นายเควิน ทีโอ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Funding Societies เปิดเผยว่า ในการระดมทุน Sereies C กว่า 1.3 พันล้านบาทครั้งนี้ ได้ธนาคารรายใหญ่ในประเทศอินโดนีเซียร่วมลงทุนด้วย นั่นหมายความว่าจะทำให้บริษัทสามารถเร่งให้บริการและช่วยเหลือทางด้านสินเชื่อให้กับ SMEs ได้มากขึ้น และมีส่วนช่วยให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านเงินทุน ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งใจขยายธุรกิจมายังประเทศไทย พร้อมกับรักษาความเป็นผู้นำด้านสินเชื่อดิจิทัลในตลาดอื่น ๆ ทั่วภูมิภาค
จากข้อมูลของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มากกว่า 90% ของบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยเป็น SMEs ซึ่งเอื้อให้เกิดการจ้างงานกว่า 50% ของตำแหน่งงานทั้งหมดในประเทศ อย่างไรก็ตาม ช่องว่างด้านเงินทุนมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท ก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของไทย
เนื่องจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคนั้น ยังคงต้องพึ่งพากลุ่มธุรกิจ SMEs เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจาก SMEs ไทยก็มีข้อจำกัดทางด้านเครดิต ทำให้การอนุมัติสินเชื่อเป็นไปได้ยาก เพราะสถาบันทางการเงินแบบดั้งเดิมมักจะปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่และมั่นคงมากกว่า
ในขณะเดียวกัน ประชากรไทยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีอัตราการเข้าถึงสมาร์ทโฟนกว่า 70% จากจำนวนประชากรทั้งหมด ทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดที่เป็นที่มีศักยภาพสูงสำหรับแพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัล
นายอีวาน เคอเนียวาน ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Modalku (บริษัทลูกของ Funding Societies ในประเทศอินโดนีเซีย) กล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าแพลตฟอร์มและความสำเร็จจากการให้บริการสินเชื่อดิจิทัลในอินโดนีเซีย ที่มีสภาวะของตลาดคล้ายคลึงกับประเทศไทย จะทำให้ Funding Societies เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับ SMEs ไทย ด้วยเทคโนโลยีและการให้บริการทางการเงินที่สะดวกรวดเร็วยืดหยุ่น และไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต COVID-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจในแทบทุกอุตสาหกรรมในปัจจุบัน
Funding Societies ได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลในการประกอบธุรกิจด้านสินเชื่อระหว่างบุคคลในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดเซีย รวมทั้งดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารชั้นนำหลายแห่งในภูมิภาค โดย Funding Societies ทำหน้าที่เป็นบริการเสริมของธนาคารพาณิชย์ ดูแลการบริการทางเงินให้กับ SMEs ขนาดย่อม ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคาร และในปี 2563 นี้ Funding Societies มีความตั้งใจที่จะเข้ามามีบทบาทในการให้การสนับสนุน SMEs ไทย และช่วยผลักดันการพัฒนาของเศรษฐกิจไทยด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทยที่ต้องการพาประเทศไทยก้าวสู่ยุค Thailand 4.0 ด้วยนโยบายที่สนับสนุนให้มีการใช้นวัตกรรมนำธุรกิจ
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2558 Funding Societies ได้มุ่งหน้าเพิ่มการเข้าถึงเงินทุน เพื่อลดช่องว่างทางการเงินกว่า 10 ล้านล้านบาท ในกลุ่ม SMEs ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบัน Funding Societies ได้กระจายเม็ดเงินไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยปล่อยสินเชื่อกว่า 2 ล้านสินเชื่อให้กับธุรกิจ SMEs ขนาดย่อม ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดเซีย ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เงินกู้ระยะสั้น, สินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ, สินเชื่อซัพพลายเชน, หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้ตอบโจทย์ SMEs ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยขนาดของสินเชื่อเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 บาท จนไปถึง 45 ล้านบาท