6เหตุผลทำไมแบรนด์ ต้องใส่ใจมนุษย์มากกว่าเทคโนโลยี

03 ส.ค. 2560 | 23:20 น.
ในยุคที่การทำ Digital Marketing กำลังบูมแบบสุดขีดอย่างเช่นทุกวันนี้ บรรดาแบรนด์ต่างๆ ได้ปรับตัวเพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นทุกๆ วัน แบรนด์จำนวนไม่น้อยได้มองว่าการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายผ่าน Website การทำ Online Community การทำ Campaign โดยใช้ Data-driven insight เป็นเรื่องพื้นฐานไปเรียบร้อยแล้ว
ในทางกลับกันนอกจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยน แปลงไม่ช้าไปกว่ากันนั่นก็คือพฤติ กรรมของผู้บริโภค ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนคุ้นเคยกับเทคโนโลยี มากขึ้น การใช้จอหลักและจอรองหรือแม้แต่การสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารกลายเป็นความเคยชินของหลายๆ คน ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้แบรนด์ต้องหาวิธีที่แนบเนียนที่สุดในการที่จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของพวกเขาให้ถูกที่และถูกเวลา

MP39-3284-A นี่คือ 6 เหตุผลที่แบรนด์ควรใส่ใจในความเป็นมนุษย์มากกว่าแค่อุปกรณ์เพื่อการสื่อสารทางการตลาดที่ได้ผล

1. มนุษย์ยังโหยหาสังคม
การเชื่อมต่อแบบไร้ขอบเขตของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไปแต่คำถามที่สำคัญคือ เหตุผล
อะไรที่ทำให้มนุษย์ถึงเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันมากกว่า ข้อสรุปที่ได้ก็คือสังคม มนุษย์ต้องการที่จะติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูง เพื่อที่จะรับทราบข้อมูลแบบปัจจุบันทันด่วน มนุษย์ยังใช้อุปกรณ์มากมายในการที่จะเชื่อมตัวเองไว้กับสังคมนั้นๆ แบรนด์ไม่สามารถที่จะทำการสื่อสารผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งเพียงอย่างเดียวแต่ต้องทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนผ่านระหว่างอุปกรณ์ในการเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคด้วย

2.มนุษย์ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมากกว่าอุปกรณ์
ในการเข้าถึงข้อมูลมนุษย์พร้อมที่จะใช้อุปกรณ์อะไรก็ได้ที่ตอบสนองความต้องการได้ เช่นเขาอาจจะตื่นมาในตอนเช้าแล้วสไลด์ดูข่าวบน feed แล้วหันไปถามระบบบ้านอัจฉริยะถึงสภาพอากาศ แล้วสั่งซื้อของออนไลน์ผ่านทาง Laptop นักการตลาดปัจจุบันกำลังโดนข้อมูลการเข้าถึงจากอุปกรณ์ต่างๆ ของผู้บริโภคจำนวนมหาศาล และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการใช้ข้อมูลเหล่านั้นสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มเป้าหมาย แบรนด์ต้องใส่ใจในการทำความเข้าใจปรับปรุงข้อมูลให้เหมาะสมและถูกต้องกับอุปกรณ์แต่ละชนิดที่ผู้บริโภคนิยมใช้ในแต่ละช่วงเวลา

MP39-3284-B 3.มนุษย์ต้องการประ สบการณ์
ประสบการณ์สามารถเกิดได้จากหลากหลายสถานที่และช่องทาง พวกเขาอาจจะซื้อของทั้ง Online และที่ร้าน เขานัดพบ ปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงทั้งที่ร้านอาหารและทาง Social Media เขาได้รับข้อเสนอส่วนลดต่างๆจากโฆษณาทีวี push notifications และ e-mail การทำการตลาดโดย เน้นไปที่พฤติกรรมของมนุษย์นั้นจะต้องสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายในทุกๆ สถานที่และในทุกๆ บริบท

4.ต้องรู้จักมนุษย์
การสำรวจกลุ่มเป้าหมายในอดีตมักจะทำโดยการตรวจสอบจากบัญชีรายชื่อไม่ใช่จากการหาข้อมูลจากรายบุคคล แต่ข่าวดีนั่นก็คือในปัจจุบันแหล่งข้อมูลต่างๆ สามารถให้รายละเอียดแบบเจาะลึก เราสามารถสอบถามกับผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตลาดหรือบรรดาเอเยนซีต่างๆ ได้ว่า ข้อมูลนี้มาจากการเก็บข้อมูลแบบไหน? ทำการสำรวจกับกลุ่มเล็กๆ หรือ ทำการสำรวจสำมะโนประชากรขนาดใหญ่

5.มนุษย์ไม่ได้อยู่แค่ในโลกของ Digital
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้นมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังเลือกที่จะใช้เวลานอกกรอบสี่เหลี่ยมของ Smart Phone ด้วยเช่นเดียวกัน แบรนด์ควรที่จะให้ความสำคัญกับการสื่อสารแบบอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก Digital Platform ด้วยเช่นเดียวกัน โดยสามารถทำงานร่วมกับเอเยนซีของท่านโดยใช้การจับข้อมูลต่างๆ มาทำการศึกษาและหาช่องทางที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการนอกเหนือช่องทาง Digital

6.มนุษย์ต้องการความเป็นส่วนตัว
ผู้คนยังต้องการจะสื่อสารกับแบรนด์แต่ต้องเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาพร้อมและต้องการเท่านั้น ตั้งแต่อดีตจนถึงยุค Digital นี้การเคารพในความเป็นส่วนตัวของกลุ่มเป้าหมายได้มีความสำคัญมากขึ้นถึงขีดสุด ข้อเสนอที่น่าสนใจจากแบรดน์จะได้รับการตอบสนองในเชิงบวกมากขึ้นต่อเมื่อมันเข้ามาถูกที่และถูกเวลา อีกสิ่งหนึ่งที่แบรนด์ต้องแน่ใจว่าทุกๆ อย่างที่เราสื่อสารออกไปนั้นไม่ได้เป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมาย

Digital Marketing เป็นสิ่งที่ทุกๆ แบรนด์กำลังให้ความสำคัญ ทั้งการสื่อสารที่ทำได้รวด เร็ว การเก็บข้อมูลเพื่อนำมาวัดผล

รูปแบบที่มีเสน่ห์และหลากหลาย แต่สิ่งที่แบรนด์จะไม่สามารถลืมได้เลยก็คือ ธรรมชาติและพฤติกรรมในการรับสารของมนุษย์ที่ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนไปเพื่อตอบรับกับเทคโนโลยีแต่ในทางกลับกันก็มีความละเอียดอ่อนมากขึ้นและที่สำคัญการสื่อสารแบบ Two-way Communication ก็ไม่ต่างอะไรกับดาบสองคมที่พร้อมจะให้ประโยชน์และให้โทษกับเราได้ตลอดเวลา นี่คือการบ้านที่สำคัญที่ทั้งตัว แบรนด์ และตัวเอเยนซีเองต้องทำการบ้านร่วมกันในการที่จะสื่อสารออกมาให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

Source : adweek.com

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560