รู้กฎก่อนรุก: 5 ขั้นตอนง่าย ๆ กับการขอวีซ่าทำงานที่นครกว่างโจว
กว่างโจว เมืองเอกและเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ภายในเมืองประกอบด้วย 12 เขต โดยข้อมูลในปี 2559 พบว่า เขตต่าง ๆ ในนครกว่างโจวถึง 10 เขต มีมูลค่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ GDP สูงกว่า 1 แสนล้านหยวน (ราว 5 แสนล้านบาท) ทำให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจของนครกว่างโจวในปีที่ผ่านมาเติบโตสูงถึง9% มีกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตสมัยใหม่และอุตสาหกรรมบริการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมซอร์ฟแวร์และเทคโนโลยีสารสนเทศบริการเติบโตสูงสุด 25% และคาดการณ์จะเติบโตถึง 8% ในปี 2560
นครกว่างโจวเป็นเมืองที่มีทำเลที่ตั้งใกล้เคียงกับเขตเศรษฐกิจสำคัญมากมายของจีน อาทิเช่น ฮ่องกง มาเก๊าเซินเจิ้น และหนานซา ซึ่งปัจจุบันได้รับการพัฒนาทางด้านระบบโลจิสติกส์ให้เชื่อมโยงซึ่งกันและกันทั้งทางถนนและทางเรือ รวมถึงการพัฒนาระบบการเงินข้ามพรมแดนให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่บวกกับนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลจีนยุคปัจจุบัน นั่นคือ นโยบาย “Made in China 2025”ส่งผลให้เกิดแรงผลักดันทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตที่ทันสมัย การเคลื่อนย้ายเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ และการหลั่งไหลของแรงงานเข้ามาในนครกว่างโจวมากยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของนครกว่างโจว
ในปี 2560 นี้ นครกว่างโจวได้ออกกฎหมายใหม่ เพื่อส่งเสริมการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการยื่นขอวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในนครกว่างโจว ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก และลดความยุ่งยากของขั้นตอนการสมัครวีซ่าทำงานชาวต่างชาติ ทั้งวีซ่าประเภท Z (วีซ่าทำงานและธุรกิจชั่วคราว)และวีซ่าประเภท R (วีซ่าทำงานสำหรับบุคคลที่มีความสามารถเเละเชี่ยวชาญพิเศษ) โดยใช้ระบบการบริหารงานอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ซึ่งสามารถจัดเก็บข้อมูลบุคคลของชาวต่างชาติแต่ละคนที่ทำงานในประเทศจีนเอาไว้ด้วย
สำหรับขั้นตอนการขอวีซ่ารูปแบบใหม่เพื่อเข้าไปทำงานในนครกว่างโจวมีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 ผู้ว่าจ้างลงทะเบียน “Foreign Experts Work Permit Notification” เพื่อขอทำการจ้างงานชาวต่างชาติ จากสำนักงานผู้เชี่ยวชาญการต่างประเทศ (Guangzhou Foreign Experts Bureau) ระยะเวลาดำเนินการ 5 วัน
ขั้นตอนที่ 2 ลูกจ้างชาวต่างชาติยื่นเอกสารขอหนังสือเชิญการจ้างงาน (invitation letter of duly authorized entity)” จากหน่วยงานพาณิชย์นครกว่างโจว (GuangzhouMunicipalCommissionOfCommerce) หรือสำนักงานการต่างประเทศนครกว่างโจว (Guangdong /Guangzhou Foreign Affairs Offices) ระยะเวลาดำเนินการ 5 วัน
ขั้นตอนที่ 3 เมื่อได้รับเอกสารอนุญาตจากข้อที่ 2 แล้ว ลูกจ้างชาวต่างชาตินำเอกสารดังกล่าวยื่นขอวีซ่าประเภท Z หรือ R กับสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่จีนประจำประเทศของตน เพื่อเดินทางเข้าจีน
ขั้นตอนที่ 4 ผู้ว่าจ้างยื่นขอใบอนุญาตทำงานสำหรับบุคคลที่มีความสามารถเเละเชี่ยวชาญพิเศษ “Foreign Experts WorkPermit” จากสำนักงานผู้เชี่ยวชาญการต่างประเทศของจีน
ขั้นตอนที่ 5 ลูกจ้างชาวต่างชาติยื่นขอใบอนุญาตพำนัก “Residence Permit” จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนครกว่างโจว(Guangzhou Municipal Public Security Bureau) ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 15 วัน
[caption id="attachment_152132" align="aligncenter" width="344"]
รู้กฎก่อนรุก: 5 ขั้นตอนง่าย ๆ กับการขอวีซ่าทำงานที่นครกว่างโจว[/caption]
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครกว่างโจว แนะนำว่า กฎใหม่นี้เป็นโอกาสดีของธุรกิจไทยที่จะขยายธุรกิจและใช้บุคลากรไทยในธุรกิจมากขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพและสนใจเข้าตลาดในนครกว่างโจว ซึ่งนอกจากธุรกิจด้านอาหารที่ไทยมีศักยภาพ ยังอาจเป็นธุรกิจในอุตสาหกรรมบริการ อาทิ ด้านการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โรงพยาบาล ที่สามารถเข้าไปเปิดตลาดในนครกว่างโจว ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง จึงถือเป็นโอกาสและตลาดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการไทย
พบกับอัพเดทความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.globthailand.com หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ [email protected]
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,263 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
นครกว่างโจวเป็นเมืองที่มีทำเลที่ตั้งใกล้เคียงกับเขตเศรษฐกิจสำคัญมากมายของจีน อาทิเช่น ฮ่องกง มาเก๊าเซินเจิ้น และหนานซา ซึ่งปัจจุบันได้รับการพัฒนาทางด้านระบบโลจิสติกส์ให้เชื่อมโยงซึ่งกันและกันทั้งทางถนนและทางเรือ รวมถึงการพัฒนาระบบการเงินข้ามพรมแดนให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่บวกกับนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลจีนยุคปัจจุบัน นั่นคือ นโยบาย “Made in China 2025”ส่งผลให้เกิดแรงผลักดันทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตที่ทันสมัย การเคลื่อนย้ายเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ และการหลั่งไหลของแรงงานเข้ามาในนครกว่างโจวมากยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของนครกว่างโจว
ในปี 2560 นี้ นครกว่างโจวได้ออกกฎหมายใหม่ เพื่อส่งเสริมการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการยื่นขอวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในนครกว่างโจว ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก และลดความยุ่งยากของขั้นตอนการสมัครวีซ่าทำงานชาวต่างชาติ ทั้งวีซ่าประเภท Z (วีซ่าทำงานและธุรกิจชั่วคราว)และวีซ่าประเภท R (วีซ่าทำงานสำหรับบุคคลที่มีความสามารถเเละเชี่ยวชาญพิเศษ) โดยใช้ระบบการบริหารงานอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ซึ่งสามารถจัดเก็บข้อมูลบุคคลของชาวต่างชาติแต่ละคนที่ทำงานในประเทศจีนเอาไว้ด้วย
สำหรับขั้นตอนการขอวีซ่ารูปแบบใหม่เพื่อเข้าไปทำงานในนครกว่างโจวมีดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 ผู้ว่าจ้างลงทะเบียน “Foreign Experts Work Permit Notification” เพื่อขอทำการจ้างงานชาวต่างชาติ จากสำนักงานผู้เชี่ยวชาญการต่างประเทศ (Guangzhou Foreign Experts Bureau) ระยะเวลาดำเนินการ 5 วัน
ขั้นตอนที่ 2 ลูกจ้างชาวต่างชาติยื่นเอกสารขอหนังสือเชิญการจ้างงาน (invitation letter of duly authorized entity)” จากหน่วยงานพาณิชย์นครกว่างโจว (GuangzhouMunicipalCommissionOfCommerce) หรือสำนักงานการต่างประเทศนครกว่างโจว (Guangdong /Guangzhou Foreign Affairs Offices) ระยะเวลาดำเนินการ 5 วัน
ขั้นตอนที่ 3 เมื่อได้รับเอกสารอนุญาตจากข้อที่ 2 แล้ว ลูกจ้างชาวต่างชาตินำเอกสารดังกล่าวยื่นขอวีซ่าประเภท Z หรือ R กับสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่จีนประจำประเทศของตน เพื่อเดินทางเข้าจีน
ขั้นตอนที่ 4 ผู้ว่าจ้างยื่นขอใบอนุญาตทำงานสำหรับบุคคลที่มีความสามารถเเละเชี่ยวชาญพิเศษ “Foreign Experts WorkPermit” จากสำนักงานผู้เชี่ยวชาญการต่างประเทศของจีน
ขั้นตอนที่ 5 ลูกจ้างชาวต่างชาติยื่นขอใบอนุญาตพำนัก “Residence Permit” จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนครกว่างโจว(Guangzhou Municipal Public Security Bureau) ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 15 วัน
[caption id="attachment_152132" align="aligncenter" width="344"]
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครกว่างโจว แนะนำว่า กฎใหม่นี้เป็นโอกาสดีของธุรกิจไทยที่จะขยายธุรกิจและใช้บุคลากรไทยในธุรกิจมากขึ้น รวมทั้งผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพและสนใจเข้าตลาดในนครกว่างโจว ซึ่งนอกจากธุรกิจด้านอาหารที่ไทยมีศักยภาพ ยังอาจเป็นธุรกิจในอุตสาหกรรมบริการ อาทิ ด้านการท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ โรงแรม โรงพยาบาล ที่สามารถเข้าไปเปิดตลาดในนครกว่างโจว ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง จึงถือเป็นโอกาสและตลาดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการไทย
พบกับอัพเดทความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.globthailand.com หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ [email protected]
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,263 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560