‘บิตคอยน์’ การลงทุนที่หวือหวาที่สุดในโลก

06 ม.ค. 2561 | 09:12 น.
TP9-3328-1B พูดถึงการลงทุนที่หวือหวามากที่สุดในปีที่ผ่านมา และคงจะต่อเนื่องมาถึงปีนี้ (2018) คงไม่มีการลงทุนอะไรจะมาเทียบได้กับราคาของบิตคอยน์ ที่ขึ้นแรงลงแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์การลงทุนของโลกทีเดียวครับ

บิตคอยน์เริ่มต้นปีที่ผ่านมา ด้วยราคาไม่ถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะพุ่งทำสถิติสูงสุดครั้งแล้วครั้งเล่า ทะลุ 20,000 ดอล ลาร์สหรัฐฯต่อบิตคอยน์ ก่อนที่ราคา จะร่วงลงอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อนปีใหม่นี้ โดยไปแตะ 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และรีบาวด์กลับมาได้ที่ 15,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ในสายตาของนักลงทุนต้องบอกว่าการขึ้นลงแบบเหวี่ยงแรงอย่างนี้คือความ “บ้าคลั่ง” ที่เป็นการลงทุนกับสิ่งที่จับต้องแทบไม่ได้เลย นั่นเป็นเพราะอะไรครับถึงทำให้บิตคอยน์กลายเป็นจุดสนใจของโลกขนาดนี้

ประการแรก บิตคอยน์ มา พร้อมๆ กับกระแสคำว่า “ดิจิตอล” ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกมากขึ้นเรื่อยๆ คำว่าดิจิตอล คืออนาคตของโลกเศรษฐกิจใหม่ และบิตคอยน์ก็ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลไกสำหรับรูปแบบการทำธุรกรรมในโลกดิจิตอลแบบใหม่ที่เรียกว่า “บล็อกเชน” นั่นเอง

TP9-3328-B ประการที่ 2 ก็คือ นักลงทุนกลัวว่าจะตกขบวน หรือเรียกว่าอาการเห่อ ใครเข้าเร็วก็ได้ กำไรเร็ว ใครช้าก็เสียโอกาส ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์มูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 800% ถือว่าล่อตาล่อใจนักลงทุนสายเก็งกำไรไม่น้อย

ประการที่ 3 คือผมบอกเอาไว้หลายครั้ง ว่าบิตคอยน์ ถูกดีไซน์เอาไว้ให้มีแค่ 21 ล้านบิตคอยน์ทั่วโลกเท่านั้น และขณะนี้มีการขุดออกมาซื้อขายกันแล้ว 15 ล้านบิตคอยน์ นั่นทำให้ซัพพลายเหลืออีกแค่ 6 ล้านบิตคอยน์ ขณะที่ดีมานด์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกระแสโลกที่จะร้อนแรงมากขึ้นกับคำว่า “ดิจิตอล” และ “บล็อกเชน”

กระแสความเห่อบิตคอยน์ ทำให้ตลาดในสหรัฐอเมริกามีการซื้อขายบิตคอยน์ล่วงหน้ากันแล้วที่ตลาดชิคาโก และปีนี้ก็จะเข้าตลาดแนสแดคด้วย ยิ่งจะทำให้บิตคอยน์มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะนี้ เริ่มมีสัญญาณให้เห็นว่า การขึ้นลงของราคาบิตคอยน์ เริ่มส่งอิทธิพลต่อการขึ้นลงของราคาหุ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ครับ เช่น ราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิต ชิปประมวลผล และการ์ดจอที่ใช้สำหรับการขุดบิตคอยน์ จะมีปฏิกิริยาต่อการขึ้นลงของราคาบิตคอยน์ในทันที เช่นหุ้นของบริษัท Nvidia ที่เป็นผู้ผลิตชิปและการ์ดจอรายใหญ่ของโลก

ดังนั้น ในปี 2018 เราจะเริ่มเห็นมากขึ้นครับ สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างการขึ้นลงของบิตคอยน์ ที่ส่งอิทธิพลต่อการขึ้นลงของราคาหุ้นในสหรัฐฯ

นายทอร์สเทน สโล้ก นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารดอยช์ แบงก์ ถึงกับบอกว่า ในช่วงที่ราคาบิตคอยน์ปรับลงแรงนั้นได้ส่งผลทางจิตวิทยาต่อนักลงทุนจนไม่อยากลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกันเพราะกลัวว่าราคาจะลงอีก และนั่นได้ส่ง ผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

น่าสนใจครับ นักเศรษฐ ศาสตร์ ส่วนหนึ่งบอกว่า ปรากฏการณ์ บิตคอยน์นั้นไม่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ ดิจิตอล ดิสรัปชัน (Digital Disruption) เพราะว่าหากใครไม่ได้ถือบิตคอยน์ ก็ไม่ได้เดือดร้อน แต่สำหรับปี 2018 นี้ เราต้องจับตากันมากขึ้นครับ ว่าอิทธิพลของบิตคอยน์ที่มีต่อการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ นั้น จะมากน้อยแค่ไหน ในเมื่อกระแสโลกยังตื่นตัวกับคำว่า “ดิจิตอล” อยู่มากมายขนาดนี้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,328 วันที่ 4 - 6 มกราคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9