สักวันฉันจะโต

08 ม.ค. 2561 | 23:15 น.
TP13-3329-1B หลายคนคงเคยเห็นสติกเกอร์ที่อยู่ท้ายรถเล็ก ๆ หรือรถบรรทุก หรือแม้กระทั่งบางทีก็เห็นแปะที่ซาเล้งเก่า ๆ เจ้าสติกเกอร์ที่แสดงถึงความหวังของตัวเจ้าของรถคันนั้น “สักวันจะโตเป็นเบนซ์” ซึ่งใคร ๆ เห็นแล้ว หลายคนอดยิ้มไม่ได้ เพราะขำที่เห็นสภาพของรถคันที่ติดสติกเกอร์นั้นเทียบกับรถพันธุ์หรูแบบเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่หลายคนยิ้มให้กับความหวังที่ชัดเจนของเขาที่มีเป้าหมายว่าจะเดินทางไปที่ไหนและจะเป็นอะไร สักวันหนึ่งใครจะไปรู้ว่าเจ้าของรถคันนี้อาจจะขับเบนซ์และเปลี่ยนสติกเกอร์เป็น “โตมาจากซาเล้ง” ก็ได้

คราวลงพื้นที่ของการประชุม ครม. สัญจรครั้งก่อนที่พิษณุโลกและสุโขทัย ผมได้ยินเรื่องราวของบริษัท เครื่องจักรกลเกษตรไทย จำกัด ของคุณสมชัย ชัยวัฒน์ภักดี จากหลายคนว่าบริษัทนี้เป็นตัวอย่างของการเติบโตของวิสาหกิจขนาดเล็กที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทขนาดกลางที่มียอดขายหลายร้อยล้านบาทต่อปี เส้นทางเดินที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2523 ที่ย้ายมาเป็นวิสาหกิจเล็กที่นี่ และเติบโตและค้นพบตัวเองจากการเข้าร่วมอบรมโครงการ คพอ. ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และคุณสมชัยบอกผมว่า โครงการนี้ทำให้เขาค้นพบตัวเองว่าเขาควรเดินอย่างไรกับวิสาหกิจเล็ก ๆ ของเขาแห่งนี้ ทำให้มองธุรกิจเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นเขาจึงเริ่มออกเดินทางที่โตเป็นเบนซ์ในปี 2526 จนก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ในปี 2534 จนถึงวันนี้ที่บริษัทได้ขยายธุรกิจจนเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรการเกษตรของคนไทยที่สมบูรณ์แบบ มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาตลอด และวางภาพอนาคตถึงขั้นที่จะผลิตรถเกี่ยวข้าว นวดข้าวที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในภูมิภาคนี้ และที่สำคัญไร้คนขับ ครับ

หลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณสมชัยแล้ว ผมถึงรู้ว่าเขาขยายตัวออกมาตั้งบริษัทนี้มาจากธุรกิจครอบครัวที่ทำธุรกิจเครื่องนวดข้าวที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เขามาเริ่มธุรกิจนี้ เพราะมองเห็นว่านโยบายของรัฐในช่วงปี 2520 เป็นต้นมานั้น เน้นการกระจายตัวของภาคอุตสาหกรรมลงสู่ภูมิภาคมากขึ้น ทำให้มีโรงงานลงไปตั้งในจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้น แรงงานถูกดูดเข้าสู่โรงงานมากขึ้นจนทำให้แรงงานเกี่ยวข้าวหรือแม้แต่ประเพณี “ลงแขก” เกี่ยวข้าวเริ่มหายไป ปัญหาเกี่ยวข้าวไม่ทันกับฤดูกาล ฝนหรือแม้แต่นํ้าหลากทำให้ผลผลิตเกษตรเสียหาย ทำให้เขามองเห็นว่าโอกาสธุรกิจนี้ไปอีกไกล ซึ่งตอนนั้น “สมชัย” เล่าให้ฟังว่าเครื่องมือเกษตรต่าง ๆ เรามักนำเข้ามาเป็นมือ 2 หรือของเก่า แล้วนำมาซ่อมเพื่อขายต่อ ทำให้หลายครั้งไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของบ้านเรา เขาเลยเริ่มวางแผนผลิตเครื่องจักรเกษตรและชิ้นส่วนของตัวเองขึ้นมา

