การกลับมาของสวนลอยบาบิโลน

การกลับมาของสวนลอยบาบิโลน-Bosco Verticale

: ดร. สเตฟานี ดัลลี และวนคามแนวดิ่งของ สเตฟาโน่ เบาอิริ่

สำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฝอร์ด ปีกลายนี้ตีพิมพ์ผลการค้นพบร่องรอยของซากอารยธรรมของสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลก (seven wonders) ที่ชาวประชาพากันตำหนิติค่อนว่าเปนเรื่องมโน_จินตนาการของคนโบราณดอกกระมัง มันจะไปมีที่ไหน สวนลอย_ลอยฟ้า แห่งบาบิโลน ที่ว่า กษัตริย์แดนทะเลทรายบาบิโลเนี่ยนสร้างปราสาทปูดาดไปด้วยพรรณไม้ไว้เอาใจมเหสีผู้มาจากแดนไกลกรีนที่ชอุ่มไปด้วยผืนป่า_แก้คิดถึงบ้าน มาบัดนี้หลักฐานโครงสร้างไม่เห็นจะมีใครหาเจอ

และก็_แหม่ ถึงว่ามีตัวปราสาทจริงก็เถิด_เธอเอ๋ย ยุคสมัยพุทธกาลอย่างนั้น จะลากชัก เอา “น้ำ” ขึ้นไปรดสวนต้นไม้ที่ “แขวน” - hanging อยู่กลางอากาศได้ยังไง๊

ฝ่ายคนแต่งตั้งให้สวนลอย hanging garden ในตำนานนี้เปนสิ่งมหัศจรรย์ก็พลันหัวเสีย ทุบโต๊ะลงปัง! พลางเฉลยว่า ก็มันถึงมหัศจรรย์ยังไงเล่า(เว้ย) 55

มาบัดนี้ ดร.สเตฟานี่ ดัลลี แห่งออกซ์ฝอร์ด (ถ้าใช้ ฟ-ฟัน มันจะ ฟอด-ถึงใส่ “ ร์ ” เข้าไปก็ยัง ฟอด บ่งนิยามความหมายเปนหน่วยนับแห่งกิริยาบางประการเกี่ยวแก่จมูกกระทบสูดดอมข้างใบหน้า มิได้เปนคำอ่านของมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งอย่างไร) พบแล้ว ซึ่งหลักฐานหลายประการว่า สวนลอยแห่งบาบิโลนนั้น ตั้งอยู่เหนือเมืองบาบิโลนขึ้นไปอีกตั้งครึ่งพันกิโลเมตร มีศิลาจารึกมีฐานรากต่างๆ และมีชัยภูมิเปนฐานภูเขาที่สูงพอจะ “แขวน” สวนไว้ในอากาศ โดยไม่ต้องก่อร่างชั้นตึกทางวิศวกรรม

รายงานของ ดร.สเตฟานี่ นี้ชี้ว่า ผู้สร้างก็ไม่ใช่กษัตริย์บาบิโลเนียนคนในตำนานผู้นั้น หากแต่เปนกษัตริย์อัสซิเรียนอีกองค์หนึ่งที่ตั้งเมืองใหม่ชื่อบาบิโลนใหม่_new Babylon ส่วนกระบวนการชักน้ำจากที่ต่ำขึ้นเลี้ยงพรรณพฤกษานั้น_พรรณนี้คือผิวไม้ ไม่ใช่พันธุ์ไม้) -ใช้พรรณเพราะมันต้องเลี้ยงผิวให้สวยเต่งด้วยน้ำที่มากพอ ไม่ใช่รดแค่พอรอดซังกะตายไปวันๆ_อ้าว_สวนกษัตริย์ราชินีนะคุณ แค่รอดไม่พอ_ต้องงามเปล่งปลั่งสิ] ดร. ก็ยังไม่สรุปอีกว่าจะเปนกลไกเช่นใดเพียงแต่พบท่อน้ำดินเผาขนาดใหญ่อยู่ตรงนั้น _คาดเอาไว้ว่าด้วยแรงงานทาสในสังคมยุค Labor intensive ควรจะกระทำหน้าที่อย่างว่าขนน้ำขึ้นไปรดประพรมกันทั้งวันคืน_55 มันก็อาจจะระคายเคืองเบื้องพระเนตรยามทรงทอดเชยชมดมกลิ่นพฤกษานานาพันธ์ุ นั้นอยู่มิใช่น้อย

