เพิ่งเขียนเรื่อง UBER "แท็กซี่รถส่วนตัวไฮเทค" ไป คำตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกในการเรียกรถมาบริการ
ตัวเองก็เจอดีในคืนวันอาทิตย์ที่แล้ว ในกทม.
ออกจากโรงแรมแถวเพลินจิต ประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ยืนเรียกรถ TAXI บนถนนวิทยุมุ่งหน้าไปเพชรบุรีตัดใหม่
โบกรถหลายคัน ไม่หยุดกัน
มีหยุดประมาณ 5 คัน พอรู้ว่าจะไปนวมินทร์ ก็ปฏิเสธ ที่ตลกคือ มีคันหนึ่งตอบว่าจะไปกินข้าวกับเพื่อน
คำตอบส่วนใหญ่คือ ไม่มี GAS จะไปส่งรถ
เจ้าหน้าที่โรงแรมช่วยเรียก GRAB ให้ ก็โดน CANCELLED อีก และให้ข้อมูลว่า พวกตนที่เรียก TAXI หน้าโรงแรม ก็โดนปฏิเสธประจำ แทนที่จะได้กลับถึงบ้านแถวนวมินทร์ ในเวลา 20-30 นาที
ผมก็ต้องเปลี่ยนแผน เดินไปขึ้น BTS สถานีเพลินจิต โชคดีที่ยังไม่เที่ยงคืน เพื่อจะต่อรถ AIRPORT LINK ไปลงสถานีรามคำแหง และเรียก TAXI ต่อไปนวมินทร์
ใช้เวลาทั้งสิ้นเป็นชั่วโมง
เจ็บใจตัวเองที่ไม่ได้ LOAD APPLICATION ของ UBER ที่ใช้สะดวกรวดเร็วราคาถูกในอเมริกานั้น เป็นสมาร์ทโฟนของเพื่อน
ตอนที่แล้ว ผมได้พูดถึงความดีของ UBER และ LYFT ในแง่ "สะดวก รวดเร็ว ราคาถูก"
คุณสมบัติที่ทำให้ BRAND ทั้งสองติดตลาด หากยังไม่ได้พูดเรื่อง "ความปลอดภัย" ซึ่งเป็นเรื่อง "สำคัญ" ของการใช้บริการรถสาธารณะ ไม่ควรเพิกเฉย
เนื่องจากเป็นรถบ้าน รถส่วนตัว ก็ไม่รู้เจ้าของรถดูแลบำรุงรักษาดีขนาดไหน
ยิ่งต้องนั่งระยะไกล วิ่งบน FREE WAY จากบ้านมาสนามบินเป็นชั่วโมง เดิมทีผมนั่ง "รถบ้าน" ประจำ PORSCHE หรืออย่างเลวก็ MERCEDES มาใช้ UBER ที่เป็นHONDA บ้าง TOYOTA บ้าง รถเล็กบ้าง
ความมั่นใจ ความสบายใจก็หดหาย อันนี้จะแลกกับเอาความสะดวก ราคาถูก ของ UBER
แต่จะว่าไป UBER ก็พัฒนามีรถหลายระดับให้เลือก รถดีหน่อยก็เข้า UBER SELECT ตอนอยู่ DALLAS TEXAS ลองเรียก UBER SELECT ได้ MERCEDES สีแดง ขับมารับที่ศูนย์การค้าไปร้านอาหารไทยที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
ค่ารถ 5 เหรียญ (OMG) ถูกจนติดใจฝันถึง
ที่สำคัญกว่า "รถ" คือ "คนขับ" ว่าไปแล้ว ผมยังเชื่อมือ TAXI อาชีพมากกว่า เรียก UBER เจ้าของรถส่วนตัว วิ่ง PART TIME เป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยรู้เส้นทางถึงมี GPS ช่วย ไม่ต้องห่วง แต่ความคล่องแคล่วก็ผิดกับคนขับ TAXI มืออาชีพ
ยิ่งบางครั้งได้แม่บ้านสูงอายุมาขับ บางรายอายุ 72 ปี (OMG) บางคนก็เป็นนักพนันอาชีพ (ฮา)
ไปเล่นไพ่ RENO โชคดีได้มา 4 หมื่นเหรียญ ก็ถอยรถ BMW ใหม่เอี่ยมมาขับ UBER นั่งคุยไปอาจได้กลเม็ดการเล่นไพ่ให้ได้เงินเป็นของแถม
