“ปลัดพาณิชย์”ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ติดตามความคืบหน้าการทำนาแปลงใหญ่

16 พ.ค. 2559 | 09:36 น.
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อติดตามความคืบหน้าการปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ ซึ่งเป็นไปตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยเป็นการมาติดตามว่าปัญหาการผลิตอยู่ตรงไหน ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างไร และตลาดรองรับผลผลิตเป็นอย่างไร รวมถึงปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้รวบรวมและดำเนินการปรับปรุงแก้ไขต่อไป

“จะไปติดตามดูว่า หลังจากที่กระทรวงฯ ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมตัวกันปลูกข้าวนาแปลงใหญ่แล้ว ตอนนี้ยังมีปัญหาติดขัดอะไร การลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ทำได้มากน้อยแค่ไหน และตลาดรองรับผลผลิต ที่ได้ทำงานร่วมกับโรงสี ผู้ประกอบการ มีความคืบหน้าเป็นอย่างไรในการรองรับผลผลิตที่จะออกมา ซึ่งเมื่อรู้ปัญหาเร็ว ก็จะแก้ไขได้เร็ว เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์สูงสุด”

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ประสานงานหลักในพื้นที่ เพื่อผลักดันให้โครงการนาแปลงใหญ่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยหากเกษตรกร โรงสี และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมผลักดันโครงการ มีปัญหา ก็ให้ติดต่อประสานงานไปยังพาณิชย์จังหวัดได้ เพื่อแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น แต่หากปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ในระดับพื้นที่ ก็ให้เสนอเข้าสู่ส่วนกลาง เพื่อดำเนินการแก้ไข

สำหรับจังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ทำนา 1.6 ล้านไร่ มีผู้ประกอบการโรงสี 10 ราย และท่าข้าว 50 แห่ง และหลังจากที่ได้เข้าไปสนับสนุนให้เกษตรกรทำนาแปลงใหญ่ มีพื้นที่เข้าโครงการ 7 แห่ง ใน 7 อำเภอ พื้นที่รวมประมาณ 13,000 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วม 1,125 ราย โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการไปดูพื้นที่ของศูนย์ข้าวนาแปลงใหญ่ ต.หนองทุ่ม อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ มีพื้นที่ 1,091 ไร่ มีเกษตรกร 74 รายเข้าร่วมโครงการ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ มีแผนที่จะลงพื้นที่ไปติดตามดูความคืบหน้าโครงการนาแปลงใหญ่ ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ต่อไป เพื่อเข้าไปแนะนำเกษตรกรให้ปลูกข้าวให้ตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการใช้การตลาดนำการผลิต รวมถึงการติดตาม     ความคืบหน้าการใช้ “ประชารัฐ” ในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทย ที่จะมีการสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกข้าวคุณภาพดีที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และทำการเชื่อมโยงผลผลิตเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมแปรรูป เพื่อให้มีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกรและผลิตภัณฑ์ข้าวของไทย

น.ส.ชุติมากล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ กระทรวงฯ ยังได้เข้าเยี่ยมชม บริษัท เมดิฟูดส์ (ประเทศไทย) จำกัด และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปรรูปข้าวเพื่อสุขภาพ (ข้าวอารมณ์ดี) เพื่อผลักดันให้มีการนำนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวเพิ่มมากขึ้น เพราะถือเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวไทยอย่างยั่งยืน โดยจะผลักดันให้มีการพัฒนาข้าวไทยไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทย แต่ยังช่วยให้เกษตรกรไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น จากรายได้ที่สูงขึ้นด้วย