"อยู่ไม่เป็น" หรือ "กรรมไล่ล่า?"

คอลัมน์ที่นี่ไม่มีความลับ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3520 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย.2562 โดย... เอราวัณ

"อยู่ไม่เป็น"

หรือ "กรรมไล่ล่า?"

     จู่ๆ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้สร้างวาทะกรรมใหม่ “อยู่ไม่เป็น”  ขึ้นบน FB เพื่อโปรโมตให้รอติดตามการนัดหมายเปิดใจ วันที่ 16 พ.ย.นี้ เป็นการสร้างคำที่ไม่ต้องวิเคราะห์มากมายก็รู้ว่านี่คือการ จงใจเสียดสี แต่จะจงใจเสียดสีรัฐบาลหรือสถาบันใด คนที่รู้ดีที่สุดคือ ตัวธนาธร เอง เป็นการสร้างวาทกรรมใหม่ ก่อนที่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครส.ส. ว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายหรือไม่ ในวันพุธที่ 20 พ.ย.นี้

     จะ “อยู่ไม่เป็น!” หรือ “เป็นกรรมไล่ล่าธนาธร” เอง ต้องย้อนดู “มูลเหตุ” แห่งเรื่องราวต่างๆ ที่ได้ก่อตัวเป็นมรสุมทางการเมืองให้ตัวธนาธร ว่าเป็นเพราะคนอื่นยัดเยียดให้ หรือเพราะธนาธรสร้างขึ้นมาเอง?

     เริ่มต้นจากคดีการถือครองหุ้นสื่อ บริษัท วี-ลัค มีเดียฯ ที่ไม่มีใครไปสร้างหลักฐานให้ธนาธร แม้แต่น้อย แต่ข้อสงสัย และการชี้แจงแต่ละครั้งของธนาธร ไม่ค่อยตรงกัน จนกกต.ไม่เชื่อว่ามีการโอนหุ้นจริง ก่อนวันสมัครส.ส. จึงส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย และในการไต่สวนของศาล ธนาธรผู้เก่งกาจกลับตอบแต่คำว่า “จำไม่ได้” ถึง 7-8 รอบ ตามมาด้วยการถูกย้อนศรว่าไหนจะโอนทรัพย์สินเข้าสู่บลายด์ ทรัสต์ แต่สุดท้ายเมื่อแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. กลับยังอยู่ครบไม่มีแม้แต่บาทเดียวที่โอนเข้าบลายด์ ทรัสต์ คำถามคือตอนแถลงก่อนการเลือกตั้ง ถูกบังคับให้พูดว่าจะโอนทรัพย์สิน ไปสู่บลายด์ ทรัสต์ หรือแค่โอ้อวดเพื่อหวังคะแนนนิยม และตอนแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช. คนอื่นแจ้งหรืออย่างไร นี่ยังไปต่อรองต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกว่าถ้าพ้นคดีจะโอนทรัพย์สินเข้าบลายด์ ทรัสต์ ทันที (เหม็นขี้ฟัน) 

     ปล่อยกู้ 191 ล้านบาทให้พรรคอนาคตใหม่ก็ไม่ได้มาจากคนไปขุดคุ้ยแต่ประการใด แต่มาจากการ “ขี้โม้” ของธนาธร ที่ไปพูดในเวทีสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) เองว่าให้เงินกู้กับพรรค จนทำให้ ศรีสุวรรณ จรรยา นำเรื่องไปร้องกกต.ว่าขัดต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (แถมตัวเลขให้กู้ตอนพูดกับตอนแจ้งไม่ตรงกัน) ยังมีเรื่องสัญญาจ้างล็อบยี้ยีสต์ต่างชาติ ที่ตัวธนาธรลงนามเอง หาใช่คนอื่นที่ถูกผูกโยงกับพฤติกรรม “ชังชาติ” ที่ปรากฏเป็นระยะๆ รวมทั้งการไปถ่ายรูปคู่กับ โจชัว หว่อง แกนนำต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง จนรัฐบาลจีนต้องแถลงแสดงความไม่พอใจ ถามว่าคนที่ไปถ่ายรูปครั้งนั้นเป็นธนาธร ตัวปลอมหรือ และยังมาโพสต์ลง Social เพื่อหวังความเป็นอินเตอร์ สุดท้ายเป็นการท้าทายความสัมพันธ์กับมังกรจีน

     ความขัดแย้งในพรรคที่ลูกพรรคตบเท้าลาออก แฉการบริหารพรรคแบบ “ชนชั้น” เป็น “เผด็จการ” อยู่ในกำมือ “แก๊ง 5 คน” ความขัดแย้งนี้มาจากคนนอกอย่างนั้นหรือ ก็ล้วนแล้วมาจากภายในทั้งสิ้น

     ส่วนเรื่องที่ถูกดำเนินคดีล้มล้างการปกครองฯ... ก็มาจาก การโพตส์ FB ของตัวเองเช่นกัน หาใช่จากคนอื่นสร้างให้

     ไล่เลียงประเด็นที่ ธนาธร ต้องเผชิญ ผู้อ่านคิดเองได้ว่ามาจากการ “อยู่ไม่เป็น” หรือ “กรรมไล่ล่า” กันแน่!!...