ที่อุ่นใจหน่อยคือ ระบบ SCREEN คนขับที่ UBER และ LYFT ตั้งไว้ จะตัองไม่มีประวัติ DUI (เมาแล้วขับ) ไม่มีประวัติอาชญากรรม
และระบบ "ประกันภัย" ของสหรัฐก็ช่วย SCEEN อีกชั้นหนึ่ง ใครขับรถมีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนมากๆ ก็จะโดนเรียกเก็บค่า PREMIUM ประกันสูง โดนบันทึกซึ่งถูกเรียกดูได้
ที่อเมริกา ปัญหา DUI หรือ "เมาแล้วขับ" ก็เป็นปัญหาใหญ่ ถึงบทลงโทษรุนแรง ปรับแพง ติดคุกก่อนจับไปอบรม 9 เดือน สอบใบขับขี่ใหม่ หรือไม่มีสิทธิขับขี่อีกเลย
หลายคนก็ไม่กลัว ยังเสี่ยงขับรถไปกินเหล้าเมายา อย่างมีข่าวดาราคนดัง โดนบ่อย หรือก่ออุบัติเหตุให้คนอื่นต้องบาดเจ็บล้มตาย ทางการสหรัฐไม่นิ่งเฉย
การมีบริการรถดีๆ อย่าง UBER หรือ LYFT ทำให้คอเหล้าไม่ต้องลำบากลำบนขับรถ ไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เสี่ยงถูกจับ
เรียกรถมารับไปส่งร้านเหล้า ขากลับเรียกมาส่งบ้าน
บางครั้งคนขับส่งถึงห้องนอน เห็นข้าวของมีค่า เพราะฉะนั้น การ SCREEN คนขับ "ประวัติดี" จึงเป็นมาตรการสำคัญของ BUSINESS MODEL นี้ ขณะที่ก็ต้องการคนขับมากๆ ในเวลารวดเร็ว เพื่อให้ทำเวลามารับผู้โดยสารที่จุดเรียกไม่เกิน 3 นาที (ปัจจุบันอยู่ที่ไม่เกิน 7 นาที)
ถามคนขับ UBER หลายเมือง บางเมืองก็ HAPPY มากๆ โดยเฉพาะในรัฐ TEXAS ที่ผู้คนตกงาน (เนื่องจากราคาน้ำมันตก) อาศัยอาชีพ UBER รองาน หรือเป็นอาชีพเสริม แต่ใน SAN FRANCISCO แหล่งกำเนิดเอง คนขับเริ่มบ่นว่า "รายได้ไม่คุ้ม" อย่าลืมว่าคนขับที่เป็นเจ้าของรถต้องเก็บเงินส่วนหนึ่ง ไว้ MAINTENANCE รถยนต์ตัวเอง
UBER หักไปเฉยๆ 25% จากค่าโดยสาร มากไปหรือเปล่า แถมตอนนี้ UBER มี PROMOTION ลดค่าโดยสารเพื่อจะเรียกลูกค้าเพิ่ม และสู้กับคู่แข่งมาแรงอย่าง LYFT
คนขับ UBER จะเหลือเงินเข้าบ้านสักกี่เหรียญ เขียนมาตั้งนาน ผมต้องการฟ้องแฟนๆให้รู้ว่า โลกไปถึงไหนแล้ว แต่ TAXI ที่การท่าจัดมาบริการที่สุวรรณภูมิ หาได้มี "คุณภาพ" สมกับเป็นรถบริการสาธารณะตามมาตรฐานที่ดีแต่ประการใด สภาพรถบางคันต้องเรียกว่า "ดูไม่จืด"
คนขับรถบางคน ดูท่าทางแต่งตัว น่าจะไล่แขกบ้านแขกเมืองกลับประเทศเขามากกว่า WELCOME TO THAILAND รถ TAXI ที่พยายามให้ผู้โดยสารเหมา ฯลฯ
นี่เป็นการบริหารงานของการท่าฯ ที่พนักงานได้ BONUS ไม่ต่ำกว่า 7 เดือน จนเป็นมาตรฐาน ต่ำกว่านี้ก็ไม่ยอม
"_ _ ไร้ค่า จริงๆ" (ฮา)
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,130 วันที่ 11 - 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559