วิบากกรรม“ซิโน-ไทย” สู้คดีสินบนข้ามชาติ

17 พ.ย. 2562 | 05:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3523 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 17-20 พ.ย.2562 โดย... ว.เชิงดอย

 

วิบากกรรม“ซิโน-ไทย” สู้คดีสินบนข้ามชาติ

 

     กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมา สำหรับยักษ์ใหญ่วงการก่อสร้าง อย่าง บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ 2 ผู้บริหารระดับสูงคือ ภาคภูมิ ศรีชํานิ กรรมการผู้จัดการ และ ราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการ เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐในการกระทำความผิด กรณีเจ้าหน้าที่รัฐ 4 ราย ร่วมกันเรียกรับเงินสินบนจำนวน 20 ล้านบาท จาก บริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด ของญี่ปุ่น ที่รับว่าจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ใช้ท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้า ตลอดจนให้เรือลำเลียงเข้าเทียบท่าเพื่อขนถ่ายชิ้นส่วนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยไม่ชอบ เพื่อหวังเร่งงานก่อสร้างให้ทันการส่งมอบงาน ไม่อย่างนั้น บริษัท มิตซูบิชิฯ จะต้องเสียค่าปรับตามสัญญาถึงวันละประมาณ 11 ล้านบาท

     ตามคำแถลงของ วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลความผิด บริษัท ซิโน-ไทยฯ รวมถึงผู้บริหารบริษัท อีก 2 ราย ปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัท ซิโน-ไทยฯ และผู้บริหารทั้ง 2 ราย ได้ให้ความช่วยเหลือในการกระทําความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในการเรียกรับสินบนจากบริษัทญี่ปุ่น โดยมีการจัดทําสัญญาที่ไม่มีการจ้างงานจริง เพื่อให้บริษัท ซิโน-ไทยฯ จัดเตรียมสินบนเป็นเงินสด 20 ล้านบาท ต่อมามีการมอบเงินสินบนให้กับผู้แทนบริษัทญี่ปุ่นที่สํานักงานใหญ่ของบริษัทซิโน-ไทยฯ เพื่อให้ขนเงินไปยังพื้นที่อําเภอขนอม และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้ง 4 ราย ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่าในช่วงเวลาเดียวกัน เรือลําเลียงก็สามารถเทียบท่าและขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกําเนิดไฟฟ้า ณ ท่าเทียบเรือชั่วคราวโรงไฟฟ้าขนอมได้ แม้ว่าจะไม่มีการแก้ไขเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมเจ้าท่าแต่อย่างใด

     สำหรับ บริษัท ซิโน-ไทยฯ ภาคภูมิ ศรีชำนิ และ ราเกส กาเลีย ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือ ผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 (ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000-40,000 บาท หรือประหารชีวิต) และมาตรา 157 (ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ) ประกอบมาตรา 86 (ต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น

     หลังจากนี้ ป.ป.ช.เตรียมส่งคำวินิจฉัยให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 ราย พร้อมส่งรายละเอียดไปยังผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่รัฐให้ดำเนินการทางวินัยหรือถอดถอนออกจากตำแหน่ง... ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพียงการ “ชี้มูล” เบื้องต้นจาก ป.ป.ช.เท่านั้น ผู้ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหายังมีสิทธิ์ต่อสู้ข้อกล่าวหาในชั้นศาลได้จนถึงที่สุด ...แต่แน่นอนว่านี่คือ “วิบากกรรม” ของ “บิ๊กซิโน-ไทย” ที่ต้องเผชิญ

     สำหรับปริมาณงานในมือ (backlog) ของ บริษัท ซิโน-ไทยฯ ในปี 2562 พบว่า ได้งานไม่น้อยกว่า 9 โครงการ รวมวงเงิน  76,119.2 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล : สายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต, สายสีส้ม(ตะวันออก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี, สายสีชมพู, สายสีเหลือง, สายสีน้ำเงิน ช่วงท่าพระ-บางแค, รถไฟทางคู่ : ช่วงนครปฐม-หัวหิน, ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย, มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา

     ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอรัปชัน (ประเทศไทย) ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ บริษัท ซิโน-ไทยฯ ถูกชี้มูล โดยชื่นชม ป.ป.ช.ที่ชี้มูลบริษัทผู้รับเหมาขนาดใหญ่ เป็นธุรกิจครอบครัวของนักการเมืองใหญ่ด้วย ทำให้ประชาชนมั่นใจป.ป.ช.ขึ้นมาระดับหนึ่ง เมื่อถามว่าบริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นบริษัทที่ได้สัมปทานจากโครงการขนาดใหญ่ของรัฐจะต้องมีมาตรการอะไร อย่างเช่น แบล็กลิสต์หรือไม่ เพื่อป้องกันในอนาคต ดร.มานะ ตอบว่า ในปัจจุบันตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างยังไม่มีมาตรการแบล็กลิสต์ไปถึงจุดนั้น แต่ถ้าเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีพฤติกรรมแบบนี้เป็นเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องพิจารณา ควรแจ้งข้อมูลให้ผู้ถือหุ้นรับทราบ แต่มาตรการลงโทษอื่นๆ ที่จะเข้าไปประมูลงานกับรัฐยังไม่มีมาตรการลงโทษ แต่รัฐบาลควรจะพิจารณามาตรการแบล็กลิสต์ หรือมาตรการที่มีบัญชีรายชื่อบริษัทที่เฝ้าระวัง จับตา เป็นพิเศษว่าเคยมีประวัติแบบนี้เกิดขึ้น อาจจะให้คะแนนน้อยลงหรืออยู่ในชั้นของการจัดชั้นผู้รับเหมา ก็จะเป็นประโยชน์กับภาครัฐในอนาคต

     หันไปดูเรื่องอื่น... ไม่ใช่แค่ชิง “CEO ปตท.” ที่กำลังรอผู้สมัคร เพื่อคัดเลือกเป็น CEO ปตท.คนใหม่ แทน ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ที่จะเกษียณอายุต้นปีหน้าเท่านั้น ข่าวแว่วว่ามีการเดินเกมของ “บางกลุ่ม” แอบอ้างชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่จะส่ง ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ที่อกหักจากโผครม. มานั่งกุมบังเหียนเป็นประธานบอร์ด ปตท.แทน ไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ใครแอบอ้างหรือของจริง ต้องลองเช็ก “เสธ.” ใกล้ตัว “ลุงตู่” กันเอาเอง แต่เรื่องนี้เมาธ์กันจริงจังจากบอร์ดบางคนว่า ไพรินทร์ ชูโชติถาวร จะมานั่งกุมบังเหียน เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นไป

     ปิดท้ายกันที่ ... คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ ดิสนีย์ ประเทศไทย จัดกิจกรรม ‘คิง เพาเวอร์ แอนด์ ดิสนีย์ โฟรเซ่น 2  แมจิคัล เจอร์นีย์’ (King Power and Disney’s Frozen 2 Magical Journey) เนรมิตพื้นที่โดยรอบของ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ อลังการเสมือนฉากในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง “โฟรเซ่น: ผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ” โดยสามารถร่วมสัมผัสโลกแห่งจินตนาการที่เต็มไปด้วยการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นก่อนรับชมภาพยนตร์ที่จะเข้าฉาย ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 - 12 มกราคม 2563 ณ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ตั้งแต่เวลา 11.00– 21.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ เปิดเวลา 10.00 น.) งานนี้ “ฟรี” แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย...