ก.อุตฯเสนอชื่อ “ดร.สันติ กนกธนาพร “ชิงเลขาธิการ APO คนใหม่

18 เม.ย. 2559 | 07:37 น.
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการสถาบันเพิ่มผลิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้เสนอ ดร.สันติ กนกธนาพร ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติเข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการองค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO: Asian Productivity Organization) ซึ่งกำลังจะว่างลงในเร็วๆ นี้ โดยเลขาธิการ APO คนใหม่จะมีการคัดเลือกกันระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2559 ในการประชุมใหญ่ของ APO ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย

“APO เป็นองค์การพัฒนาระหว่างประเทศ ที่เกิดจากการรวมตัวขององค์กรและหน่วยงานเพิ่มผลผลิตของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 (ค.ศ.1961) สำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมรณรงค์การเพิ่มผลผลิตของทรัพยากรมนุษย์ โดยนำเทคนิควิชาการด้านการบริหารจัดการมาใช้ เพื่อช่วยขับเคลื่อนผลผลิตของประเทศในเอเชีย ให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น และแข่งขันได้กับภูมิภาคต่างๆของโลก ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นองค์กรเพิ่มผลผลิตฯ จำนวน 20 ประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย อิหร่าน ปากีสถาน อินเดีย ศรีลังกา เป็นต้น โดยปัจจุบันเลขาธิการ APO จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนกันยายน 2559 และที่ผ่านมาเลขาธิการ APO มักเป็นชาวญี่ปุ่น โดยเลขาธิการฯ มีวาระดำรงตำแหน่งครั้งละ 3 ปี เป็นติดต่อกันได้ไม่เกิน 2 วาระ” นายอาทิตย์ กล่าว

ทั้งนี้ APO ได้ดำเนินการในการส่งเสริมพัฒนาผลิตภาพของมวลสมาชิก ผ่านแผนงานและโครงการต่างๆ ในรูปแบบของการอบรม สัมมนา การส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำปรึกษาแนะนำ การประชุม การศึกษาและเผยแพร่องค์ความรู้ ฯลฯ ซึ่งงบประมาณดำเนินการจะมาจากเงินอุดหนุนของประเทศสมาชิก โดยญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน จะมีสัดส่วนการสนับสนุนในลำดับต้น ๆ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกองทุนขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ สำหรับค่าใช้จ่ายด้านสำนักงานในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ให้การอุดหนุนในส่วนนี้ อย่างไรก็ตามประเทศจีนยังไม่ได้เป็นสมาชิก APO แม้มีความต้องการที่จะเข้ามามีบทบาท แต่ติดขัดว่า ไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง APO ยังคัดค้านไม่ยอมรับให้จีนเข้าเป็นสมาชิก

APO ได้ประกาศแจ้งให้ประเทศสมาชิกเสนอผู้แทนเพื่อสมัครเข้ามาคัดเลือกเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการ APO ในอีก 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากนาย Mari Amano จะครบวาระในเดือนกันยายนนี้ ในช่วงแรกประเทศญี่ปุ่นได้เสนอชื่อนาย Amano เข้าชิงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 2 และประเทศไทยเสนอ ดร.สันติ กนกธนาพร ผู้อำนวยการสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กระทรวงอุตสาหกรรมเข้าแข่งขัน อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2559 นาย Keizo Takewaka รองอธิบดีสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ได้มาเข้าพบหารือกับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมก่อนที่จะเดินทางไปร่วมประชุม APO ที่กรุงจากาตาร์ อินโดนีเซีย ถึงบทบาทของ APO ในอนาคต ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายเห็นว่าควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่ไร้พรมแดน และต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ในส่วนของประเทศไทย ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเห็นว่า บทบาทของ APO ซึ่งเดิมเน้นในเรื่องการเพิ่มผลผลิตของทุนมนุษย์นั้น ควรจะต้องเพิ่มเติมในเรื่องการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ด้วย เพื่อให้การเพิ่มผลผลิตเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งฝ่ายญี่ปุ่นเห็นด้วยกับแนวคิดของประเทศไทย พร้อมกันนี้นาย Takewaka ได้แจ้งต่อปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมว่าประเทศญี่ปุ่นได้ตัดสินใจถอนการเสนอชื่อนาย Amano จากการชิงตำแหน่งเลขาธิการ APO เพื่อเปิดกว้างให้ APO ปรับตัวไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ตอบสนองประเทศสมาชิกได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น ในขณะนี้จึงมีผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งเลขาธิการ APO เพียง 1 คน คือตัวแทนจากประเทศไทย และเนื่องจากหมดเขตการเสนอผู้สมัคร จึงมีโอกาสสูงมากที่ ดร.สันติ จะได้รับการเห็นชอบเป็นเลขาธิการ APO คนใหม่ และจะเป็นคนไทยคนแรกที่นั่งเก้าอี้ผู้นำองค์กรแห่งนี้

นายอาทิตย์ฯ ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “หาก ดร.สันติ กนกธนาพร ได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ APO คนใหม่แล้ว จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีภูมิภาค และก่อให้เกิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายการส่งเสริมพัฒนาร่วมกันของสมาชิก 20 ประเทศ ในการเร่งรัดการยกระดับผลิตภาพฯ ของภูมิภาคนี้ อันจะทำให้เอเชียมีความแข่งแกร่งยิ่งขึ้น และที่ผ่านมาเอเชียก็เป็นฐานการผลิตและการลงทุนของโลกในหลายธุรกิจและอุตสาหกรรมซึ่งจำเป็นต้องขับเคลื่อนในแนวทางของการเพิ่มผลิตภาพอย่างต่อเนื่องและมีพลัง เพื่อจะเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของโลก และจะส่งผลดีต่อทุกๆ ประเทศ และประเทศไทยก็ได้รับผลพวงจากการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อไป”