อสังหาฯเหนือวูบ80% โควิด3หนักกว่า“ต้มยำกุ้ง”

21 พ.ค. 2564 | 22:10 น.

อสังหาฯเชียงใหม่โอด โควิดรอบ 3 หนักกว่าต้มยำกุ้ง กำลังซื้อวูบ 80% ราคาร่วง 25 %ไร้คนเดิน หันอัดแหลกโปรโมชั่นออนไลน์ “อยู่ฟรี 3 ปี” ร้องรัฐขยายเพดานลดค่าธรรมเนียมโอนถึงบ้าน 5 ล้าน

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เชียงใหม่โอด โควิดรอบ 3 กระทบหนักกว่าต้มยำกุ้ง กำลังซื้อวูบ 80% ราคาร่วง 25% แม้แต่จะดูโครงการยังไม่มี เปิดบูธขายก็ไม่ได้ ต้องอัดโปรโมชั่นออนไลน์อย่างเดียว แคมเปญลดแหลก“อยู่ฟรี 3 ปี” โครงการใหม่เงียบสนิท ร้องรัฐขยายเพดานลดค่าธรรมเนียมโอนจากบ้าน 3 ล้านเป็น 5 ล้าน

 

นายนนท์ หิรัญเชรษฐ์สกุล นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือ ภาพรวมภาคอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่เวลานี้ ถือว่าเป็นช่วงขาลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เทียบกับตอนต้มยำกุ้งปี 2540 ยังไม่สาหัสเท่าตอนนี้ กำลังซื้ออ่อนลงมาก คนก็ตกงาน ธุรกิจก็ปิดตัว สภาพคล่องหายไปจากระบบถึง 80% โดยการระบาดเชื้อโควิด-19 มาซ้ำเติมตลาดที่เริ่มส่งสัญญาณไม่ดีมาตั้งแต่ปี 22561 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการคุมการปล่อยสินเชื่ออสังหาฯ เพื่อป้องกันตัวเลขหนี้ NPL ที่กำลังสูงขึ้นในหลาย ๆ สถาบันการเงิน ซึ่งยังไม่รู้โควิด-19 จะจบเมื่อไหร่ ยังดีที่ภาครัฐออกมาตรการเยียวยามาพยุง ซึ่งต้องพยายามประคองให้พ้นปี 2564 พยายามไปให้ถึงกลางปี 2565 ให้ได้

สถานการณ์แบบนี้ธุรกิจอสังหาฯต้องอัดแคมเปญหนักเพื่อดึงกำลังซื้อปี 2564 ที่มีจำกัดกันเต็มที่ เพื่อลดความเสี่ยง พยายามดึงเงินสดเข้าเป็นสภาพคล่องบริษัทหรือองค์กรตนเอง ถือเงินสดไว้ในมือให้นานที่สุด ระบายสต๊อกเก่าออกให้หมดก่อน มีการออกโปรโมชั่นแรง เช่น ผ่อนดาวน์กับโครงการยาว 3 ปีขึ้น อยู่ฟรีก่อน 1-2 ปีค่อยโอน ระหว่างนี้เจ้าของโครงการจ่ายแทนไปก่อน พร้อมกับลดราคาขายลง 20-25 % โดยพยายามบริหารสต๊อกตามดีมานด์ของตลาด พยายามสุดฤทธิ์ประคองตัวให้อยู่รอดไปให้ได้เพื่อรักษาภาพลักษณ์ธุรกิจ

นายนนท์ หิรัญเชรษฐ์สกุล นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ภาคเหนือเชียงใหม่

อสังหาฯเหนือวูบ80%  โควิด3หนักกว่า“ต้มยำกุ้ง”

สำหรับรายที่ไม่ไหวจริง ๆ ตอนนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีโครงการพักทรัพย์พักหนี้ (Asset Warehousing) โอนหลักประกันให้กับสถาบันการเงินที่ตนเองกู้อยู่ แต่เจ้าของโครงการยังบริหารจัดการขายได้ เพื่อหักลบกลบหนี้ให้ลดลงไปเรื่อย ๆ จนเศรษฐกิจเริ่มกลับมาส่งสัญญาณฟื้น ก็สามารถขอซื้อสินทรัพย์โครงการกลับมาเป็นของตนเองได้อีกครั้ง ซึ่งต้องยอมรับความจริงและปรับตัว โอนหลักประกันให้แบงก์ไป ถ้าจะสู้ต่อก็เปิดออฟฟิซนั่งขายต่อรอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

สอดคล้องกับ นายวโรดม ปิฎกานนท์ ประธานอาวุโส หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และประธานกรรมการบริษัท รีเกิล แอสเสท จำกัด เจ้าของโครงการบ้านจัดสรร เดอะพรอมิเน้นซ์ ในเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตอนนี้อสังหาฯเชียงใหม่เงียบสนิท ตั้งแต่การระบาดโควิด-19 รอบที่ 3 ลูกค้าไม่กล้ากระทั่งมาดูโครงการ ประกอบกับสถาบันการเงินก็เข้มงวดการปล่อยกู้มากขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้ยอดขายทุกโครงการในเชียงใหม่นิ่งไปหมด ตกไปประมาณ 80%  จะบุกส่งเสริมการขายไปออกบูธตามห้างก็ยาก คนไม่เดินเพราะจังหวัดก็ออกมาตรการควบคุมให้คนลดเดินทางการออกนอกบ้านอยู่ ต้องอัดโปรโมชั่นผ่านสื่อโซเชียลเป็นหลัก 

“ตอนนี้แต่ละโครงการอัดแคมเปญแบบจัดหนักจัดเต็ม โดยเฉพาะให้เข้าอยู่ฟรีกี่ปี ผ่อนให้กี่เดือน แข่งขันกันดุเดือด 1 ปีก็มี  2 ปีก็มี บางโครงการก็จ่ายให้ 3 ปี ยังไม่พอ ฟรีค่าใช้จ่ายทุกอย่างในวันโอน และยังมีของแถมอีก”

ส่วนการเปิดโครงการใหม่ก็ชะลอไปก่อน เพราะสถานการณ์ไม่อำนวย ไม่มีใครขึ้นโครงการใหม่เลย ต้องรอให้การระบาดเชื้อโควิด-19 รอบ3 คลี่คลายอีกอย่างน้อย 2 เดือน เพราะนอกจากมีปัญหาจากด้านลูกค้าที่กำลังซื้อในตลาดไม่มีแล้ว ในส่วนของกิจการก็มีข้อจำกัด เพราะการจะขึ้นโครงการใหม่ต้องมีการประชุมทีมงานหลายด้าน ตั้งแต่เรื่องแบบ เรื่องการตลาด การบริหารการเงิน เข้าหน้างานโครงการก็ยาก เจรจาแบงก์ก็ยาก ทุกคนอยู่บ้านกันหมด จึงชะลอโครงการใหม่กันไปก่อน ส่วนโครงการที่ลงมือไปแล้วต้องทำต่อแต่ก็ระวังกันเต็มที่

 

นายวโรดม กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมาตราการให้เงินกู้ฟื้นฟู วงเงิน 250,000 ล้าน มาช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ผู้ประกอบการทุกคนก็วิ่งขอเอาเงินมาประคองธุรกิจไปก่อน ซึ่งรัฐบาลควรช่วยดูแลให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนประคองธุรกิจจากวิกฤติโควิดครั้งนี้ ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนที่ออกมาก่อนหน้านั้น ตั้งเพดานสำหรับบ้านหรือคอนโดฯราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งมีนิดเดียว ไม่สอดคล้องกับสภาพตลาดที่บ้าน 2 ชั้นที่เชียงใหม่ราคาเริ่มเกิน 3 ล้านไปแล้ว ควรขยายเพดานที่ไม่เกิน 5 ล้านบาท จะครอบคลุมตลาดที่ใหญ่ขึ้น 

ส่วนของเดอะพรอมิเน้นซ์ มีแผนลงทุนแถวแยกแอร์พอร์ตพลาซา ซอยชมจันทร์ ขนาด 52 หลังบนเนื้อที่ 9 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ราคาประมาณ 3-6 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 250 ล้านบาท เดิมจะขึ้นประมาณเดือนพ.ค.2564 ก็เลื่อนไป 2-3 เดือนดูสถานการณ์โควิด-19 แต่ตัวโครงการน่าจะขายได้เพราะอยู่ในเขตเมือง 

ส่วนที่เป็นสต๊อก ลูกค้าซื้อบ้านโครงการเดอะพรอมิเน้นซ์ โครงการผ่อนให้ฟรี 1 ปี ตอนนี้ยังเหลือเยอะอยู่พอสมควร ของผมทั้งหมดมีอยู่ 75 หลัง ขายไปแล้ว 25 หลัง เหลืออีกประมาณ 50 หลัง โดยเป็นนวัตกรรมบ้านปลอดฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 มีเครื่องช่วยกรองฝุ่นแถมให้เลย ซึ่งมีทั้งแบบบ้านสร้างเสร็จ หรือบ้านสั่งสร้าง”

หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,680 วันที่ 20 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง