ราคาน้ำมันดิบลดลง จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

16 พ.ค. 2559 | 03:10 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ. ไทยออยล์วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 16 พฤษภาคม 2559

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นกว่า 3 วันติดต่อกัน เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขการค้าปลีกและตัวเลขดัชนีผู้บริโภคสหรัฐฯ ประกาศออกมาอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมีความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งครั้งภายในปีนี้

+ แต่อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงสนับสนุนจากรายงานตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่องกันเป็นเวลา 8 สัปดาห์ติดต่อกันสู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2552 ที่ผ่านมา

+ นอกจากนี้ ความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบในไนจีเรียซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของทวีปแอฟริกายังคงสนับสนุนราคาน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่บริษัทขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ได้ประกาศงดส่งออกน้ำมันดิบด้วยเหตุสุดวิสัย จากการที่ท่อขนส่งน้ำมันดิบได้รับความเสียหาย โดยกำลังการผลิตน้ำมันดิบของทวีปแอฟริกาปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.65 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณอุปทานในภูมิภาคปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงน้ำมันเบนซินที่เก็บอยู่ในเรือที่ลำอยู่ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะขายออกเมื่อราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดูไบ แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ปริมาณอุปทานค่อนข้างดึงตัว

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์หน้า

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กชัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-49 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-50เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ความไม่สงบในประเทศไนจีเรียที่ส่งผลให้การผลิตน้ำมันดิบเดือน พ.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปีที่ 1.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลัง Shell อพยพคนงานออกจากแหล่งผลิตน้ำมัน Bonga (กำลังการผลิต 90,000 บาร์เรลต่อวัน) เนื่องจากถูกโจมตี ขณะที่ Chevron เองก็หยุดการผลิตน้ำมันในแหล่ง Okan (กำลังการผลิต 35,000 บาร์เรลต่อวัน) ด้วย

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มจะลดลงต่อหลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายงานโดย EIA ณ วันที่ 6 พ.ค. ปรับตัวลดลงกว่า 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 8.80 ล้านบาร์เรลต่อวัน

จับตาว่าการผลิตน้ำมันดิบแคนาดาจะกลับมาเป็นปกติได้เร็วแค่ไหน หลังสถานการณ์ไฟป่าที่ประเทศแคนาดาเริ่มคลี่คลาย ซึ่งก่อนหน้านี้เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทน้ำมันรวมทั้งสิ้นกว่า 11 รายมีการลดกำลังการผลิตลงไปกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน