ติดปีก "SMEs" นำร่องเจาะตลาดจีนดันสู่ตลาดโลก

14 ก.ย. 2563 | 13:50 น.

นายวีระพงศ์  มาลัย  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ดำเนินการร่วมมือกับ Bank of China (Thai) Public Company Limited หรือ BOCT ซึ่งเป็นบริษัทลูกของธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่สำคัญในฮ่องกง อยู่ภายใต้ธนาคารแห่งประเทศจีน (ธนาคารแม่) ที่มีสาขาเป็นจำนวนมากครอบคลุมทั้งประเทศจีนและในอีก 62 ประเทศทั่วโลก และมีเครือข่ายผู้ประกอบการที่ค้าขายในภูมิภาคต่างๆ

ทั้งนี้  ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายร่วมกันในด้านการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกทางเศรษฐกิจ และการส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจให้แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย ให้สามารถขายตลาดและการค้าขายไปสู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้ง ยังมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 2 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาและกระชับความร่วมมือในการส่งเสริมเอสเอ็มอี (SMEs) ร่วมกันระหว่าง 2 ประเทศ ในการแสวงหาโอกาสและขยายตลาดร่วมกัน

“ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยและประเทศจีนผ่านช่องทางการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการสนับสนุนและจัดกิจกรรมส่งเสริม SME ร่วมกัน รวมถึงจัดสัมมนาและกิจกรรมพัฒนาขีดความสามารถของ ผู้ประกอบการ การพิจารณาให้บริการและผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารแก่ ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ สสว. และการให้ส่วนลดและสิทธิพิเศษแก่ผลิตภัณฑ์ของสมาชิก สสว.”

ติดปีก "SMEs" นำร่องเจาะตลาดจีนดันสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังรวมถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์เชิงธุรกิจระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเศรษฐกิจและเอสเอ็มอีของทั้ง 2 ประเทศ เช่น ข้อมูลการจัดงานแสดงสินค้า งานสัมมนา การจัดคณะผู้แทนทางธุรกิจ การจับคู่ทางธุรกิจ และการประชุมออนไลน์ เป็นต้น รวมทั้งจะร่วมกันจัดประชุม และจัดกิจกรรมพบปะทางธุรกิจ เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มสมาชิกของทั้งสองหน่วยงานได้มีปฏิสัมพันธ์และสื่อสารกัน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านธุรกิจให้สามารถฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ไปได้

นายวีระพงษ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ปัจจุบันถึงแม้ประเทศไทยจะควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดีอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ระบบเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญปัญหาอย่างหนัก สสว. คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 เศรษฐกิจมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวจากการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของภาครัฐ และการบริโภคในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้บางส่วนในเดือนตุลาคมนี้ แต่เศรษฐกิจในกลุ่มผู้ประการรายย่อย (MSME) มีแนวโน้มหดตัวกว่าประมาณการเดิม 

จากประมาณการ GDP MSME ของ สสว. โดยใช้ MSME IO Table และ Macro Model คาดว่า จะหดตัวถึงร้อยละ 9.5 จากเดิมที่ประมาณการไว้อยู่ที่ 7.858 ล้านล้านบาท หดตัวลงมาอยู่ที่ 7.113 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการหดตัวของการบริโภคทั้งภาครัฐและเอกชนมีแนวโน้มหดตัวลงกว่าเดิม ทิศทางการบริโภคภายในประเทศยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้ชะลอตัวลง

ตลาดส่งออกหลักของ MSME ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ยังคงปรับตัวลดลงเกือบทุกตลาด มีเพียงตลาดสหรัฐที่ขยายตัวได้ 19.9% สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของ MSME ในปี 2563 ที่ขยายตัวได้ ได้แก่ สินค้ากลุ่มผลไม้สด (+13.4%) สินค้ากลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ (+10.6%) และสินค้ากลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ (+6.0%) ในทางกลับกันสินค้าส่งออกสำคัญที่ยังหดตัวต่อเนื่องในปีนี้ คือ สินค้ากลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับที่ปรับตัวลดลง 48.1%

ส่วนภาพรวมการส่งออกไปจีนของ MSME ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 ในช่วง 7 เดือนแรกของ  ปี 2563 MSME มีการส่งออกไปยังประเทศจีนมูลค่า 2,585.0 ล้านเหรียญยูเอสดอลล่าร์ คิดเป็นสัดส่วน 16.9% ของ MSME Export ทั้งหมด จึงนับเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญลำดับที่หนึ่งของ MSME โดยอัตราการขยายตัวลดลง 2.7% ซึ่งสาเหตุที่สำคัญมาจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเริ่มแพร่ระบาดในจีนตั้งแต่ต้นปี สินค้าส่งออกที่สำคัญของ MSME คือผลไม้ ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกไปยังจีนมากที่สุด คิดเป็น 75% ของมูลค่า MSME Export ไปยังจีนทั้งหมด และยังมีการเติบโตต่ออย่างเนื่องแม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

โดย MSME ส่งออกสินค้าทางการเกษตรไปยังจีน 1,310 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 50.7% (เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีสัดส่วน 44.5%) ของการส่งออกไปยังจีนทั้งหมด และมีอัตราการขยายตัวเท่ากับ 10.8% โดยสินค้าทางการเกษตรที่ MSME ส่งออกไปจีน ส่วนใหญ่ 84.5% เป็นสินค้าเกษตรที่ยังไม่แปรรูป ได้แก่ ผลไม้ ปลา และเนื้อสัตว์ และอีก 14.5% เป็นสินค้าเกษตรแปรรูป ได้แก่ น้ำตาล ผลิตภัณฑ์จากธัญพืช และ พืชผักแปรรูปจึงทำให้จีนยังคงสามารถเป็นตลาดหลักในการส่งออกที่สำคัญของไทยขณะนี้ ดังนั้น สสว. จึงได้เร่งขยายความร่วมมือกับหน่วยงานจีนในทุกระดับเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขยายตลาดการค้ากับประเทศจีนมากขึ้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สสว.” เร่งปั้น “SMEs” เกษตรรุกตลาดจีนต่อเนื่อง

สสว.นำเอสเอ็มอีเกษตร เจาะตลาดจีน

"สสว.” ดัน SMEs เจาะตลาดจีนมูลค่ากว่า 790 ล้านบาท