กสิกรไทย สปป.ลาว ตั้งเป้าสินเชื่อ  1.5 พันล้านบาท

16 พ.ค. 2559 | 07:59 น.
[caption id="attachment_53415" align="aligncenter" width="336"] Pattanapong02 พัฒนพงศ์ ตัณฑ์สมบุญ[/caption]

นายพัฒนพงศ์ ตัณฑ์สมบุญ  ผู้ช่วยกรรมการผุ้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงผลดำเนินงานของธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว ที่ดำเนินกิจการมาครบ 1 ปี ว่า มีผลดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย โดยปี 2558 มียอดเงินฝากประมาณ  760 ล้านบาท ยอดสินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อยและธุรกิจรวม 425 ล้านบาท และมีปริมาณธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว ให้บริการทางเงินทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล อาทิ  บริการโอนเงินระหว่างประเทศจากธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว ไปยังสาขาของธนาคารกสิกรไทยในประเทศไทยที่สามารถรับเงินได้ภายในวันเดียว บริการเงินฝากในสกุลเงินท้องถิ่นและสกุลเงินต่างประเทศ การให้สินเชื่อสามสกุลเงิน ได้แก่ กีบ ดอลลาร์สหรัฐฯ และบาท บริการที่ปรึกษาและจับคู่ธุรกิจแก่นักลงทุนจากไทยและต่างชาติที่สนใจทำการค้าการลงทุนใน สปป.ลาว

สำหรับในปี 2559 ธนาคารกสิกรไทย จะให้ความสำคัญในการปล่อยสินเชื่อใน สปป.ลาว มากขึ้น เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของลาวยังขยายตัวได้ ลูกค้ายังมีความต้องการสินเชื่อเพื่อขยายและหมุนเวียนธุรกิจ โดยเฉพาะการค้าชายแดน ในขณะที่ธนาคารก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มเงินฝากเป็น 1,200 ล้านบาท ยอดสินเชื่อรวมเป็น 1,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 250% มีปริมาณธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท และวางแผนจะขยายช่องทางการให้บริการ โดยจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 1 สาขาที่ถนนลานช้าง เมืองจันทบุรี นครหลวงเวียงจันทน์ ภายในปีนี้

นอกจากนั้นธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว ยังจะเพิ่มบทบาทในการสนับสนุนและเชื่อมโยงลูกค้าธุรกิจในการให้คำปรึกษา การจับคู่ธุรกิจ การให้สินเชื่อ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีธุรกรรมการค้าระหว่าง สปป. ลาว และไทย รวมถึงบริการพิเศษสำหรับลูกค้าบุคคลที่มีสินทรัพย์สูง โดยการเปิดเดอะวิสดอม เลาจ์ ซึ่งธนาคารกสิกรไทย สปป. ลาว เป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่เปิดให้บริการใน สปป.ลาว จึงได้รับความนิยมจากลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก เนื่องจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ระดับ THE WISDOM ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้ง 2 ด้านของลูกค้า ทั้งบริการทางการเงินเหนือระดับ และสิทธิพิเศษทางด้านไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ทั้งใน สปป. ลาว และไทย

นายพัฒนพงศ์ กล่าวว่า การที่ธนาคารกสิกรไทย ได้รับอนุญาตเปิดดำเนินการเป็นธนาคารท้องถิ่นของ สปป.ลาว ทำให้สามารถทำธุรกิจได้ครบวงจร และมีการนำรูปแบบบริการในไทยไปพัฒนาให้บริการใน สปป.ลาว จนประสบความสำเร็จ เช่น กลุ่มเอสเอ็มอี ลูกค้าบุคคลที่มีสินทรัพย์สูงที่ธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำในตลาดประเทศไทย ส่งผลให้ธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว สามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ปีแรกที่เปิดดำเนินการ

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว ยังมีบทบาทในด้านการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศ เนื่องจากปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศของไทยกับ สปป.ลาว มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไทยเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของ สปป.ลาว โดยในปี 2558 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 193,200 ล้านบาท เติบโต 10.08% จากปีก่อนหน้า โดยเป็นการค้าชายแดนในสัดส่วนสูงถึง 90% ซึ่งหากสามารถดึงธุรกรรมบางส่วนเข้าสู่ระบบธนาคารพาณิชย์ก็น่าจะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและช่วยขยายการค้าระหว่างสองประเทศได้

นอกจากความมุ่งมั่นที่จะช่วยพัฒนาด้านเศรษฐกิจของ สปป.ลาว แล้ว ทางธนาคารยังให้ความสำคัญกับการศึกษาและการพัฒนาบุคลากรใน สปป.ลาว โดยริเริ่มคัดเลือกนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่มีผลการเรียนและความประพฤติดีจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว (National University of Laos) และสถาบันการธนาคารแห่งชาติลาว (Banking Institute of Laos) สถาบันละ 2 คน รวม 4 คน เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างประสบการณ์และเรียนรู้แนวทางการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย ที่มีการแข่งขันทางด้านการตลาดและบริการทางการเงินที่ก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน ซึ่งโครงการดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารกสิกรไทยที่ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างทรัพยากรมนุษย์ (Human Capital)  ทั้งด้านการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และการเป็นสถาบันการเงินที่ให้องค์ความรู้ด้านการธนาคารแก่บุคลากรในสังคมเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป