สหภาพฯการบินไทยร้องสอบ”ชาญศิลป์”ไม่มีอำนาจเปลี่ยนสภาพจ้างพนักงาน

06 เม.ย. 2564 | 09:40 น.

สหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ ยื่นกระทรวงแรงงานตรวจสอบ“ชาญศิลป์”ออกคำสั่งเปลี่ยนสภาพการจ้างพนักงานโดยไม่มีอำนาจ ชี้เจ้าหนี้ยังไม่รับแผนฟื้นฟู จึงเป็นการกระทำละเมิดสิทธิพนักงาน

นายศิริพงษ์ ศุกระกาญจนาโชค ประธานสหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ (สร.กบท.สพ.) และผู้แทนสหภาพฯ รวมกว่า 30 คน ได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ผ่านนายวรรณรัตน์ ศรีสุกใส รองอธิบดีกรมสวัสดิการฯ

โดยทางสหภาพฯขอให้กรมกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน วินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายกรณีบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนสภาพการจ้างงานของพนักงานที่แสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ และเปลี่ยนสภาพการจ้างงานของพนักงานนั้น สามารถทำได้หรือไม่

เนื่องจากการลงนามประกาศบริษัท การบินไทย ที่ให้พนักงานแสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย และผู้ทำแผน ได้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 หรือไม่ อย่างไร และการเปลี่ยนสภาพการจ้าง ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน นายชาญศิลป์ ได้ปฏิบัติตามพ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 และพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 หรือไม่ อย่างไร

สหภาพฯการบินไทยร้องสอบ”ชาญศิลป์”ไม่มีอำนาจเปลี่ยนสภาพจ้างพนักงาน

เพราะในกรณีที่แผนฟื้นฟูกิจการฯของบริษัท การบินไทย ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้และศาลล้มละลายนั้น ผู้ทำแผนและนายชาญศิลป์ สามารถเปลี่ยนสภาพการจ้างงานและปรับโครงสร้างองค์กรได้หรือไม่ เนื่องจากขณะนี้บริษัท การบินไทย ได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการฯตามพ.ร.บ.ล้มละลายฯแล้ว ดังนั้น การดำเนินการในเรื่องดังกล่าวจึงควรเป็นอำนาจของผู้บริหารแผน ไม่ใช่อำนาจผู้ทำแผน

นายนเรศ ผึ้งแย้ม ที่ปรึกษา สร.กบท.สพ. กล่าวว่า การยื่นหนังสือต่อกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานครั้งนี้ สหภาพฯได้ขอความอนุเคราะห์ให้กรมฯช่วยวินิจฉัยว่า การที่บริษัท การบินไทย เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างของพนักงานผ่านกระบวนการกลั่นกรองสู่โครงสร้างใหม่ (Relaunch) สามารถทำได้หรือไม่ และกฎหมายคุ้มครองแรงงานอนุญาตให้นายจ้างดำเนินการในลักษณะดังกล่าวได้หรือไม่ แต่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวออกมา

สหภาพฯการบินไทยร้องสอบ”ชาญศิลป์”ไม่มีอำนาจเปลี่ยนสภาพจ้างพนักงาน

กรมสวัสดิการฯได้ให้ข้อแนะนำว่า ให้สหภาพฯยื่นเรื่องดังกล่าวไปให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี และศาลล้มละลาย เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้ สหภาพฯจะเข้ายื่นเรื่องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และศาลฯให้พิจารณาเรื่องนี้ ทั้งนี้พนักงานทราบดีว่าบริษัทฯต้องพนักงานและลดค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่การดำเนินการต้องเป็นธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย

นายนเรศ  กล่าวต่อว่าขณะนี้แผนฟื้นฟู ด้ยื่นต่อศาลไปแล้ว แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากเจ้าหนี้ ยังไม่รู้ว่าเจ้าหนี้จะโหวตรับแผนหรือไม่ และศาลจะว่าอย่างไร เท่ากับผู้บริหารแผนฟื้นฟูยังไม่มีอำนาจ จนกว่าแผนฟื้นฟูจะได้รับการอนุมัติ อีกทั้งในแผนฟื้นฟู จะมีการปรับโครงสร้างบริษัท การที่นายชาญศิลป์ รักษาการดีดี มีคำสั่งให้พนักงานสมัครเข้าโครงสร้างใหม่ จึงมีข้อปัญหา ว่าเป็นการใช้อำนาจใด เป็นการละเมิดสิทธิพนักงานหรือไม่ 

สหภาพฯการบินไทยร้องสอบ”ชาญศิลป์”ไม่มีอำนาจเปลี่ยนสภาพจ้างพนักงาน

อีกทั้งการที่มีการเปิดให้พนักงานสมัครเข้าโครงสร้างใหม่ และจะประกาศผลในวันที่ 8 เม.ย.นี้ ซึ่งพนักงานที่ได้รับคัดเลือกเข้าโครงสร้างใหม่จะถูกลดเงินเดือน ลดสวัสดิการ หรือสิทธิวัหยุดทางประเพณี จากเดิมจาก 17 วัน เหลือ 13 วัน วันลาพักร้อน เดิมจาก 24 วัน เหลือ 6 วัน เป็นต้น พนักงานถูกตัดสิทธิไป ทั้งๆ ที่โครงสร้างใหม่จริงๆยังไม่มา

