คงไม่ช้าเกินไปนะครับ ที่หยิบเอาเรื่อง "กระตุ้นเศรษฐกิจ" ขึ้นมาเป็นประเด็น....เพราะผมก็อดถามตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม?รัฐบาลและคสช. จึงกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีการแจกเงินให้คนจน....เนื่องจากวิธีการแบบนี้ มีแต่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นที่เอามาใช้เพื่อการหาเสียง!?!?
และเมื่อว่ากันตามจริง โดยไม่ต้องอธิบายให้มากความคำว่ากระตุ้นเศรษฐกิจก็บอกชัดเจนอยู่แล้ว ว่า เพื่อจะช่วยกิจการให้คนรวยเป็นประการสำคัญ ซึ่งดูได้จากที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดก่อนๆ ที่มักใช้วิธี "อัด-ฉีด" เงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจเพื่อให้มีเงินหมุนเวียน
จนถูกเรียกว่า "รัฐบาลประชานิยม"....ทั้งที่ สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเงินฝืดมีหลายสาเหตุ อาทิเช่น รัฐบาลนำเงินไปลงทุนในโครงการใหญ่ๆ แต่เงินก็ไม่เข้าไปหมุนเวียนในระบบ ตรงข้ามเงินที่อัด-ฉีดเข้าไปกลับอยู่ในมือคนรวยเพียงไม่กี่คน? และคนรวยที่มีเงินไม่กี่คนนี้ ก็มักจะจับจ่ายซื้อของราคาแพงๆ หรือไม่งั้นก็เอาเงินไปลงทุนซื้อเครื่องจักรกลขนาดใหญ่จากต่างประเทศ รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ
เมื่อเงินที่อัด-ฉีดไม่ตกมาถึงมือประชาชนทั่วไป ปริมาณเงินในประเทศก็ไม่เพียงพอที่ทำให้เศรษฐกิจเกิดการไหลเวียน สุดท้ายก็เกิดความเหลื่อมล้ำ อันสืบเนื่องจากปัญหาเงินหายไปจากระบบเศรษฐกิจ!!!!
พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อคนจนไม่มีเงินอยู่ในมือก็จะไม่เกิดการสร้างงาน-สร้างรายได้ เพราะเงินมันฝืด การทำมาหากินอะไร?ก็จะยากลำบากมากขึ้น ไม่นับรวมการขายสินค้าต่างๆ ที่แทบจะไม่มีคนซื้อ.... เมื่อพ่อค้า-แม่ค้าไม่รวยขึ้น ก็จะไม่มีการจ้างงานและคนจนก็จะ "ว่างงาน" ไม่มีรายได้??
สมัยที่การท่องเที่ยว "บรึม" สุดขีด และเมืองท่องเที่ยวหลายแห่งเติบโตอย่างรวดเร็วนั้น จังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวทุกแห่งมีการสร้างงานกันมาก และผมจำได้ว่า ค่าแรงขั้นต่ำในยุคที่ยังไม่ถึง ๓๐๐ บาท/ต่อวันนั้น เชียงใหม่ ภูเก็ต/และพัทยา ค่าจ้างแรงงานก่อสร้างทั่วไป ตกวันละ 400-500 บาทเลยทีเดียว (ขณะที่แรงงานช่างฝีมือตกวันละ 800 บาท)
แต่สมัยนี้ ไม่เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว คนเข้ามาขายแรงงานในเมืองมากขึ้นจริง แต่ก็อยู่กันอย่างปากกัดตีนถีบ ตรงข้ามกับตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ไม่ได้เพิ่มเป็นสัดส่วนที่เหมาะสมกัน และเกิดภาวะเงินฝืดขึ้นทั่วไป
การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีแจกเงินให้คนจน จริงๆ แล้ว คนจนไม่ได้อะไร?จากแนวนโยบายนี้ เงินที่ได้รับแจกไม่พอใช้ครบเดือนด้วยซ้ำ เพราะแจกคนละ 1,000 บาทจะไปพอใช้อะไร เหมือนคนถูกโจรปล้นไป 1หมื่นบาท แล้วพบคนสงสารให้เงิน 50 บาทไปใช้....นี่ เรียกว่า กระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร?เพื่อให้กิจการของคนรวยมีเงินไหลเวียนล่ะไม่ว่า!?!?
แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของการ "กระตุ้นเศรษฐกิจ" คือ การเดินเข้าสู่หลุมดำ และเงินที่มันขาดหายไปจากระบบ เพราะรัฐบาลเอาไปลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ โครงการขนาดใหญ่นั้นก็ไม่ได้เป็นประโยชน์กับคนจนส่วนใหญ่ แต่เป็นประโยชน์สำหรับคนรวยส่วนน้อยของประเทศ คนรวยจะได้มีช่องทางหากินสะดวกขึ้นไปอีก
ส่วนคนจนก็ได้เป็น "ทาสแรงงาน" ที่ไม่มีวันโตต่อไป เพราะถ้าคนจนลืมตาอ้าปากได้หมด คนรวยก็ไม่มีทาสแรงงานทำงานให้ ดังนั้น รัฐบาลจึงควบคุมคนจนด้วยวิธี "กระตุ้นเศรษฐกิจ" แบบนี้ ขณะที่คนจนไม่เอะใจ ว่า สังคมที่ตัวเองอาศัยและหากินอยู่นี้ ทำงานแค่ไหน?ก็ไม่พอใช้อยู่ตลอดชีวิต ปัญหาก็คือ เมื่อเราถูกกระทำ เราก็ต้องเรียนรู้เพื่อหาทางปลดแอก....นี่ต่างหากที่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
และเราจะต้องตาม "เกม" ให้ทันเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของบรรดานักแสวงหาผลประโยชน์ในที่สุด
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,237 วันที่ 19 - 22 กุมภาพันธ์ 2560