เหยื่อแชร์ลูกโซ่ หายนะบนความโลภ

30 ตุลาคม 2562

คอลัมน์ปฎิกิริยา..บิ๊กอ๊อต  ปากพนัง  

 

ยุคสมัยเปลี่ยนไป จากโลกแมแคนิกสู่โลกดิจิทัล แต่ความโลภไม่เคยเปลี่ยนไป  ยิ่งไปกว่านั้นคนเดี๋ยวนี้เรียนสูงแต่ เชื่อคนง่าย

 

ถามว่าโง่มั้ย คนที่หลวมตัว เข้าวงโคจรแชร์แม่มณี  แม่มะนาว และอีกหลายๆแม่  ผมคิดว่าพวกเขาไม่โง่นะ  เพียงแต่วังวนกิเลส ความโลภ พ่ายแพ้ต่อเกมออมเงิน ดอกเบี้ย 93 % ซึ่งเป็นสิ่งล่อตาล่อใจอย่างยิ่ง สติจึงถูกบดบังด้วยกิเลส สมองสั่งการเร็วกว่าจิตสำนึก กว่าจะรู้ตัวอีกที กระโจนเข้ากองเพลิงที่แม่มณี ก่อไฟรอไว้แล้ว  

 

แม้จะเคยได้ยินปาว ๆจากสื่อต่าง ๆ ของสถาบันการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายย้ำใส่สมองทุกๆวันว่า การลงทุนมีความเสี่ยง

 

จากกรณี คดีหลอกลงทุนออมเงิน  แม่มณี" หรือ นางสาววันทนีย์ ทิพย์ประเวช(นาเดียร์) อายุ 28 ปี พื้นเพเป็นชาวอุดรธานี ผู้มีหลายบทบาทเหลือเกิน ทั้งพริตตี้ ขายตุ๊กตาออนไลน์ เจ้าของธุรกิจความงาม ผู้สร้างภาพยนตร์ จนมาถึง เท้าแชร์ออนไลน์หมื่นล้าน ที่ทำให้เธอโด่งดัง เป็น“พลุแตก”สนั่นทั้งออนไลน์ ออฟไลน์

 

โดยเผยภาพร่วมเฟรมคนดังๆ ซึ่งนอกจากเอาทุนมาสร้างหนัง มีชื่อเป็นนายทุน ทำซีรีส์ มีภาพรับรางวัลต่างๆ ทำอีเวนต์ยิ่งใหญ่ จ้างดารามา ร่วมเฟรมดารา เซเลบ แล้วยังเคยไปออกรายการดังๆ และช่องยูทูบดัง โดยพบเน็ตไอดอลดังๆ 

 

ต้องยอมรับว่านางสร้างภาพ ดราม่าได้แนบเนียนทั้งนอกจอ ในจอ(โซเชียลมีเดีย)

 

อยากบอกไว้ ที่นี้ว่า ขอให้จำไว้ สิ่งที่เห็น...ไม่ใช่สิ่งที่เป็นเสมอไป แม่มณีแหกตาและนี่คือผลงานของแม่นาง

 

แม่มณี ได้สร้าง โดมิโน ลวงโลก บนสื่อออนไลน์ และปฏิบัติการได้อย่าง “มาไว... ไปไว...” เข้ามาหากิน และขยายเครือข่าย “แม่ๆ” หลายกลุ่มกินเปอร์เซ็น ออม 1,000 บาท ผลตอบแทนกลับคืน 1,930 บาทภายใน 1 เดือน แม่เล็ก ๆก็หัก ไป 50% ลดหลั่นไป 

 

โอ้แม่เจ้า...เดือนเดียวได้คืนเกือบ 100 % ยอดยิ่งสูงผลตอบแทนยิ่งสูงสินะ

 

ถ้าถามว่าคนที่เล่นรู้ไหม ผมก็ว่ารู้อยู่เต็มอกครับว่าต้องล้มเข้าสักวัน ดอกเบี้ย 93% ต่อเดือน (1,116% ต่อปี)  วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีระดับโลก คงต้องมาคุกเข่าขอเป็นศิษย์เลย เพราะเขาทำกำไรได้สูงสุดแค่ 20% เอง

 

แต่ละคนก็คิดว่าตัวเองคงไม่ซวยขนาดนั้นหรอก คงไม่ล้มในตอนนี้หรอก หวังจะเล่นครั้งเดียวรวยยาวแปดชาติ ที่ไหนได้ไฟไหม้คากองเพลิงชาตินี้เลย

 

ข่าวจากวงลับไม่เป็นที่เปิดเผย ระบุแม่นางมณีเริ่มวางเบ็ดหลอกเหยื่อมาตั้งแต่ 3-4 ปีก่อนแล้ว มีเพจหลายเพจเริ่มเตือนกันเมื่อ 2 ปีก่อนแต่จุดไม่ติดเพราะคนโลภเยอะมาก เจอถล่มจนปลิวกระจาย จนมาต้นปีนี้ก็รวมตัวกันเตือนภัยอีกรอบ คราวนี้จุดติดเพราะแม่มณีเริ่มเอาเงินไปใช้จ่ายแบบบ้าคลั่งเพื่อฟอกเงินและเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินถ่ายโอนไปหมด 

 

เห็นได้จากความอยากโอ้อวดของนาง ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ซื้อรถหรู ฯลฯ แล้วโพสต์ลงโซเชียล ผู้เสียหายนี่ไม่ค่อยอยากให้เรียกร้องนะเพราะรู้ทั้งรู้ว่าอะไรคืออะไรแต่โลภไง กลัวไม่ได้เงินคืน ขืนฟ้องตำรวจอาจชวด เห็นอยู่เต็มอกว่าเอาเงินฉันไปใช้ ช้ำใจอยู่ในอก แต่ทำอะไรไม่ได้

 

เพิ่มเติมจากข้อมูลที่ผมได้ติดตามในสื่อโซเชียลต่าง ๆ พบเรื่องที่ประหลาดใจว่า ผู้เสียหายแต่ละท่านลงทุนไปอย่างต่ำๆ 2แสนบาท บางคนสูงถึงหลัก3 ล้านบาท (เงินเค้าเองนะไม่ได้ไปรับใครมาอีกต่อหนึ่ง) คือตอนนี้ประชาชนชาวไทย มีเงินเก็บพร้อมจะมาลงทุนคนละเป็นแสนเลยหรือ  สำหรับผมคิดว่าเงินแสนมันอักโขอยู่นะในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้คิดว่าเศรษฐกิจบ้านเราไม่ใช่ไม่ดีอย่างที่คิด แต่เงินมันไปอยู่ผิดที่ผิดทาง ไม่อยู่ในระบบกลับถูกโยกหรืออำพราง 

 

ในที่สุดโดนหมายจับจนได้ ความแตกเมื่อเธอขาดการติดต่อผ่านทางโลกโซเชียล ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียหายหลายรายในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท ได้เข้าแจ้งความเรียกร้องความเสียหายโดยล่าสุดตำรวจอุดรธานีอายัดเงิน  “แม่มณี” 2 บัญชี ก้อนแรก 10 ล้านบาท  หลังสืบพบผู้ต้องหาแอบไล่ซื้ออาคารพาณิชย์ในทำเลทองที่ จ.อุดรธานี อีกรวมมูลค่า 15 ล้านบาท และได้ออกหมายจับแม่มณี หรือ นาเดียร์- วันทนีย์ ทิพย์ประเวช วัย 28 ปี และ แฟนหนุ่มนักดนตรี วัย 20 ปี 

 

ในฐานความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

 

แต่ว่าโจรก็คือโจร ย่อมไม่ยอมให้ถูกจับได้ง่าย ๆหรอก อันนี้ต้องฝากความหวังกับตำรวจไทย 

 

