สรุป มติ ครม. 6  กันยายน 2559

06 ก.ย. 2559 | 10:10 น.
ไฟเขียวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีทอง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ ( 6 ก.ย.2559 ) เห็นชอบในหลักการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสีทองตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรีไปถึงสถานีประชาธิปก ระยะทาง 2.68 กิโลเมตรโดยให้ กทม.รับไปดำเนินการและศึกษารูปแบบที่เหมาะสม ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2ระยะ คือ ระยะที่  1 ช่วงถนนกรุงธนบุรี แยกคลองสาน (BTS กรุงธนบุรี-โรงพยาบาลตากสิน  รวมระยะทาง 1.72กิโลเมตร (3 สถานี) เริ่มต้นจากสถานีรถไฟฟ้า BTS  สถานีกรุงธนบุรี โดยแนวเส้นทางจะวิ่งมาตามถนนกรุงธนบุรีมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญนครผ่านวัดสุวรรณารามมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือไปตามถนนเจริญนคร ผ่านถนนเจริญรัถผ่านแยกคลองสาน และสิ้นสุดระยะที่ 1 หน้าโรงพยาบาลตากสิน ทั้งนี้ คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2561

ส่วนระยะที่  2 ช่วงถนนสมเด็จเจ้าพระยา ถนนประชาธิปก (โรงพยาบาลตากสิน–วัดอนงคารามวรวิหาร) รวมระยะทาง 0.96 กิโลเมตร 1สถานี เริ่มจากหน้าโรงพยาบาลตากสินถนนสมเด็จเจ้าพระยา โดยแนวเส้นทางจะวิ่งคู่ขนานไปกับคลองสมเด็จเจ้าพระยาผ่านสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยาข้ามถนนท่าดินแดง มุ่งหน้าสู่ถนนประชาธิปกและสิ้นสุดระยะที่ 2 ก่อนถึงบริเวณหน้าวัดอนงคารามวรวิหาร จะเปิดให้บริการตามการพัฒนาของรถไฟฟ้าสายสีม่วง คาดว่า จะเป็นช่วงปลายปี 2565

เทงบ 225 ล.สร้างทางเข้าอู่ตะเภา

ที่ประชุม ครม. (6  ก.ย.2559) อนุมัติการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 งบกลางจำนวน 30 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 จำนวน 170 ล้านบาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 จำนวน 25.10 ล้านบาท รวม 225.1 ล้านบาท ให้กรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3126 เข้าสู่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ตามแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกให้เสร็จภายใน 3 ปี

ชดเชยผู้ได้รับผลกระทบก่อสร้างอากาศยานภูเก็ตกว่า 3 พันล.

ที่ประชุม ครม.(6 ก.ย.2559) เห็นชอบการขออนุมัติขยายกรอบวงเงินลงทุนเพื่อการดำเนินการชดเชยผลกระทบด้านเสียง สืบเนื่องจากโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวน 3,069.895 ล้านบาท จากเดิมที่ได้รับอนุมัติไว้จากครม.เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2552 มีวงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 5,791.122 ล้านบาท (รวมสำรองราคาเปลี่ยนแปลง 10% และภาษีมูลค่าเพิ่ม7%) ซึ่งจะทำให้วงเงินลงทุนรวมของโครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 8,861.017 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากเงินรายได้ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)

สานพลังประชารัฐพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ

ที่ประชุม ครม.(6 ก.ย.2559) มีมติเห็นชอบการสนับสนุนโครงการสานพลังประชารัฐ-การพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐตามประเด็นที่ภาคเอกชน (บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ) เสนอขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ

สาระสำคัญของโครงการฯ เป็นการพัฒนาพื้นที่บึงบางซื่อของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย เป็นพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้กับชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาในปัจจุบันที่ประชาชนเข้ามาบุกรุก และสร้างเป็นที่พักอาศัยอย่างหนาแน่นในลักษณะชุมชนแออัด ทำให้สภาพแวดล้อมในบริเวณดังกล่าวเสื่อมโทรม ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ไม่สามารถขอทะเบียนราษฎร์และเข้าถึงการให้บริการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐได้ รวมทั้งทางเข้า - ทางออก ที่ชุมชนใช้อยู่ในปัจจุบันยังไม่ได้ขออนุญาตการใช้อย่างถูกต้องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ก.คลังจึงเสนอขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐ เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวให้เป็นโครงการต้นแบบที่ภาคธุรกิจมีส่วนร่วมในการสนับสนุนนโยบายประชารัฐ โดยขอความร่วมมือจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อเป็นทางเข้า - ทางออกและพื้นที่จอดรถของโครงการฯ

และขอให้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อขับเคลื่อนให้การทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับแนวทางประชารัฐของรัฐบาล ซึ่งเป็นแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน รวมทั้งเป็นการดำเนินการตามนโยบายการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559

ยกเลิกปรับปรุงแหล่งน้ำลุ่มน้ำยมและน่าน 395 โครงการ  

ที่ประชุม ครม.(6 ก.ย.2559) สั่งยกเลิกโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำในปี 2559 ของสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 9 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำยมและน่านรวม 6 จังหวัด 395 โครงการ วงเงิน 182 ล้านบาท เพื่อป้องกันความเสียหายอันเนื่องจากพบความไม่โปร่งใส

 

เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ชาติก.พาณิชย์ ระยะ 20 ปี

ที่ประชุม ครม.(6 ก.ย.2559) เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์กระทรวงพาณิชย์ ระยะ 20 ปี (กรกฎาคม 2559-2579) ซึ่งประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก คือ 1.การพัฒนาผู้ประกอบการแบบครบวงจร 2.การพัฒนาระบบการค้าให้มีประสิทธิภาพ 3.การเสริมสร้างบทบาทผู้บริโภค และ 4.การบูรณาการกับระบบการค้าโลก

 แต่งตั้ง“นันทวัลย์ ศกุนตนาค” นั่ง อธิบดีกรมการค้าภายใน 

ที่ประชุม ครม. (6 ก.ย.2559) แต่งตั้ง นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าภายใน

ดึง “บรรจงจิตต์” นั่ง อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

พร้อมกันนี้ที่ประชุมครม.(6 ก.ย.2559) แต่งตั้ง “นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์” ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

แต่งตั้ง ผ่องพรรณ/วิชัย นั่ง รองปลัดฯ

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.(6  ก.ย.2559) ตั้งแต่ง นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งยังอนุมัติให้ “นายวิชัย โภชนกิจ” ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

แต่งตั้ง “จารุนันท์  สุทธิประภา” นั่ง ผอ.สำนักยุทธศาสตร์ฯ

ที่ประชุม ครม.(6 ก.ย.2559) แต่งตั้ง นางสาวจารุนันท์ สุทธิประภา ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และการวางแผนพัฒนาพื้นที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

แต่งตั้ง“ดนุชา สินธวานนท์” นั่ง เลขา กปร.

ที่ประชุม ครม.(6 ก.ย.2559)  แต่งตั้ง นายดนุชา สินธวานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป