เปิดพันธกิจ นายกสมาคมโรงแรมคนใหม่ ฝ่ามรสุมโควิด

20 ก.ย. 2563 | 05:45 น.

ปัจจุบันพนักงานโรงแรมตกงานร่วม 1 ล้านคน ขณะที่ภาพรวมมีโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการได้ราว 50%การจ้างงานลดลงถึง 75% การเข้ามานั่งเก้าอี้นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ)คนใหม่ ของ “มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” จึงรับบทหนักในการนำพาธุรกิจโรงแรมฝ่ามรสุมในครั้งนี้

     จากผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้ ณ ปัจจุบันมีพนักงาน โรงแรมตกงานร่วม 1 ล้านคน ขณะที่ภาพรวมมีโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการได้ราว 50% ส่วนในเมืองท่องเที่ยวที่มีฐานลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น ภูเก็ต สมุย กลับมาเปิดให้บริการได้เพียง 10% เท่านั้น

      ขณะที่ความต้องการในการจ้างงานลดลงถึง 75% การเข้ามานั่งเก้าอี้นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ)คนใหม่ ของ “มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” จึงรับบทหนักในการนำพาธุรกิจโรงแรมฝ่ามรสุมในครั้งนี้

4 มาตรการร้องรัฐ
    ธุรกิจโรงแรมของไทยจัดว่ามีศักยภาพ มีทุกระดับเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่วันนี้จากผลกระทบของโควิด-19 ทำให้โรงแรมเกิดข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเราไม่อยากให้ธุรกิจที่เคยมีศักยภาพเหล่านี้ ต้องกลายเป็นหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) หรือไปขายให้ต่างชาติ ทีเอชเอ จึงมีการหารือกันที่จะ 4 มาตรการที่จะให้ภาครัฐเข้ามาเยียวยาภาคธุรกิจให้เดินต่อไปได้
    ได้แก่ 1. มาตรการสนับสนุนทางการเงิน 2.การเปิดประเทศเพื่อรับชาวต่างชาติเฉพาะกลุ่มมากขึ้นโดยมีมาตรการควบคุม 3.การกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ 
    4.ข้อเสนอเยียวยาผู้ประกอบการ-บุคลากรภาคท่องเที่ยว (กราฟฟิกประกอบ)

เปิดพันธกิจ  นายกสมาคมโรงแรมคนใหม่  ฝ่ามรสุมโควิด
    ที่ผ่านมาโรงแรมระดับเอสเอ็มอี จะได้รับผลกระทบมาก การทำให้โรงแรมเหล่านี้เข้าถึงซอฟต์โลน เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน เนื่องจากการเสนอขอให้รัฐตั้ง กองทุนเปิด ตั้งกองทุนเปิด เพื่อพัฒนา และฟื้นฟูกิจการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวในภาพรวมของไทย วงเงิน 1 แสนล้านบาท

      โดยเข้าไปร่วมลงทุนในส่วนทุน ของแต่ละกิจการ ระยะเวลา 7 ปี และเปิดสิทธิรับซื้อคืนได้ในผลตอบแทน 1% ต่อปี ที่การตั้งกองทุนต้องใช้เวลา
 