หากคุณมีอายุ เลข 5 คงจำคดีแชร์สะท้านเมือง “แชร์เสมาฟ้าคราม” ปลายปี 2529 หรือคดีมหากาพย์แชร์ลูกโซ่ก่อนหน้านั้นอย่าง “แม่ชม้อย” เท้าแชร์น้ำมัน ที่ศาลตัดสินจำคุก นางชม้อย ทิพย์โส เป็นเวลาถึง 150,000 ปี(แสนห้าหมื่นปี)ตามจำนวนความผิดที่กระทำ แต่ทว่าโทษสูงสุดตามกฎหมายของคดีคือ 20 ปี ปรากฏว่า นางชม้อย ทิพย์โส ติดคุกเพียง 7 ปี ก็ได้รับอิสรภาพใช้ชีวิตนอกคุกได้ แต่ส่วนการให้หนี้ จะมีลูกหนี้กี่คนรู้ว่าเธอออกมาแล้ว จะได้ตามทวงหนี้ 

 

อันนี้ผมตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เล่นแชร์นี้...ฮา...

 

ส่วนคนรุ่นหลัง คงไม่รู้จักหรอก ที่ขอกล่าวรำลึกถึงแชร์แม่ชม้อย เพราะเป็นคดีที่โด่งดังมากเมื่อ 40 ปีก่อน ข่าวออกมาทุกวัน แต่ละคนที่เล่นแชร์เป็นคนทำงานเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่ามีสัมมาอาชีพ สมัยนั้นการฝากเป็นหมื่นถือว่าสูงทีเดียว 

 

ก็แค่อยากจะย้ำว่าไม่ว่ายุคไหนความละโมบ- ความโลภไม่เคยหนีไปจากใจเรา มีแต่สติที่เราควรระลึกยับยั้งชั่งใจ อะไรที่ได้มาง่ายก็มักจะไปง่าย

 

จากแม่ค้าขายตุ๊กตา เสื้อผ้าเด็กออนไลน์ พริตตี้ กลายเป็นเซเลบ ผู้สร้างหนังเธอทำอะไรได้ก้าวกระโดดจริงๆ แต่...เธอเอาเงินใครมาทำครับ แรกๆคงเป็นของเธอ แต่หลัง ๆ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ขายของออนไลน์จะมีเงินเป็น 100 ล้านบาท แต่ยอมรับครับว่าทึ่งนะ ลงทุนสร้างภาพ สร้างเครดิตเอาไว้เยอะมาก กว่าที่ความน่าเชื่อถือจะมาถึงจุดที่ทุกคนยอมเอาเงินมาให้

 

เรื่องนี้มันสะท้อนหลายอย่าง อยากรวยอย่ารวยทางลัด โดยเฉพาะฉ้อโกงเขามาไม่มีทางรวยได้นาน เอาเงินเขามาซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเสวยสุขบนความทุกข์คนอื่น บาปกรรมมีจริง

 

ความโลภไม่เคยให้คุณ ไม่มีใครทำให้คุณรวยเงินล้านแล้วจนลงด้วยเงิน 93 %นอกจากตัวคุณเอง

 

ขณะเดียวกัน เราต้องยอมรับว่า กฎหมายของประเทศไทยหลายฉบับมีความล้าหลังมากๆ กรณีแม่ชม้อยเป็นตัวอย่าง 

 

ดังนั้นรัฐต้องปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้เสียหายแม้จะมีความโลภ ก็ตาม โดยต้องไปแก้กฎหมาย ให้จำคุกแบบไม่มีเพดาน  ไม่ใช่ศาลตัดสิน 60 ปี แต่กฎหมาย กำหนดติดได้ไม่เกิน 20 ปี แต่ติดจริงๆ แค่ 6 -7 ปี 

 

ก็ออกมาแล้วแบบนี้ใครมันจะไปกลัว

 

แว่วว่ารัฐบาลนี้กำลังเร่งแก้ไขกฎหมายนี้ ก็นับเป็นข่าวดี ขอให้ได้ไช้เร็วๆ ใครที่เป็นผู้เสียหายไปแล้ว อาจต้องทำใจว่าโอกาสเหลือน้อยที่จะได้กลับคืน เพราะมันถูกแปร

ธาตุไปแล้วแต่ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง 

 

ผมเชื่อว่า ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรม ต้องหาทางเยียวยา แต่ตัวท่านเองต้อง  “หลาบจำไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหาย หรือยังไม่เป็นก็ตาม