ARIN เลื่อนเทรด เดิมพันครั้งใหญ่ของ ‘คิงส์ฟอร์ด’

24 พ.ค. 2562 | 12:24 น.

คอลัมน์มารยาตลาดหุ้น ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3473 หน้า 17 ระหว่างวันที่ 26-29 พ.ค.2562 โดย...คุณนายเผือก

 

ARIN เลื่อนเทรด

เดิมพันครั้งใหญ่ของ

‘คิงส์ฟอร์ด

 

          ปัญหาเดิมๆ ของหุ้นจอง 1. ตั้งราคาแพง 2. หุ้นที่เข้ามาขายไม่น่าสนใจ 3. เจ้าของเอาหุ้นมาขายทอดตลาดมากกว่าเข้ามาระดมทุน และ 4. ภาวะไม่เอื้อ (ข้ออ้างยอดนิยม)

          เลยทำให้นักลงทุนที่ลงทุนหุ้นจอง หรือ หุ้นไอพีโอ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จึงเจ็บตัวกันทั่วถ้วน ใครที่หวังจะรํ่าจะรวยจากหุ้นจอง เหมือนรุ่นพี่ๆ จึงต้องผิดหวังไปตามๆ กัน….บรรดาเสี่ยๆต่างๆ ที่เจ้าของหุ้นเคยเอาชื่อมาแปะเป็นยันต์ เป็นมนต์เรียกรายย่อย....ก็ยังเอาตัวไม่รอด

          วันนี้หุ้นจองจึงยังไม่พ้นบ่วงกรรม คนยังเข็ดไม่เลิก สถิติปี 2561 บอกชัดเจนว่า หุ้นน้องใหม่ที่เข้าตลาด 18 บริษัท แยกเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 บริษัท และตลาด MAI 11 บริษัท มีเพียง 5 บริษัทเท่านั้นที่ราคาไม่หลุดจองในวันแรกที่เปิดซื้อขาย ที่เหลือตํ่าจองเกลี้ยง

          18 บริษัท ที่เข้าตลาดปีที่แล้ว ประเมินกันว่าสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนทั้งขาใหญ่ ขาเล็ก ขาย่อย (ยกเว้น Robot) เจ็บตัวกันถ้วนหน้า คิดเป็นเม็ดเงินไม่ตํ่ากว่า 2 พันล้านบาทเลยทีเดียว

          เปิดศักราชใหม่ปี 2562 คิดว่าทุกอย่างจะดีขึ้น แต่กลับเข้าอีหรอบเดิม หุ้นใหม่เข้าเทรด 7 บริษัท แยกเป็น ตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 บริษัท และ ตลาด MAI 5 บริษัท ผลปรากฏว่าวันแรก ตํ่าจองไป 3 บริษัท มากกว่าจอง 3 บริษัท และ เสมอตัว 1 บริษัท แต่หลังจากนั้น 5 ตัว ราคาก็รูดตํ่าจองตามรอยรุ่นพี่ทั้งสิ้น มีเพียงแค่ 2 ตัวที่เอาตัวรอด แต่ราคาก็ปริ่มๆ จอง รายย่อยเจ็บตัวกันอีกตามระเบียบ เรียกว่าจะเก่งมาจากไหน ตายคากระดานเกือบทุกคน

          ไม่ใช่แค่หุ้นจองที่เข้าเทรดแล้วเท่านั้นที่กระทบ แม้แต่หุ้นจองที่เปิดขายหุ้นไปแล้วอย่าง บริษัท อรินสิริ แลนด์ฯ (ARIN) ก็ยังโดนหางเลข ร่วงตั้งแต่ยังไม่เข้าเทรด ก็ยังยอมเลื่อนเข้าเทรดก่อนวันเทรดวันที่ 23 พฤษภาคม 2562

          เบื้องหน้า เบื้องหลัง ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน ไม่มีอะไรต้องคิดลึก มาจาก บล.คิงส์ฟอร์ดฯ ที่เปลี่ยนชื่อจาก บล.แอพเพิล เวลธ์ฯ ที่มารับงานเป็นแกนนำอันเดอร์ไรต์ต่อมาจากบล.คันทรี่กรุ๊ปฯ ตัดสินใจยกธงขาวก่อนจะขึ้นเวทีเพียงแค่วันเดียว

          เหตุผลง่ายๆเพราะขายหุ้นไม่หมดประการหนึ่ง ARIN ขายไอพีโอ 150 ล้านหุ้น ราคา 3.10 บาท แต่ขายได้ไม่ถึงครึ่ง เหลือกว่า 85 ล้านหุ้น ที่เป็นหน้าที่ของแกนนำหรือลีดอันเดอร์ไรต์ต้องถือเอาไว้เอง แต่การที่ขายหุ้นไม่หมด กระจายหุ้นให้รายย่อยได้แค่ 14% ตํ่ากว่าเกณฑ์ฟรีโฟลต 25% ก็ส่งปัญหาทำให้ตลาดหุ้นไม่รับจดทะเบียน...เป็นเหตุผลทางเทคนิค

          แต่ก็เป็นเหตุผลที่เป็นบันไดลงให้ คิงส์ฟอร์ด หลังจากที่หลายๆอย่างไม่เป็นไปตามที่คาด ไม่ว่าจะเป็น 1. ผลประกอบการ ARIN ไตรมาสแรกที่ออกมาตํ่ากว่าคาด ทำให้ค่าพี/อี ทะลุไป 100 เท่า ราคาที่ตั้งไว้ 3.10 บาท จึงแพงแสนแพง 2. ตัวช่วย Market Maker ที่คอยดูแลหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯก็จับจ้องแบบตาไม่กระพริบ...ทำให้ขยับเขยื้อนลำบาก 3. ขืนคิงส์ฟอร์ดทำปีกกล้า ขาแข็ง ยอมกอดหุ้นไว้ และเดินหน้าเทรด มีแต่เจ็บตัวแน่ๆ ขาดทุนแน่ๆ 100 ล้านบาท ฉะนั้น คิงส์ฟอร์ด เลยเลือกที่จะเสียหน้าดีกว่าเสียเงิน

          ส่วนเงินครึ่งหนึ่ง หรือราว 230 ล้านบาท ที่รับมาจากลูกค้าที่จองหุ้นแล้วนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน ก็ต้องคืนให้ลูกค้าทุกบาททุกสตางค์ แม้มีคนบางคนคิดลึกกว่านั้นก็ตาม ส่วน ARIN ยังมีเวลาอีก 6 เดือน โดยไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ถึงวันนั้น วันที่ ARIN กลับเข้ามาใหม่(หากไม่ถอดใจ) เชื่อว่าราคาไอพีโอจะยืนที่ 3.10 บาทเหมือนเดิมหรือไม่...ไม่นานเกินรอ

          แต่การยอมเลือกที่จะรักษาหน้า มากกว่ากลืนเลือดของ คิงส์ฟอร์ด กับดีลแรกของปีนี้ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของ คิงส์ฟอร์ด ว่าจะแจ้งเกิด หรือเก็บฉาก ในวงการ...น่าจับตายิ่ง