‘โลกแห่งปัญญา’

06 ก.พ. 2559 | 00:30 น.
ไปอเมริกาเที่ยวนี้ ผมอยู่เป็นเดือน และออกจากชานเมืองซานฟรานซิสโกไปนอกเมืองนอกรัฐหลายครั้ง เลยได้ใช้บริการ UBER หลายเที่ยว

เพื่อนคนไทยที่ทำธุรกิจอยู่ที่อเมริกา และต้องขับรถเอง ประทับใจมากๆ กับการบริการรถแท็กซี่ไฮเท็คเจ้านี้ ที่ตอนนี้แพร่หลายไม่เฉพาะอเมริกา แต่ยังเพ่นพ่านไปทั่วโลก

"สะดวก รวดเร็ว ราคาถูก" สร้าง BRAND ให้ UBER ติดตลาด

คุณยืนอยู่จุดไหนก็ได้ รถสามารถมารับคุณได้ภายในไม่เกิน 7 นาที ระหว่างรอ เปิดสมาร์ทโฟนของคุณ ยังจะเห็นรถ UBER ที่คุณเรียกผ่าน APPLICATION แล่นมาถึงตรงไหนแล้ว

ตอนนี้กำลังแข่งกับอีกเจ้า (LYFT) ให้มาถึงผู้เรียกภายในไม่เกิน 3 นาที

ค่าโดยสารที่ว่าถูก คือ ถูกกว่าแท็กซี่ทั่วไป ที่คิดประมาณ 3 เหรียญกว่าๆ ต่อระยะทาง 1ไมล์ UBER คิดเพียงเหรียญยี่สิบเซ็นต์

ไปเมืองไหนมีโอกาสนั่ง TAXI ธรรมดาก็ได้ยินเสียงบ่น "อ้วก" TAXI คงจะเลิกกิจการกันไปในไม่ช้า

"ความสะดวก" แท้ๆ ที่ทำให้ UBER เกิด และเกิดขึ้นที่เมือง SAN FRANCISCO ในย่านธุรกิจ ที่เวลาต้องการใช้ TAXI มักจะหายาก

คนหนุ่มกลุ่มหนึ่งที่มีสติปัญญา ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย จึงรวมตัวกันทำ CAR POOL แชร์การใช้รถกัน หนักเข้าด้วย TECHNOLOGY ของโลกสมัยใหม่ จึงผสมผสานเป็นบริการฉับไวด้วย UBER

คนขับใช้รถส่วนตัวของตนเอง และสามารถเลือกทำงานเต็มเวลาหรือ PART TIME
เวลาจะรับงานก็เปิด APPLICATION

ส่วนใหญ่คนขับจะเป็นพวก PART TIME ที่ต้องการหารายได้เพิ่ม เพื่อช่วยค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพในอเมริกาซึ่งค่อนข้างสูง

ส่วนหนึ่งก็พวกตกงาน รองาน

มีบ้างคือนักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ เพราะตารางเวลาเรียนไม่สะดวกจะไปหางาน PART TIME อื่น

มีบ้างที่ขับ FULL TIME หากินเติมตัวกับ UBER บางคนที่เด็ดกว่านั้นคือขับให้ทั้ง 2 เจ้าเลย ทั้ง UBER และ LYFT (ที่กำลังมาแรง)

UBER ก่อตั้งโดย GARETT CAMP และ TRAVIS KALANICK ในปี 2009 ที่เมือง SAN FRANCISCO จากเงินเริ่มต้นแค่ 2 แสนเหรียญ

ปลายปีที่แล้วประมาณการว่ามูลค่า UBER อยู่ที่ 62.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

และคำว่า UBER เป็นตำนานของ BUSINESS MODEL วิธีหนึ่ง คำว่า "UBERIFICATION" หมายถึงธุรกิจอื่นที่ลอกเลียนแบบ

LYFT คือคู่แข่งน่ากลัวที่เข้ามาทีหลัง แต่ทุนหนัก 1 พันล้านเหรียญ ในจำนวนนี้ บริษัทรถยักษ์ใหญ่ แห่ง DETROIT คือ GM ลงไป 500 ล้าน

ผู้ก่อตั้งคือ LOGAN GREEN และ JOHN ZIMMER ในปี 2012 มีสำนักงานใหญ่อยู่ใน SAN FRANCISCO เช่นกัน

แม้ LYFT เพิ่งเกิดทีหลัง (ปี 2012) แต่จริงๆแล้วคู่หู LOGAN และ JOHN เคยร่วมกันทำ ZIMRIDE ด้วยกันมาก่อน ตั้งแต่ปี 2007

ZIMRIDE ก็คือการแชร์รถร่วมกันในการเดินทางไกล อาศัยกันไป ไม่ใช่ต่างคนต่างขับไปในต่างจังหวัด

มีอีกบริการที่พวกนักศึกษาสมัยผมชอบใช้ เมื่อ 40 ปีที่แล้ว (ฮา) ไม่ทราบว่าใครเป็นต้นคิด แต่ฉลาดมาก ชื่อ DRIVE AWAY

มีผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย

เศรษฐีอเมริกันเมื่อซื้อรถใหม่ อยากขับเที่ยวทางไกล เพราะภูมิทัศน์อเมริกากว้างใหญ่ไพศาล หลากหลาย อย่างเศรษฐี LA ขับรถข้ามฝั่ง (COAST) มาเที่ยวถึง DETROIT เมื่อจบการขับก็ไม่อยากขับกลับ บินเอาง่ายกว่า เร็วกว่า ถูกกว่า (ด้วย)

เศรษฐีก็ไปจ้างบริษัทจัดส่งรถในเมือง DETROIT ให้ค่าจ้างจัดส่งรถกลับ (ภายใน 5-7 วัน)

บริษัทจัดส่งรถ ต้องการคนขับ เพื่อไปส่งรถที่ LA ก็ประกาศโฆษณาใน นสพ. แจ้ง DRIVE – AWAY ใครต้องการขับรถไปเที่ยวถึง LA ขอให้มาติดต่อ

พวกผมนักศึกษาจนๆ (สมัยนั้น) ต้องการรถขับเที่ยวในอเมริกาในช่วง SUMMER เห็นประกาศก็คว้าทันที เพราะไม่ต้องเสียค่าเช่ารถ หากแต่ต้องเติมน้ำมันเอง

บริษัทจัดส่งรถ SAVE ค่าจ้างคนขับ

ผมก็ SAVE ค่าเช่ารถ (ฮา)

สมประโยชน์กันทุกฝ่าย

ข้อสำคัญเขาเผื่อเวลาให้เราขับเที่ยว 2-3 วัน หากเกินไป ไม่ไปถึงจุดส่งรถ ก็จะแจ้ง FBI ให้ตามล่า ถ้าเราอยากสนุก มีประสบการณ์แปลกๆ อีกแบบ จะลองก็ได้

ในโลกที่เจริญ มีการศึกษา มีวิชาการใหม่ๆเกิดขึ้น

คนมี "ปัญญา" ก็จะคิดช่วยเหลือให้คนและสังคมได้ "ประโยชน์" อย่างไร

เน้น "สังคม" ครับ ไม่ใช่ "ประชา"นิยม ประชารัฐ หรือ กอด "ตุ๊กตาลูกเทพ " ไปวันๆ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,128 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559