New Year Eve R-E-B-I-R-T-H New Leadership in You (1)

01 ม.ค. 2560 | 00:00 น.
หลายคนทำงานหนักมาทั้งปีแต่มักมีคำถามว่าความสำเร็จที่ได้มานั้นมักจะตามมาด้วยความตึงเครียดกับเพื่อนร่วมงาน กับเจ้านาย กับลูกค้าและบางครั้งก็กลับมาระบายกับคนที่เรารักที่บ้านอีกด้วย

ปีใหม่นี้ผู้เขียนอยากเชิญชวนให้เราหาเวลามาเพิ่มพลัง มาเปลี่ยนมุมมอง มาตั้งศูนย์และชุบชีวิตใหม่เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขในการก้าวไปสู่ความสำเร็จในปีหน้าด้วยกระบวนการชุบชีวิตที่มีอยู่ 7 ขั้นตอนด้วยกันก็คือ R-E-B-I-R-T-H นั่นก็คือ

 R-Re-Priority what we do

การหยุดอย่างมีสติเพื่อมาถามตัวเองว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นมันสำคัญและมีค่าจริงๆหรือไม่ เพราะหลายอย่างที่เราทำนั้นมันอาจจะเป็นเพียง Autopilot หรือสิ่งที่เราทำโดยอัตโนมัติ เป็นความเคยชินเป็นความสำเร็จที่สังคมรอบข้างบอกว่าสำคัญ แต่ในใจเรากลับเหือดแห้ง บางครั้งเราได้มาถึงความสำเร็จแต่คุณค่าของความสำเร็จนั้นมิได้ทำให้หัวใจเราพองโตแม้แต่น้อย

การย้อนกลับมาดูถึงความสำคัญของสิ่งที่เราทำกับชีวิต ว่าอะไรเป็นสิ่งสำคัญแม้จะไม่เร่งด่วนแต่เมื่อทำแล้วมันกลับให้คุณค่ากับเราอย่างมาก เช่นเราไม่เคยให้เวลากับคุณพ่อคุณแม่เพราะมุ่งแต่จะทำงานหาเงิน คิดว่าเมื่อมีเงินเราจะมีเวลาค่อยกลับไปหาก็ยังทัน

แต่บางคนกลับเสียใจเพราะเมื่อมีเวลามันจะมันสายไป เราจะสูญเสียคุณค่าที่เวลาไม่สามารถย้อนกลับมาได้ เพราะเมื่อเรามีเงินอย่างที่เราอยากได้แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่แล้ว เวลาที่เราใช้แต่หาเงินมันไม่สามารถย้อนกลับมาได้เพราะท่านไม่มีชีวิตอยู่ให้เราดูแล เราทำดีที่สุดก็คือไปเคารพหลุมศพท่าน ในขณะที่ท่านยังอยู่เรากลับไม่ได้ใช้เวลาที่มีค่าไปดูแลท่าน

บางครั้งเรารู้สึกว่าเราทำอะไรก็ไม่รู้ในแต่ละวันและหมดไปอย่างไม่มีคุณค่า สิ่งที่เราอยากทำกลับไม่มีเวลา พลังของชีวิตเริ่มเหือดแห้งไป การมีเวลาหยุดและถามตัวเอง ถามคนที่เรารักและสำคัญในชีวิตเพื่อร่วมจัดลำดับความสำคัญ บางครั้งหาเงินมาเพื่อให้ได้บ้านใหญ่โตแต่ไม่ได้มีคนที่รู้ใจอยู่บ้านก็คงไม่มีประโยชน์อันใด ดังในหนังโฆษณาที่ว่า "คุณพ่อต้องทำงานดึกๆทุกวันเพื่อให้ได้บ้านหลังใหญ่ แต่หนูอยากได้เวลาคุณพ่ออยู่กับหนูในบ้านหลังเล็กๆแต่อบอุ่นก็พอคะ"

 E-Emotional Management

อารมณ์ของเราในแต่ละวันก่อนกลับถึงบ้านเป็นบวกหรือลบมากกว่ากัน บัญชีทางอารมณ์ของเราก็เปรียบเสมือนบัญชีในธนาคารที่มีทั้งฝากและถอน ถ้าตอนเย็นๆเรามีแต่อารมณ์ที่เป็นลบกลับบ้านเป็นตัวแดงทุกวันก็เปรียบเสมือนบัญชีเงินฝากเราติดลบทุกวัน สภาวะทางจิตใจและอารมณ์เราจะสั่นไหวและอ่อนไหวกับสิ่งเร้าที่มากระทบเราได้ง่าย ผู้บริหารบางคนที่อารมณ์เป็นตัวแดงทุกวันพอลูกพูดอะไรไม่ถูกใจเข้าหน่อยก็จะสติแตกได้โดยง่าย

ถ้าสิ่งที่เราต้องทำในชีวิตทำให้ต่อมเครียดเราทำงานอยู่เสมอๆ โอกาสที่เราจะมีลักษณะอารมณ์ที่เป็นตัวแดงก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย ในทางตรงกันข้ามถ้าสิ่งที่เราต้องทำกระตุ้นให้ต่อมสุขใจได้ทำงานทุกวันอารมณ์ที่เป็นบวกก็จะเกิดขึ้นบัญชีทางอารมณ์ของเราก็จะเกิดผลรวมที่มีความเย็น มีความสุขและมีอารมณ์ที่มีภูมิต้านต้านความเครียดได้เป็นอย่างดี

ยิ่งถ้าผู้บริหารสามารถมีทักษะในการบริหารอารมณ์หรือที่เราเรียกว่า Emotional Management ด้วยแล้ว เมื่ออุณหภูมิทางอารมณ์เรามีความเย็นเราก็สามารถจะมีสติและปัญญาในการเฝ้ามองสิ่งที่จะมากระทบเราได้อย่างละเอียดและมีทางเลือกในการตอบสนองได้อย่างหลากหลายมากขึ้น

การเข้าใจต่อมสุขใจและต่อมเครียดและการบริหารทั้ง 2 ต่อมในแต่ละวันเป็นประสบการณ์และทักษะที่สำคัญที่ทำให้ตัวเราและทีมงานทำงานอย่างมีความสุขและมีรอยยิ้มในการทำงานมากขึ้น ถ้าเรามีรอยยิ้มจากต่อมสุขใจเสมอในแต่ละวันเราก็สามารถที่จะแบ่งปันความสุขและแนวทางที่จะช่วยเหลือผู้อื่นให้มีความสุขเช่นกัน

คราวหน้าเราคงมาดูกันต่อนะครับว่า อีก 5 ตัวของ R-E-B-I-R-T-H มันคืออะไรกันที่ทำให้เรามีรอยยิ้มและมีความสุขในการเดินทางสู่ความสำเร็จมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,222 วันที่ 29 - 31 ธันวาคม 2559