พ.ร.ก.เงินกู้ “เกียรติ”ชงรัฐบาลวางกฎเหล็กคุมทุจริต

28 พ.ค. 2563 | 07:51 น.

พ.ร.ก.เงินกู้ “เกียรติ”ชง“รัฐบาล”วางกฎเหล็ก ใช้เงินตรงเป้า-ป้องกันคอร์รัปชัน ชี้คณะกรรมการต่างๆ ตามพ.ร.ก.ต้องเกิดความน่าเชื่อถือ

ในการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา “พ.ร.ก.เงินกู้” นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า พระราชกำหนด 3 ฉบับถูกออกแบบเพื่อแก้ไขผลกระทบโควิด-19 ซึ่งเป็นผลกระทบที่รุนแรงที่สุด และโจทย์ที่สำคัญ คือทำอย่างไรให้คนไทยไม่สิ้นหวังและให้เศรษฐกิจพลิกฟื้นเร็วที่สุด ครั้งนี้เป็นมหาวิกฤติเพราะมีทั้งวิกฤติสาธารณสุข วิกฤติการเงิน กำลังซื้อถดถอย การผลิตถดถออย ซึ่งกระทบทั่วโลกรุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี การออก “พ.ร.ก.กู้เงิน” ไม่ได้เป็นปัญหา แต่วงเงินกู้อาจจะไม่พอ

อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลและข้อสังเกต 4 ประการ ได้ แก่

1.ไม่มีรายละเอียด เช่น ที่มาของเงินกู้ว่าจะกู้ด้วยวิธีการใด รวมไปถึงยังไม่ได้มีการกำหนดวิธีการช่วยเหลือขัดเจน  

2.วิธีการดำเนินการของรัฐบาลอาจะไม่ตรงเป้าหมาย เนื่องจากไม่มีคณะกรรมการคัดกรองว่าจะปล่อยเงินกู้เพื่อผู้ประกอบการอย่างไร

3.คณะกรรมการคัดกรองมีเพียงเฉพาะในพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 แต่การฟื้นฟูกลุ่มธุรกิจแต่ละกลุ่มต้องใช้วิธีการแตกต่างกัน ดังนั้น คณะกรรมการเพียงชุดเดียวย่อมไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน  และ 4.กระบวนการตรวจสอบที่ไม่ชัดเจน เพราะการระบุแค่ว่าจะรายการใช้เงินต่อคณะรัฐมนตรีเป็นรายเดือนหรือรายงานการใช้เงินและความคืบหน้าต่อรัฐภา อาจยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความมั่นใจได้ 

 

นายเกียรติ กล่าวว่า ที่สุดแล้วการจะแก้ไขปัญหานี้ส่วนตัวมีข้อเสนอ 4 ข้อ ดังนี้

1.ต้องปรับสมมติฐานใหม่ เพราะการประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยเรามองแบบแง่ดีเกินไป โดยปีนี้อาจติดลบ 10% เนื่องจากมีตัวชี้วัดว่าการค้าของโลกอาจติดลบประมาณ 20% รวมไปถึงการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังไม่กลับมา หรือแม้แต่สงครามการค้าที่จะรุนแรงมากขึ้น

2.ต้องปรับโครงสร้างคณะกรรมการต่างๆ ตามพระราชกำหนดให้เกิดความน่าเชื่อถือ ทั้งเรื่องฟื้นฟูและเยียวยา โดยจะต้องมีตัวแทนของกลุ่มธุรกิจที่ต้องฟื้นฟูและเยียวยาเข้ามาเป็นคณะกรรมการด้วย เพื่อให้การช่วยเหลือตรงเป้าหมาย

3.วิธีการช่วยเหลือ ไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียนแต่สามารถดูจากข้อมูลที่มีอยู่ในระบบอยู่แล้วได้เลย เช่น บัญชีเงินฝากในธนาคาร รวมทั้งต้องเร่งการจ้างงานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น

และ 4.ปรับวิธีการตรวจสอบ โดยต้องไม่พูดแค่ว่าจะโปร่งใส แต่ต้องเปิดข้อมูลแบบเรียลไทม์ และต้องยืนยันว่าการเอาเงินไปใช้จะต้องเป็นไปเพื่อฟื้นฟูและตรงเป้ากับคนที่ต้องการอย่างแท้จริง

“ที่สำคัญการที่จะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ จะต้องดำเนินการโดยมีกฎเหล็ก 3 ข้อ คือ 1.แก้วิกฤติต้องคิดลบ พร้อมสยบทุกปัญหา 2.กระสุนมีจำกัด ทุกๆนัดต้องเข้าเป้า 3.คอร์รัปชันต้องป้องกัน ไม่ใช่ลั่นว่าไม่มี" นายเกียรติ แนะนำ