถมไปดูผู้ถือหุ้นบริษัท พบมีนามสกุลเดียวกับพ่อเลี้ยงใหญ่ในภาคเหนือ ที่มีบริษัทก่อสร้างใหญ่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ TPBS ยังระบุว่าเป็นพ่อตาของ “ผู้มีบารมีนอกพรรค” ของพรรคการเมืองหนึ่ง
ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ในสภาจนพรรคการเมืองฝ่ายค้านสะดุด อาจจะเพิ่มชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ส่วนจะเป็นรัฐมนตรีคนใดตกเป็นเป้าที่ 5 ก็ร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน แต่ฝ่ายค้านต้องทำการบ้านเจาะลึกมากกว่านี้ เพราะงานนี้เดิมพันสูง หากเรื่องการแบน 3 สารพิษ ไม่ผ่าน บางคนถึงกับบอกว่าจะออกจากรัฐบาล อะไรเป็นแรงจูงใจถึงกับประกาศ “ทุ่มหมดหน้าตัก”
อีกเรื่องที่เมาธ์กันทั่วตลาดหลักทรัพย์ ว่าถ้านโยบาย “กัญชาเสรี” ประกาศใช้ หุ้นของบริษัท “D” จะพุ่งพรวดๆ เพราะจะเป็นบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์เต็มๆ เพราะสายสัมพันธ์ของบริษัท D กับพรรคการเมืองบางพรรค แถมมีข่าวว่ามีการซุ่มปลูกกัญชาแถวประเทศเพื่อนบ้านไว้รอแล้ว เปิดนโยบายนี้เมื่อไหร่ “กัญชา” โตพร้อมขายทันที
2 เรื่อง 2 รส ว่ากันว่า คนที่ออกหน้าทำ จนทิ้งร่องรอยไว้ให้ “ตามติด” อย่างเสี่ย “อ” เป็นแค่ “หุ่นเชิด” ที่คนบงการเบื้องหลังรู้ว่า “กิเลส” ของหุ่นเชิดคือ “ตำแหน่ง” จึงยอมทำทุกอย่างตาม “คำสั่ง” ของผู้มีบารมีตัวจริง เพราะทุกเรื่องก่อนนำเสนอ ครม. ต้องผ่าน “บุรีรัมย์” ก่อนเสมอ