ยังเป็นเรื่องวุ่นๆ ไม่จบกับคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ต้องการเวนคืนและชดเชยคลื่นความถี่ให้กับ อสมท เรื่องนี้มีปมขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหาร และ สหภาพ อสมท
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการคืนคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ ทางสหภาพ อสมท ทราบว่ามีการวางแผนกันในการแบ่งค่าชดเชยแทนให้เอกชนบางส่วนโดยมิชอบ จึงอยากให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งกำกับดูแล อสมท ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด เพราะอาจจะมีการร่วมกันทุจริตผลประโยชน์ในองค์การของรัฐ
นอกจากนี้ ต้องการให้ตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมการ และ “ผู้บริหาร อสมท” ที่ส่อว่าไม่มีธรรมาธิบาล มีปัญหาการประชุมที่ขัดแย้งกัน และการมีมติที่ส่อไปในทางผิดต่อหลักนิติธรรม
ล่าสุดวันนี้ (26 พ.ค.) สหภาพ อสมท ออกแถลงการณ์ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บมจ.อสมท เรื่อง หากอ้างไม่มีสิทธิ์ ดูแลผลประโยชน์องค์กร ก็ไม่ควรอยู่บริหารอีกต่อไป
ตามที่ปรากฏข่าวผ่านสื่อว่า กสทช. ได้ส่งหนังสือมาสอบถาม บมจ.อสมท เรื่องส่วนแบ่งเงิน ชดเชย คลื่น 2600 และปรากฏเป็นข่าวต่อว่า นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บมจ.อสมท ให้สัมภาษณ์ว่า คืนคลื่นไปแล้ว จึงไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วงนั้น
สหภาพแรงงานฯ อยากทราบว่า ความเห็นดังกล่าว ได้นําเข้าพิจารณาในบอร์ด หรือไม่ อย่างไร หรือเป็นความคิดเห็นส่วนตัว
ทั้งนี้ในฐานะกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ ย่อมมีสิทธิ์และเป็นหน้าที่ ต้องดูแลผลประโยชน์ บมจ.อสมท ถึงที่สุด การอ้างว่า ไม่มีสิทธิ์ต่อเงินชดเชย คลื่น 2600 จึงเป็นเหตุผลที่สหภาพแรงงานฯ ไม่ อาจรับได้ และ หาก กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บมจ.อสมทไม่ตระหนักที่จะใช้สิทธิ์ทําหน้าที่เพื่อ บมจ.อสมท แล้ว ก็ หมดความชอบธรรม ที่จะบริหารงานต่อไป