วอนเปิดรับต่างชาติ
    นอกจากนี้ทีเอชเอ ยังเรียกร้องให้รัฐบาล พิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานภายใต้มาตรการควบคุม ตั้งแต่ก่อนเข้าไทย การตรวจโควิด การกักตัว 14 วัน ในโรงแรมที่หลักเกณฑ์ Alternative State Quarantine (ASQ) หรืออาจต้องมีเทคโนโลยีมาใช้ในการติดตามตัวนักท่องเที่ยว และรัฐบาลต้องสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่หรือชุมชน เพราะไม่ใช่นักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนที่จะติดไวรัสโควิด-19
    ขณะเดียวกันเราก็ต้องยอมรับด้วยว่า ท่ามกลางโควิด-19 ถ้าเราไม่ทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบ้างเลย เศรษฐกิจจะอยู่ได้อย่างไร การตกงานจะมีเพิ่มขึ้น โรงแรมระดับเอสเอ็มอี จะอยู่ยากมาก หรือแม้แต่โรงแรมขนาดใหญ่เอง เจ้าของโรงแรมก็พอมีฐานะอยู่บ้าง มีสายป่าน มีทรัพย์สินไปค้ำประกันกับธนาคาร พอประคองตัวได้ แต่ก็ลำบากเช่นกัน เพราะได้รับผลกระทบมากกว่าครึ่งปีแล้ว
    การจะพึ่งคนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น โดยโรงแรมที่ตั้งอยู่ในโลเคชั่น ที่คนขับรถไปเที่ยว ก็อาจจะพอมีนักท่องเที่ยวบ้าง แต่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติแย่หมด
    “การปิดประเทศโดยให้เราอยู่แบบไม่มีความเสี่ยงเลย อยู่ไม่ได้จริง เราก็หวังว่าภายในเดือนตุลาคมนี้ ก็อยากให้มีการทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาบ้าง โดยที่รัฐต้องมีการบริหารความเสี่ยงในด้านสาธารณสุข เพื่อให้ธุรกิจพอจะเดินต่อได้บ้าง ที่อาจจะนำร่องด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักระยะยาว หรือ กลุ่มลองสเตย์

Workcation Thailand
    ส่วนการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ แม้รัฐจะมีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แต่ก็ยังมีเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคในการจอง ที่รัฐควรจะมีการปรับเงื่อนไข เช่น การที่ให้จองล่วงหน้า 3 วันลดลงเหลือ 1 วัน การให้เลือกจองในโรงแรมที่อยู่ในจังหวัดตัวเองได้ เช่น คนกรุงเทพฯก็อยากใช้สิทธิจองโรงแรมในกรุงเทพฯเช่นกัน
    นอกจากการเรียกร้องความช่วยเหลือจากภาครัฐแล้ว ภาคธุรกิจก็มีการทำงานด้านการกระตุ้นตลาด เช่น การกระตุ้นการเดินทางในช่วงวันธรรมดา ที่โรงแรมต่างๆที่มีใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ จะนำเสนอที่พักราคาสุดพิเศษ รวมเบรกและดินเนอร์ เพื่อเข้าร่วมโครงการ Workcation Thailand ดึงดูดให้บริษัทเอกชน และภาครัฐ เดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา ซึ่งจะมีทั้งที่โรงแรมขายเอง และการขายผ่านบริษัทนำเที่ยว เพื่อให้ทุกคนช่วยกันขาย
    รวมไปถึงแผนในการกระตุ้นคนต่างชาติที่พำนัก หรือทำงานในไทย (EXPAT) ให้เดินทางเที่ยวไทย ด้วยการมอบข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน
      อีกทั้งสมาคมโรงแรม ยังมองไปถึงการสร้างความยั่งยืนของธุรกิจโรงแรมไทย ทั้งการดึงโรงแรมเข้าร่วมโครงการกรีน ลิฟ และกรีน โฮเทล , มูลนิธิมาตรฐานโรงแรมไทย ที่จะทำให้เกิดการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน การเน้นสร้างแบรนด์ให้นักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในสุขอนามัย ความปลอดภัยในการเข้าพัก การสร้างมาตรฐานของธุรกิจโรงแรมจึงเป็นเรื่องสำคัญ
     รวมถึงการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระตุ้นให้โรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ที่มีกว่า 4.9 หมื่นแห่ง เข้ามาจดทะเบียนธุรกิจให้ถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องอยู่ราว 1.6 หมื่นแห่งเท่านั้น

หน้า 21-22  หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,610 วันที่ 17-19 กันยายน พ.ศ.2563 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

ชงตั้งกองทุนแสนล.ดึงเงินร่วมลงทุนฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวโคม่า

ท่องเที่ยว รายใหญ่ พ้นจุดตํ่าสุด SMEs ยังโคม่า

จวกรัฐล้มเหลว “ภูเก็ต โมเดล” ธุรกิจโรงแรมวิกฤต

ชงครม.ออกวีซ่านักท่องเที่ยวแบบใหม่ 90วัน รับลองสเตย์ต่างชาติ