‘ชิมช้อปใช้’กระตุ้นศก.ได้ผล แต่ปีหน้าศก.ขาลงทั่วโลก!!

26 ต.ค. 2562 | 03:00 น.

 

โลกเราเวลานี้กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติทางเศรษฐกิจนักลงทุนทั่วโลกก็กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน...

การเมืองที่สหรัฐฯ อิตาลี อาร์เจนตินา และปัญหาการขอแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ปัญหาความรุนแรงในตะวันออกกลาง ปัญหาความรุนแรงของม็อบที่ฮ่องกง และ ฯลฯ

ส่วนไทยเรายังมีกินมีใช้อยู่ครับ การเมืองยังถือว่านิ่ง แม้คลื่นใต้นํ้าจะเดือดปุดๆ แต่บิ๊กตู่พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังเอาอยู่ รวมทั้งสามารถประคับประคองเรือเหล็กเสียงปริ่มนํ้าให้แล่นฝ่าคลื่นลม/และพายุไปได้เรื่อยๆ เพราะเศรษฐกิจระดับบนของประเทศยังไปได้!!

ไทยเราโชคดีที่ค่าเงินบาทมั่นคง ซึ่งคนไทยทั่วไปไม่รู้หรอก ว่า ชาติอื่น?เขาลำบากกันแค่ไหน แต่เรายังสามารถกระตุ้นการหมุนเวียนของรายได้/และรายจ่ายของประชาชนได้ ในขณะที่หนี้ครัวเรือนทั่วโลกสูงมากเหลือเกิน

เพียงแต่รัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์และยุทธวิธี รวมทั้งหาวิธีอะไร?มากระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากแคมเปญชิม-ช้อป-ใช้ได้รับความนิยมจากพี่น้องคนไทยอย่างล้นหลาม จนครม.ต้องอนุมัติให้เปิด เฟส 2 เพื่อเก็บตกคนที่สนใจซํ้าอีกรอบ

ระบบเศรษฐกิจต้องมีการหมุนเวียนของรายได้และรายจ่ายของภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ภาครัฐทั้งในประเทศและต่างประเทศ (ตรงนี้ คือหัวใจที่ผู้เขียนต้องการให้ท่านผู้อ่านยึดเป็นจุดสำคัญของเรื่องนะครับ)

 

หมายความว่า การที่ประชาชนมีงานทำมีรายได้นำมาใช้จ่ายในตลาดสินค้าและบริการ จ่ายภาษีให้ภาครัฐ หรือหากมีเงินเหลือก็ออมในสถาบันการเงินหรือลงทุนในธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ฯ ซื้อหุ้นและกองทุนต่างๆ

ภาคธุรกิจมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ โดยการนำเงินลงทุนจากสถาบันการเงินมาผลิตสินค้าและบริการ จ่ายดอกเบี้ย จ่ายค่าแรงจ่ายตลาดปัจจัยการผลิต อีกทั้งจ่ายภาษีรายได้ ภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาครัฐ

ขณะที่ภาครัฐมีรายได้จากภาษีต่างๆ ก็จะนำเงินไปใช้ในการสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนการส่งเสริมการควบคุมให้ภาคครัวเรือน/ภาคธุรกิจมีการสร้างรายได้เป็นรายได้ประชาชาติเพื่อวัดเป็นผลผลิตมวลรวมของประชาชาติหรือ GDP : Gross Domestic Product ที่เป็นตัววัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

เช่นเดียวกับสงครามการค้าของสหรัฐฯกับจีน และของสหรัฐฯ กับยุโรป ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจโลกรวมทั้งไทย ที่ถดถอยมานานไม่สามารถโงหัวขึ้นได้ในระยะอันใกล้...

 

ซํ้าร้ายกว่านั้น ถ้าผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ไม่มีความคืบหน้าก็ยิ่งจะทำให้เศรษฐกิจถดถอยไปเรื่อยๆ ยิ่งการเจรจายืดเยื้อไปนานเท่าไหร่ หรือถึงสิ้นปี ปีหน้าก็ถือว่าเป็นเศรษฐกิจขาลงอย่างชัดเจน ส่วนจะแตะ (พื้น) แรง หรือแตะค่อย ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่างอื่นประกอบด้วย

แต่ยังไงก็ต้องอดทนปีหน้าอีกปี (เป็นอย่างน้อย) “วิกฤติทางเศรษฐกิจจึงจะค่อยๆ ดีขึ้น ต่อไปนี้ก็ต้องมาลุ้นกันว่ารัฐบาลจะมีกลยุทธ์อะไร หรือใช้วิธีอะไรมากระตุ้นเศรษฐกิจให้หวนกลับมาเหมือนเดิมอีก หลังจากมาตรการชิม ช้อป ใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่งแล้ว!!

 

คอลัมน์อยู่กับปัจจุบัน โดย พงษ์ศักดิ์ ศรีสด

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,517 วันที่ 27-30 ตุลาคม 2562

‘ชิมช้อปใช้’กระตุ้นศก.ได้ผล  แต่ปีหน้าศก.ขาลงทั่วโลก!!