งานนี้หากว่าถึงมืออาคีมีดีส นักปราชญ์กลศาสตร์กรีกเฮเลนฯ คงไม่คณามือ ค่าที่นอกจากจะทำยูเรก้า เปนประวัติศาสตร์แล้ว ท่านยังทำเกลียว Helix ไว้ไขขนน้ำจากที่ต่ำขึ้นที่สูงด้วยดังรูป

ใช้ทาสคนทาสสัตว์มาไขเกลียวส่งน้ำง่ายกว่า ลับสายตาและไม่ระคายจมูกเจ้าท่าน

มาบัดนี้โลกของเราเข้าเขตเเล้งเรื้อด้วยภัยภูมิอากาศอย่างว่าโลกร้อน หลายภูมิภาคจะกลายเปนทะเลทรายเข้าไปทุกวัน การกลับมาของสวนลอยบาบิโลนนั้น อาจเปนสิ่งจำเปนต่อมนุษยชาติ ผู้พาตนเองขึ้นไปพำนักอาศัยอยู่ในแท่งสูง

ดร. ประทีป วงศ์บัณฑิต ระหว่างผ่านอ่าวปากกะแดะ ท่าทองกาญจนดิษฐ์ รำเพยถึงข่าวการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ_แอร์คอนดิฉึ่น_นอกอาคารของวงศ์ดูไบวานนี้ เพื่อดับร้อนแผดผิวแก่ปวงพลโลกที่พำนักอาศัยอยู่กลางนครทะเลทรายแห่งนั้น_เชิงว่าขุดน้ำมันมาเผาเปนไฟฟ้าเอาไปหมุนความเย็นชั่วคราว ท่าจะเปน Zero Sum Game-ผลลัพธ์เท่าเดิมเพิ่มเติมคือภาระ55

ข้างในมิลานเมืองหลวงแฟชั่นและเงินตราแห่งอิตาลีที่ระคนขวักไขว่ไปด้วยผู้คนจอแจ สเตฟาโน่ เบาอิริ่ สถาปนิกใหญ่อิตาลี convinces- ชักใจให้นายทุนของเขาเชื่อมั่น ว่ามันถึงเวลาจะพาเอาต้นไม้พรรณพฤกษาขึ้นไป“แขวน”บรรณาการเปน_วนคาม_แก่ผู้ซื้ออาศัยคอนโดมิเนียมระฟ้าได้แล้ว

อาคาร บอสโก เวอติคาเล่ _ ป่า-แนวดิ่ง ของ เบาอิริ่นี้หากวิเคราะห์ให้ดี จะพบว่าไม่เพียงแต่สร้างคุณภาพการอยู่อาศัยที่ดีขึ้นแก่เจ้าของห้องที่พักอาศัยได้มีวนา-ป่า_ในคาม-บ้าน พรางเเสงหลบร้อนชื่นใจและชื่นตาแต่เท่านั้น หากยังสร้างผลกระทบภายนอกฝ่ายบวก_positive externality แก่ชุมชนและสังคม ได้มีสวนลอยฟ้า ที่ผลิตออกซิเย่น และความร่มรื่นแก่เมืองและผู้คนภายนอกอีกด้วย

กลางเดือนพ.ย. นี้ สภาสถาปนิกของไทย จัดงานใหญ่ชื่อว่า Act Forum ที่เมืองทองธานี มีคนในวงการใช้สมองสองมือสร้างสรรค์งานพัฒนาที่มีนัย สำคัญต่อโลกรับคำเชิญมาปาฐกทัศนะมากมาย : บาบารา แบรี่_เจ้าแม่วาดแบบเครื่องเรือนคลาสสิกระดับโรลส์รอยซ์ของเฟอร์นิเจอร์_เบเคอร์ก็มา ปิแอร์ แคลมองด์ ฝรั่งเศสผังเมืองที่จีนขอตัวไปทำแบบเมืองใหม่ฉงชิ่งก็มา แน่นอนว่า สเตฟาโน่ เบาอิริ่ วนคามแนวดิ่งแห่งมิลาน ก็มา

หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,519 วันที่ 3 - 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562