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6-15 เริ่มต้นโดยความขลุกขลัก ต้นทุนสูง ทำให้สินค้าราคาแพงจนทำยอดขายได้ยาก และบางครั้งไม่สามารถผลิตเครื่องนวดข้าวทันในฤดูเก็บเกี่ยว แต่การเดินเข้าหาหน่วยงานของรัฐที่ให้คำปรึกษาการวางแผนและปรับปรุงระบบการผลิตจากศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมภาคเหนือที่เชียงใหม่ ทำให้ปรับกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพและเร็วขึ้น และปรับระบบการจัดการจนได้รับมาตรฐาน ISO ในปี 2543 ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งขยายการผลิตจากเครื่องนวดข้างเป็นรถเกี่ยวข้าวและนวดข้าวด้วยกันในตัวเดียวกันรุ่นแรกออกมาในปี 2540

ในปี 2550 บริษัทจึงสามารถคิดค้นรถเกี่ยวนวดข้าวGEN X ออกมา แต่เป็นการดัดแปลงจากรถแทรกเตอร์ และในปี 2550 ได้ออกรถคันใหม่ที่เป็นรถที่ทำใหม่ทั้งคันในประเทศไทยเป็นคันแรก เรียกว่า GEN 1.0 อย่างไรก็ตาม ยังเป็นรถขนาดใหญ่เหมาะสำหรับผู้ที่รับจ้างเกี่ยวข้าวจำนวนไร่นาที่มาก ทำให้เกษตรกรขนาดเล็กไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์นี้ได้ ทำให้“สมชัย” และลูกชายที่จบวิศวะมาจากสหรัฐอเมริกาได้มองการพัฒนาไปข้างหน้าว่าหากรถเกี่ยวข้าวมีขนาดเล็กกว่าเดิมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือ “ฉลาด” ขึ้นน่าจะทำให้ตลาดยิ่งกว้างขึ้น

บาร์ไลน์ฐาน ดังนั้นปีหน้า บริษัทจะมีรถรุ่น GEN 2.0 ที่มีขนาดคอมแพ็กต์มากขึ้นและมีระบบ Intelligent Digital Monitoring (IDM) เข้ามาเสริม เพื่อติดตามและเก็บข้อมูลประสิทธิภาพการใช้งานในทุกระบบของรถเกี่ยวข้าว และมองไปถึง GEN 3.0 ที่เป็นรถเกี่ยวข้าวนวดข้าว แยกข้าวที่สามารถทำงานในพื้นที่นาแห้ง โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาที่เริ่มมีคำสั่งซื้อมาที่บริษัท แต่งานวิจัยของบริษัทไม่ได้หยุดอยู่ตรงนี้ เขาและลูกชายทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษาเพื่อเดินต่อไปจนถึงจุดที่เขาหมายตาไว้ให้เกิดขึ้นในยุคเขา แต่ในยุคของลูกชาย เขาเรียกรถเกี่ยวข้าวรุ่นนั้น ว่า “Avatar” เป็นรถเกี่ยวข้าวที่เพียบพร้อมที่มนุษย์พึงคิดได้ สมองกลครบ ทำงานในทุกสภาพแวดล้อม ความเร็วในการทำงานสูง และที่สำคัญ “ไร้คนขับ”

ผมทึ่งในสิ่งที่เขาทำมาตลอดเกือบ 30 ปี เริ่มจากวิสาหกิจขนาดเล็ก ที่เดินเส้นทางธุรกิจที่ไม่สะดวกสบายมากนัก แต่เขาแบกความฝันที่มาพร้อมความมานะ การวางแผนที่ดี จนทำให้เครื่องนวดข้าวเล็กๆ ที่แบกใส่รถดัดแปลงจากแทรกเตอร์ จนมาเป็นรถเกี่ยวข้าวนวดข้าวที่ดีที่สุดที่เราเห็นในประเทศ ที่ชื่อ “ไอ้หนุ่มไวไฟ” ในวันนี้ แม้ว่าเจ้าหนุ่มไวไฟคันนี้อาจยังไม่ใช่ “รถเบนซ์” แต่คนในวงการเกษตรรู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำออกมา คือ “เบนซ์แห่งรถเกี่ยวข้าวนวดข้าว” และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า SMEs โตได้ หากอยากจะโต และรู้วิธีที่จะทำให้ตัวเองเติบใหญ่

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,329 วันที่ 7 - 10 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9