ร้องปลดล็อกที่ดิน ระนอง ย่านธุรกิจทับป่าชายเลน

13 ส.ค. 2563 | 03:15 น.

ระนองเร่งรัฐปลดล็อกปัญหาย่านเศรษฐกิจหลักทับป่าชายเลน ส.ส.-หอการค้าฯร้องกลางวงกมธ.วิสามัญฯ ชี้เอกชนไม่กล้าวางแผนลงทุน เสียโอกาสการพัฒนากระทบเป้าหมายSEC

 

ระนองเร่งรัฐปลดล็อกปัญหาที่ดินย่านเศรษฐกิจหลักของเมืองทับป่าชายเลน ส.ส.-หอการค้าฯร้องกลางวงกมธ.วิสามัญฯ สภาผู้แทนราษฎร ชี้เอกชนไม่กล้าวางแผนลงทุน เสียโอกาสการพัฒนากระทบเป้าหมายยุทธ ศาสตร์ระเบียงเศรษฐกิจใต้

วันที่ 7 สิงหาคม 2563 กรรมาธิการวิสา มัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร จัดประชุมที่ศาลากลางจังหวัดชุมพร มี นายสาธิตวงศ์หนองเตย เป็นประธาน เปิดรับฟังปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิ์ในเขต 3 จังหวัด คือ ชุมพร ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำเสนอข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาแก้ไขข้อกฏหมาย หลักเกณฑ์ต่างๆ  ให้สอดคล้องกับสภาพความจริงในปัจจุบันต่อไป  

โอกาสนี้ นายธีระพล ชลิศราพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง มอบหมายนายพรศักดิ์ แก้วถาวร เลขาธิการหอการค้า พร้อมคณะ เข้าร่วมประชุม และนำเสนอถึงปัญหาที่ดินในพื้นที่เศรษฐกิจหลักของจังหวัดระนอง ที่เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาจังหวัดไปสู่เป้าหมาย คือการเป็นเมืองท่าขนส่งฝั่งตะวันตก (Western Gateway) ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor : SEC)

  ร้องปลดล็อกที่ดิน ระนอง  ย่านธุรกิจทับป่าชายเลน

พื้นที่เขตเศรษฐกิจหลักระนองที่ปัจจุบันยังติดปัญหาไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ ประกอบด้วย พื้นที่ 520 ไร่ บริเวณแพใหม่ท่าด่าน เขตพื้นที่ ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง และ ต.ปากนํ้า อ.เมืองระนอง จ.ระนอง อยู่ระหว่างดำเนินการให้กรมธนารักษ์เปิดให้ประชาชนเช่า และพื้นที่ปากคลอง 2,200 ไร่ - ท่าเรือเอกชน ที่ตำบลปากนํ้าท่าเรือ ต.ปากนํ้า อ.เมืองระนอง  จำนวน 12 ท่า เพื่อดำเนินการขอ EIA 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ค้าชายแดนระนองดิ่งไม่หยุด มิ.ย.หลุดพันล้านหดวูบ36%

 ระนองอัดอีเวนต์กีฬาฟื้นท่องเที่ยว ปักหมุดงาน“โต้คลื่นเกาะพยาม”

กทท.ทุ่มงบ 41.8 ลบ. ปรับโครงสร้าง “ท่าเรือระนอง” เชื่อมกลุ่ม BIMSTEC ร้องปลดล็อกที่ดิน ระนอง  ย่านธุรกิจทับป่าชายเลน

 

 

ร้องปลดล็อกที่ดิน ระนอง  ย่านธุรกิจทับป่าชายเลน

ด้านนายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดระนอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนพร้อมทีมงาน ร่วมกับตัวแทนผู้นำท้องถิ่น ภาคประชาชน เข้าร่วมการประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาที่ดินและการออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว ซึ่งมีตัวแทนจากภาคราชการ เอกชน ประชาชน  3 จังหวัดใกล้เคียง มาร่วมเสนอปัญหาและทางออกปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ์ในแต่ละพื้นที่ทั่วทั้งภาคใต้ต่อไป  

นับแต่ได้รับเลือกเป็นผู้แทนราษฎร ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาที่ดินเขตอุตสาหกรรมชายแดนระนอง แต่ยังไม่คืบหน้า ทำให้ภาคเอกชนวิตกกังวล และไม่สามารถวางแผนการลงทุนเพื่อรองรับการขยายการค้าการลงทุนในพื้นที่ได้ ขณะที่รอบข้างโดยเฉพาะในเขตเมียนมาตอนใต้กำลังขยายการพัฒนาอย่างคึกคัก 

“จังหวัดระนองมีภูมิ ประเทศที่เป็นข้อจำกัด คือเป็นภูเขา 70% มีที่ราบเพียง 30% จึงทำให้มีพื้นที่ที่สามารถออกเอกสารสิทธิได้น้อย และส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนที่พักอาศัย ส่วนย่านการค้า-อุตสาหกรรม มีการขยายเข้าไปก่อสร้างในพื้นที่ป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม เนื่องจากติดชายทะเลและแพปลา ที่ผ่านมามีการอนุโลมให้อยู่อาศัยและประกอบการได้ จนกลายเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลักของจังหวัด แต่ต่อมาประกาศเป็นเขตป่าชายเลนทับซ้อน ทำให้ไม่มีหลักประกันที่มั่นคง และเอกชนไม่สามารถวางแผนการลงทุนเพิ่มเพื่อรองรับการขยายตัวของการค้าการลงทุนในพื้นที่ชายแดนได้ แม้จะได้เรียกร้องให้แก้ไขมานานแต่ยังไม่มีความคืบหน้า” ร้องปลดล็อกที่ดิน ระนอง  ย่านธุรกิจทับป่าชายเลน

ทั้งนี้ ผู้ประกอบกิจการแปรรูปสัตว์นํ้า และอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมง ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งในอดีตทางการเคยเปิดให้เป็นพื้นที่เช่า แต่ต่อมาเมื่อครบอายุสัญญาเช่าไม่มีการต่อใบอนุญาต และมีการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าชายเลน เป็นปัญหาเรื้อรังมาถึงปัจจุบัน ซึ่งจะกระทบถึงเป้าหมายยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ ทั้งแผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนได้ เนื่องจากนักลงทุนไม่กล้าตัดสินใจ หากสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินในเขตเศรษฐกิจหลักของระนองได้ จะสามารถขยายอุตสาหกรรมในระนองได้อีกมาก เนื่องจากมีศักยภาพที่จะพัฒนาอย่างมาก

 

หน้า 17 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,600 วันที่ 13 - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563