ถอดถอน‘ทรัมป์’

25 พ.ค. 2560 | 04:10 น.
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวคราวถึงความต้องการที่จะให้มีการดำเนินการถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯมากขึ้นหลังจากที่เขาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทางการเมืองมากมายโดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์กับรัสเซีย จนถึงกับมีความพยายามขัดขวางกระบวนการสอบสวนของเอฟบีไอ ซึ่งถือว่าขัดขวางต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศทีเดียว

ความเป็นไปได้ที่จะถอดถอนทรัมป์นั้น มองว่าน่าจะเป็นแค่ “กระแส”มากกว่า และถึงแม้ว่าในที่สุดแล้วก็อาจจะมีเริ่มต้นกระบวนการจริง แต่ก็คาดว่าน่าจะกินระยะเวลานานไม่น้อยต้องมีกระบวนการสอบสวนอันยาวนาน และเสนอเรื่องเข้าสู่วุฒิสภา ซึ่งต้องไม่ลืมครับ ว่าพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ทั้งในสภาสูงและสภาล่าง

แม้ว่าภายในพรรครีพับลิกันนั้นจะมีสมาชิกบางกลุ่มที่ไม่เอาทรัมป์เช่นกัน แต่ก็คงจะไม่มีความเคลื่อนไหวถึงกับจะให้เปลี่ยนตัวประธานาธิบดีครับ เพราะอย่างน้อยรีพับลิกันเองก็ต้องแสดงออกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันให้มากก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งกลางเทอมในอีก 2 ปีข้างหน้า

[caption id="attachment_153358" align="aligncenter" width="468"] ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์[/caption]

ขณะที่ตัวทรัมป์เอง กระแสวิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเป็นผลมาจากพฤติกรรมของตัวเขาเอง ที่กำลังบริหารประเทศแบบซีอีโอบริษัทที่ชอบชี้นิ้วสั่งตามอำเภอใจแน่นอนว่า ทรัมป์อาจจะทำได้เมื่อเป็นซีอีโอบริษัท แต่กับการบริหารประเทศที่มีเรื่องของการเมืองและผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องนั้นทรัมป์ต้องปรับปรุงตัวใหม่เช่นกัน และต้องลดความร้อนแรงของตัวเองลง

ถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงพฤติกรรมแบบเดิมๆ ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอนครับกับการที่จะต้องเผชิญหน้ากับการผลักดันนโยบายต่างๆต่อไปในอนาคตท่ามกลางแรงเสียดทาน โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวใจสำคัญของการหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว และเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทุกฝ่ายในสหรัฐฯคาดหวัง

ไม่ว่าจะเป็นแผนการกระตุ้นการจ้างงานในสหรัฐฯ แผนการปฏิรูปและลดภาษี แผนการดึงเอกชนกลับเข้ามาลงทุนในประเทศ แผนการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค รวมไปถึงแผนการผ่อนคลายความเข้มงวดในกฎระเบียบภาคการเงิน

ซึ่งนโยบายเหล่านี้ ยังไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างจับต้องได้ในขณะนี้ครับ แต่กลับเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจ และประชาชนคาดหวังไว้อย่างมาก หากการดำเนินนโยบายเหล่านี้ล่าช้าออกไปแน่นอนว่า ความเชื่อมั่นต่อรีพับลิกันและตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เองนั้น จะยิ่งลดลงอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น การถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงไม่น่าจะได้รับการสนับสนุนจากบรรดาพลพรรครีพับลิกันเท่าไหร่นัก เพราะจะยิ่งเป็นการทำร้ายฐานเสียงของตัวเองและจะมีโอกาสทำให้รีพับลิกันสูญเสียคะแนนในศึกเลือกตั้งกลางเทอมอีก 2 ปีข้างหน้า แต่กระนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐานหลังจากนี้ที่จะพบอะไรที่เป็นการบ่งชี้ได้ว่าทรัมป์มีสายสัมพันธ์ มีผลประโยชน์กับรัสเซียจริงๆ เมื่อถึงตรงนั้นสถานการณ์ก็อาจจะแย่กว่านี้ได้

สำหรับตลาดทุนแล้ว วิกฤติการเมืองสหรัฐฯ เริ่มส่งผลกระทบต่อตลาดทุน ตลาดหุ้นสหรัฐฯอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะความวิตกกังวลต่อการผลักดันนโยบายด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ว่าจะเดินหน้าไปได้ตามที่เขาได้ให้คำมั่นสัญญาไว้หรือไม่

และปัจจัยนี้น่าจะทำให้ตลาดทุนสหรัฐฯตกอยู่ท่ามกลางสภาวะกังวลไปได้อีกนานทีเดียวครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,264 วันที่ 25 - 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560