เนื่องจากตามแผนฟื้นฟู จะมีการแยกบริษัท เป็น BU เช่น BU ครัวการบิน, BU ช่าง, BU คาร์โก้ ซึ่งต้องรอแผนฟื้นฟูได้รับอนุมัติก่อน ขณะที่ ไม่มีใครรู้ว่า เมื่อแยก BU แล้วมีเอกชนเข้ามาร่วมทุน กลายเป็นนายจ้างใหม่ ซึ่งเป็นกรณีนายจ้างเปลี่ยนนิติบุคคล ซึ่งหากมีการออกระเบียบใหม่ กำหนดเงินเดือนสวัสดิการใหม่ พนักงานที่เข้าร่วมโครงสร้างครั้งนี้ จะไม่มีทางเลือก

รวมทั้งหากจะเข้ากับ BU ใหม่ ก็ต้องสมัครอีกเป็นรอบที่2 เป็นผลเสียกับพนักงานอย่างมาก ที่ต้องเสียสิทธิสภาพการจ้างในปัจจุบัน และเห็นว่า นายชาญศิลป์ รักษาการดีดี มีคำสั่งให้พนักงานสมัครเข้าโครงสร้างใหม่ ตอนนี้เป็นการใช้อำนาจ ละเมิดสิทธิพนักงานหรือไม่ ซึ่งหากมีการดำเนินการไม่ชอบด้วยแผน และไม่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ตามที่พรบ.ล้มละลายกำหนด สหภาพฯการบินไทย จะดำเนินการยื่นฟ้องขอให้ศาลล้มละลายกลางวินิจฉัยและบังคับให้ปฎิบัติตามแผนต่อไป

สำหรับรายละเอียดของหนังสือที่ทางสหภาพฯได้ยื่นขอความอนุเคราะห์วินิจฉัยประเด็นข้อกฏหมายและออกคำสั่งทางปกครองให้นายจ้างปฏิบัติตามกฏหมาย มีการอ้างถึง 1.ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งศาลให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาซน) ลูกหนี้ ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 2.แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2564 หน้าที่ 1, 2, 13, 14, 82, 83, 84.

โดยระบุว่าศาลส้มละลายกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 ให้พื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้ และตั้งบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับพลอากาศเอก ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายบุญทักษ์ หวังเจริญ นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล และนายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้ทำแผน และ "ผู้ทำแผน" ได้นำส่งแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด เสนอต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และเจ้าหนี้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 

โดยมีประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับขั้นตอนในการดำเนินการตามแผนพื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ของ "ผู้ทำแผน" โดยนายชาญศิลป์ รีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ลงนาม ในคำสั่งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 003/2564เรื่อง โครงสร้างองค์กรบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อ18 กุมภาพันธ์ 2564

การลงนามในประกาศบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 012/2564 เรื่อง การแสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564และลงนามในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาซน) ฉบับวันที่ 11 มีนาคม 2564 และลงนามในข้อกำหนดบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่าด้วยสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ฉบับวันที่ 11 มีนาคม 2664 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงานไปจากเดิม

สหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ (สร.กบท.สพ.) จึงยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เพื่อขอความอนุเคราะห์วินิจฉัยข้อสงสัย

  • ประเด็นแรกว่า นายชาญศิลป์ รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2564 หรือไม่ อย่างไร ในการลงนาม 

1. คำสั่งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 003/2564 เรื่อง โครงสร้างองค์กรบริษัท การบินไทย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564

2. ประกาศบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 012/2564 เรื่อง การแสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564

3. ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฉบับวันที่ 11 มีนาคม 2564

4. ข้อกำหนดบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่าด้วยสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน ฉบับวันที่11 มีนาคม 2564

  • ประเด็นที่ 2 ในการลงนามในประกาศบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 012/2564 ให้พนักงานแสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ 2564 นายชาญศิลป์ รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 หรือไม่ อย่างไร 
  • ประเด็นที่ 3 ในการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงาน นายชาญศิลป์ รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ปฏิบัติตามพระราขบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 และพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 หรือไม่ อย่างไร

อนึ่งหากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานวินิจฉัยประเด็นข้อสงสัยแล้วพบว่า นายชาญศิลป์ รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ดำเนินการออกประกาศ คำสั่งเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงานไปจากเดิม

โดยมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2564 และหรือมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 และหรือมิได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแรงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 และพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 สหภาพแรงงานการบินไทยร่วมใจสัมพันธ์ (สร.กบท.สพ.) 

ขอความอนุเคราะห์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ออกคำสั่งทางปกครองให้นายชาญศิลป์รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ดำเนินการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของพนักงานให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ และทำตามพ.รบ.ล้มละลาย ต่อไป

สหภาพฯการบินไทยร้องสอบ”ชาญศิลป์”ไม่มีอำนาจเปลี่ยนสภาพจ้างพนักงาน

สหภาพฯการบินไทยร้องสอบ”ชาญศิลป์”ไม่มีอำนาจเปลี่ยนสภาพจ้างพนักงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: