คอลัมน์ฐานโซไซตี ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,502 ระหว่างวันที่ 5-7 ก.ย.2562 โดย... พริกกะเหรี่ยง
ลุ้นต่อยก 2
"เซ็นทรัล" ชน "ทอท."
ปมเซ็นทรัล วิลเลจ
ในที่สุดก็หาทางลงอย่าง “ซอฟต์แลนดิ้ง” หลังเปิดศึกช้างชนช้างตั้งแต่คืนวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ระหว่าง “เซ็นทรัล” กับ “ทอท.” ถึงข้อพิพาทไหล่ทางถนนหมายเลข 370 ทางหลวงแผ่นดินทางเข้า-ออกโครงการ “เซ็นทรัล วิลเลจ” ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำสั่ง “คุ้มครอง” ออกมาอย่างเฉียดฉิวเมื่อบ่ายวันที่ 30 สิงหาคม ทำให้ทอท.ต้องรีบรื้อถอนเต็นท์-แบร์ริเออร์ สิ่งกีดขวาง ออกจากพื้นที่ถนนเจ้าปัญหาในทันทีทันใด “ลักชัวรีเอาต์เลต” แห่งแรกของเมืองไทยจึงเปิดบริการตามแผนอย่าง Smooth as Silk
หลังค่าย “เซ็นทรัล” ดับเครื่องชนขอพึ่งบารมีศาล และลุ้นทะลึก! กันมาตลอด 8 วันเต็มก่อนเปิดโครงการ ย้อนไปดูคำตัดสินของศาลปกครองคุ้มครอง “ซีพีเอ็น” หรือเซ็นทรัลวิลเลจ หลักๆ สรุปได้ว่า 1. ทอท.เป็นเพียงหน่วยงานที่ได้รับสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ 2. ทอท. มีหน้าที่ดูแลรักษามิให้บุคคลใดมารบกวนครอบครองเท่านั้น มิได้มีอำนาจอื่นที่เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ 3. ซีพีเอ็นทำทางเชื่อมและใช้ทางเชื่อมเข้า-ออกและใช้สาธารณูปโภคพื้นฐาน มิได้มีลักษณะรบกวนการครอบครองในที่ดินที่เป็นข้อพิพาท
ข้อที่ 4 การกระทำของ ทอท.ทำให้ ซีพีเอ็น ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ ผู้ประกอบการกว่า 120 รายไม่สามารถเข้าพื้นที่เช่าได้ ซึ่งมีนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก ที่เป็นคู่สัญญา ทำให้เกิดความเดือดร้อนเสียหาย กระทบต่อภาพลักษณ์การลงทุนของประเทศ 5. ทอท. อ้างว่าใช้ทางเชื่อมทำให้ส่งผลกระทบต่อโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ทั้งทางด้านการเงิน เศรษฐกิจและบริการ การจราจรที่หนาแน่นเนื่องจากปริมาณรถที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้า ราว 17,000 คนต่อวัน เป็นอุปสรรคต่อผู้โดยสาร สายการบินและลูกเรือ เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น 6. ปัจจุบันการใช้ที่ดินพิพาท เป็นทางเข้า-ออก ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายตามที่ ทอท. อ้างแต่อย่างใด
ดังนั้นศาลจึง “คุ้มครอง” ชั่วคราวตามคำขอของ “ซีพีเอ็น” ผู้ฟ้อง เพราะไม่เป็นการสร้างเสียหายและอุปสรรคต่อการบริหารงานของ ทอท. ผู้ถูกฟ้อง เท่ากับเป็นการยุติข้อพิพาทยกแรกของสองยักษ์ใหญ่ หน่วยงานรัฐกับเอกชน ซึ่งในการยื่นคำฟ้องศาลปกครอง “ซีพีเอ็น” ยังมีการเรียกร้องค่าเสียหายจาก “ทอท.” เป็นเงิน 150 ล้านบาท รวมทั้งดอกเบี้ยของเงินต้น ในอัตรา 7.5% ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันที่ผู้ถูกฟ้องคดีชำระเสร็จสิ้นด้วย
เรื่องศาลปกครองได้บทสรุป แต่ฝากรัฐบาลยังไม่จบ จวนเจียนก่อนวันเปิดตัวโครงการเพียงข้ามคืน “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ออกโรงมาเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมด่วน เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคมเช่นกัน หลังจาก นายกฯ “ลุงตู่” ส่งสัญญาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเคลียร์ปมปัญหา ทำให้ท่าทีของบิ๊กกระทรวงหูกวางออกมารับลูกเรียกหน่วยงานชี้แจงทีละราย สุดท้ายตั้ง “พิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน” รองปลัดกระทรวงไปสานต่อ โดยเชิญ 4 หน่วยงาน กรมธนารักษ์ ทอท. กรมท่าอากาศยาน และ กรมทางหลวง มาคลายปมปัญหากันในสัปดาห์นี้
ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องการใช้ทางเชื่อม ความปลอดภัยการบิน ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องที่เอกชนมีเอกสารหลักฐานการขออนุญาตตามขั้นตอนไปแสดงต่อศาล ก่อนหน้านั้นหน่วยงานด้านการบินก็เรียงหน้าออกมาบอกแล้วว่า “ไม่กระทบ” บางหน่วยงานระดับเฮดยังถึงขั้นออกปากว่าเป็นเรื่อง “ช้างชนช้าง” ตนไม่อยากพูดอะไรมาก กลัวสะเทือนเก้าอี้ อย่างไรก็ดีเรื่องนี้หากออกมา “เป็นอื่น” ก็คงเป็นการประจานถึงความ “ล้มเหลว” ของระบบราชการไทย ที่ถือกฎหมายกันคนละฉบับ “ซ้ำซ้อน” กันไปมา ต่างคนต่างอ้างสิทธิ์ก.ม.ที่อยู่ในมือ และตีความเข้าข้างตัวเอง สุดท้ายความเดือดร้อนตกอยู่ที่ประชาชนตาดำๆ
กลับไปที่วันเปิดวันแรกด้วยฤกษ์ผานาที 10.39 น. ตระกูล “จิราธิวัฒน์” และผู้บริหารมาเป็นกำลังใจกันคับคั่ง ตั้งแต่พี่ใหญ่ คุณหญิงสุจิตรา-สุทธิเกียรติ-สุทธิธรรม จนถึงเจเนอเรชันรุ่น 3 ยกกันมาทั้งตระกูล
.....หลังคืนวันที่ 30 สิงหาคม “ชาติ จิราธิวัฒน์” ลุยพื้นที่ตระเวนเยี่ยมคู่ค้าให้กำลังใจก่อนเปิด “วัลยา จิราธิวัฒน์” บอกว่าผู้ประกอบการในโครงการไม่ถอยเขามั่นใจใน “ซีพีเอ็น” มากว่า เราทำถูกต้อง
หลังตกเป็นข่าวครึกโครมวันแรกที่เปิด สินค้าหลายรายการเกลี้ยงเชลฟ์ในพริบตา เพราะราคายั่วเงินในกระเป๋า แบรนด์ “อาดิดาส” คิวจ่ายเงินยาวเป็นหางว่าว แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค รองเท้าดัง FitFlop หมดตั้งแต่ไม่ทันเที่ยง เท่าที่สังเกต ฝรั่ง แขก จีนมากันครบ แต่มากสุดก็พี่ไทยนี่แหละ เพราะราคาจับต้องได้ และเป็นของใช้สอยในชีวิตประจำวัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง