รัฐต้องกล้าแบน 3 สารพิษอันตราย

13 ต.ค. 2562 | 07:10 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3513 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 13-16 ต.ค.2562 โดย... ว.เชิงดอย


รัฐต้องกล้าแบน 3 สารพิษอันตราย

 

          .....เป็นเรื่องเป็นราวที่ยืดเยื้อมายาวนาน สำหรับการเรียกร้องให้ยกเลิก “3 สารพิษอันตราย” ทั้ง “พาราควอต-คลอร์ไพรีฟอส-ไกลโฟเซต” ที่ผ่านมาไม่ว่ารัฐบาลไหนๆ ไม่มีใครกล้าสั่งยกเลิกให้ใช้เสียที ทั้งๆ ที่มีอันตรายส่งผลเสียต่อเกษตรกรและประชาชนทั่วไป มีผลต่อการเกิดโรค ทั้ง เนื้อเน่า มะเร็ง พาร์กินสัน ทั้งทางตรง ทางอ้อม เฉียบพลัน จนมีทั้งผู้ป่วยและเสียชีวิตจากการใช้สารเคมีเกิดขึ้น

          .....“ต้องแบนสารเคมีทั้ง 3 ตัวแน่นอน เพราะเราไม่ต้องการรักษาผู้ป่วยจากสารเคมีเหล่านี้” คำยืนยันจาก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและเจ้ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้งยังได้กำชับไปยังโรงพยาบาล และหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ที่ขึ้นป้ายต่อต้านสารเคมี ให้คงขึ้นป้ายต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุดและทราบผลการประชุมของ “คณะกรรมการพิจารณาปัญหาสารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร” แต่หากผลการประชุมออกมาไม่ดีก็ขอให้ขึ้นป้ายคัดค้านเอาไว้อย่างนั้นต่อไป

          .....“กระทรวงสาธารณสุขชัดเจนมาตลอดว่า ไม่เอาสารเคมี เพราะข้อมูลทุกกรมตรงกันหมดว่าต้องแบนสารเคมีทั้ง 3 ตัว เพราะเราไม่ต้องการรักษาผู้ป่วยจากสารเคมีเหล่านี้ ซึ่งเป็นโรคที่ป้องกันได้ ส่วนตัวผมไม่กังวลกับผลโหวตในครั้งนี้ และไม่ต้องมากดดันกระทรวงด้วย ระดับนี้ไม่มีกลัวอิทธิพลโหวตไม่เอาสารเคมีแน่นอน” อนุทิน ชาญวีรกูล ยํ้า
รัฐต้องกล้าแบน 3 สารพิษอันตราย
          ..... คณะทำงานเพื่อพิจารณาความเห็นของ ส่วนรัฐ ผู้นำเข้า เกษตรกร และผู้บริโภค มีมติชัดเจนแล้วว่าให้ยกเลิกสารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร 3 สารดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้เป็นต้นไป เหลือเพียงนำเข้า “คณะกรรมการวัตถุอันตราย” ที่มี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน ที่จะประชุมกันวันที่ 27 ตุลาคมนี้ว่าจะมีมติรับลูก “แบน” สารพิษดังกล่าวหรือไม่...งานนี้ “ว.เชิงดอย” ยกมือสนับสนุนเต็มที่ให้ยกเลิก “3 สารพิษอันตราย” เพราะชีวิตของเกษตรกรและประชาชน สำคัญกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของ “ยักษ์ใหญ่” เป็นไหนๆ และขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลขอให้คำนึงถึง “ชีวิต” ของประชาชนเป็นสำคัญด้วย
    

          ..... ไปต่อกันอีกเรื่อง “ชีวิตดีแล้ว มั่นคงมาก ไม่จำเป็นต้องเอื้อธุรกิจของครอบครัวหรือของใคร ถ้าไม่เอื้อของตัวเองแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไปเอื้อใคร และจะใช้ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมดที่รักษาผลประโยชน์ให้บ้านเมือง รับมือกันให้อยู่ก็แล้วกัน ใครกันแน่ที่จะเอาเปรียบรัฐ ใครกันแน่ที่พยายามเลี่ยงไม่ทำตามผลของการประมูล ใครกันแน่ที่พยายามขอให้รัฐผ่อนปรนเพิ่มประโยชน์ให้ตัวเอง ไม่ต้องไปบีบสื่อให้ออกข่าว งานนี้ง่ายมาก ทำตามเงื่อนไขที่รัฐประกาศไว้ ไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องจ่าย เอาปากกามาด้ามเดียวแล้วเซ็นสัญญา กล้าๆ หน่อย พร้อมสนับสนุนทุกอย่างให้ทำงานโดยสะดวก ราบรื่น ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่พูดเยอะ เจ็บลิ้นไก่” นี่คือคำประกาศของ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวสารมาตลอดน่าจะพอเดาออกว่า “เสี่ยหนู” หมายถึงใคร และเรื่องอะไร คงไม่ต้องนำมาขยายความให้เสียเวลา

          .....หันไปที่เรื่องราวดีๆ ของ “การบินไทย” สายการบินแห่งชาติ ซึ่งต้องยอมรับว่านักบินและงานบริการบนเครื่องบิน เป็นส่วนที่สำคัญและเปรียบได้ดั่งหัวใจธุรกิจของ “เจ้าจำปี” ในที่สุดก็คลอดออกมาซะที หลังจากอุ้มท้องตั้งครรภ์อยู่นาน สำหรับโผรายชื่อแต่งตั้งผู้ที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจในการเซ็นต์คำสั่งแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงในสายปฏิบัติการ ก็ขอแสดงความยินดีกับ น.ต.สรเดช นามเรืองศรี (กัปตันจ๋อ) รองก.ก.ผอ.ใหญ่สายปฏิบัติการ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเบอร์ 1 ทางด้านฝ่ายบินและมีผลทันทีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา นักบินท่านนี้รู้จักกันดีว่าเป็นศิษย์เก่า ร.ร.สาธิตจุฬาฯ สมัยที่อยู่กองทัพอากาศยังเป็นนักบินขับไล่ F5 และ F16 จบนายเรืออากาศรุ่น 26 (เตรียมทหาร รุ่น 19) เป็นผู้ที่มีลักษณะความเป็นผู้นำสูงและโดดเด่นมาตั้งแต่สมัยเรียนระดับมัธยมศึกษา เพื่อนฝูงรักใคร่และถือว่าประสบความสําเร็จคนหนึ่งในรุ่น!!

          .....ในส่วนของงานบริการบนเครื่องบิน ก็มีการแต่งตั้ง สุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ (พี่หน่อง) ผอ.ญ.ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่นี้มา 1 ปีเต็ม เป็นลูกหม้อที่ทำงานมา 36 ปี และเติบโตมาจากการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน...งานนี้บรรดาลูกเรือแอร์ สจ๊วร์ตต่างได้เฮและดีใจกันถ้วนหน้า ที่เห็นหัวหน้าใหญ่ซึ่งเป็นลูกหม้อได้นั่งเต็มเก้าอี้และได้กัปตันนักบินเป็นหัวเรือใหญ่ ที่พร้อมจะร้อยดวงใจทุกดวงในสายปฏิบัติการเพื่อช่วยกันพัฒนาและสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีจี เพราะงานบริการบนเครื่องบิน รวมถึงแอร์ สจ๊วร์ตถือเป็นจุดแข็งและจุดเด่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ไทยมาตลอด จนใกล้จะฉลองครบ 60 ปีของพรีเมียมแอร์ไลน์แห่งชาติ ในปี 2563 นี้ 
    

          .....พร้อมแล้วสำหรับการเปิดให้จองโครงการ “เมทริส พัฒนาการ-เอกมัย” มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท ของ บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบ High Rise ภายใต้แบรนด์ “METRIS” ย่านทำเลพัฒนาการ ฝั่งขาเข้าเมือง กับคอนเซ็ปต์ “Mid-Century Modern” รองรับการอยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านผ่านสมาร์ทโฟน ขณะที่ศักยภาพของทำเลเลือกไปไหนก็ง่ายดาย เพียง 5 นาที ถึงแหล่ง lifestyle คนเมืองอย่างเอกมัย ทองหล่อ ห่างจากทางด่วนเพียง 100 เมตร และ 900 เมตร จาก Airport Link รามคำแหง โครงการมีทั้งหมด 341 ยูนิต ขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ 30-31.5 ตร.ม. และขนาด 2 ห้องนอน พื้นที่ 53.5-62 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท จองและเป็นเจ้าของห้องได้ผ่านฟีเจอร์แชตบอตบน Facebook Messenger โปรแกรมตอบกลับอัตโนมัติ สำหรับ Online Booking โดยเฉพาะ เปิดให้จองวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลา 12.00-16.00 น. เพียงวันเดียวเท่านั้น ห้ามพลาด!!!

          .....ปิดท้าย...เปลี่ยนโฉมแล้วสำหรับ NTT LTD. ประกาศรวมบริษัทไอทีชั้นนำ ไดเมนชั่น ดาต้า, เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ และเทรนนิ่ง พาร์ทเนอร์ส อย่างเป็นทางการในประเทศไทย กัมพูชา เมียนมา และลาว ภายใต้การนำทัพของ สุทัศน์ คงดำรงเกียรติ