เช็กที่นี่ "ไทม์ไลน์" ผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์" ระยะ3 เปิดสถานที่เพิ่ม เริ่ม1มิ.ย.

22 พ.ค. 2563 | 10:18 น.

โฆษกศบค. เผย Timeline ในการเดินหน้าผ่อนคลายล็อกดาวน์ ในระยะที่ 3 เปิดสถานที่เพิ่มเติม เริ่มวันที่ 1 มิ.ย.นี้ 

รัฐบาล โดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยแนวทาง หรือ ไทม์ไลน์(Timeline) ในการเดินหน้า ผ่อนคลายล็อกดาวน์ หรือ ผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 3 ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 มิ.ย.นี้ 

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยถึง มาตรการผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์" หรือ มาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 3 มีการกำหนดขั้นตอน

เช็กที่นี่ "ไทม์ไลน์" ผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์" ระยะ3 เปิดสถานที่เพิ่ม เริ่ม1มิ.ย.

โดยเริ่มจาก วันที่ 23-24 พ.ค. การจัดเตรียมข้อมูลเพื่อประชุมคณะทำงานกลั่นกรองกิจการ/กิจกรรม ตามมาตรการผ่อนคลาย 

จากนั้นวันที่ 25-26 พ.ค.จะมีการประชุมคณะทำงานกลั่นกรองกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย

ส่วนวันที่ 27 พ.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 

ต่อมาวันที่ 29 พ.ค.จะมีการประชุม ศบค.เพื่อขออนุมัติ และวันที่ 1 มิ.ย.จะมีผลบังคับใช้มาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3  

"ส่วนกิจการ/กิจกรรมที่จะได้รับการผ่อนคลายในระยะที่ 3 มีอะไรบ้างนั้น ยังไม่มีการกล่าวถึง แต่เป็นกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงปานกลางไปถึงสูงในการติดเชื้อ ซึ่งอาจเป็นกลุ่มก้อนใหญ่ที่มารวมกันมากในการผ่อนคลายครั้งนี้ เพราะถ้าหลุดออกจากตรงนี้ต้องไปอยู่ระยะที่ 4"

เช็กที่นี่ "ไทม์ไลน์" ผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์" ระยะ3 เปิดสถานที่เพิ่ม เริ่ม1มิ.ย.

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการปรับ ลดเวลาเคอร์ฟิว นั้น ที่ประชุมไม่ได้มีการหารือกัน แต่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ระบุว่าหากประชาชนให้ความร่วมมือ ไม่มีการดื่ม ไม่มีการชุมนุมในด้านที่ไม่ดี หรือออกจากเคหสถานโดยไม่จำเป็น เหมือนสถิติที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากขึ้น ก็มีโอกาสที่ ศบค.จะลดห้วงเวลาของเคอร์ฟิวลงในการผ่อนคลายในระยะที่ 3 แต่จะเป็นเวลากี่ชั่วโมง เมื่อไร คงต้องรอการประชุม ศบค.ครั้งต่อไป

เช็กที่นี่ "ไทม์ไลน์" ผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์" ระยะ3 เปิดสถานที่เพิ่ม เริ่ม1มิ.ย.

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงบรรยากาศในการประชุมศบค.ด้วยว่า  ในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธาน และมีรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม นายกฯได้แจ้งกับที่ประชุมว่า ทั่วโลกได้ชื่นชมประเทศไทย ที่มีการป้องกันการแพร่ระบาดและให้ความรู้กับประชาชนจนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในระดับต้นๆ ของโลก 

นายกฯ ยังได้ถึงกล่าวถึงเรื่องการผลิตวัคซีนว่า ให้ระวังเรื่องการสื่อสารเรื่องการผลิตวัคซีน ที่อาจทำให้เกิดความหวังในประเด็นที่ไม่สอดคล้อง ขณะนี้เราประสบความสำเร็จในการทดลองกับสัตว์ แต่ยังมีการทดลองอีกหลายระดับ ยังใช้เวลาอีกเป็นปี ย้ำว่าไทยเราเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ที่ทำเรื่องวัคซีน 6 เทคโนโลยี ล้วนแล้วแต่เป็นระดับสุดยอดของประเทศไทย และเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับการพัฒนาวัคซีนของโลก แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร ทั้งที่ผลิตเองและการจองสั่งซื้อ

เช็กที่นี่ "ไทม์ไลน์" ผ่อนคลาย "ล็อกดาวน์" ระยะ3 เปิดสถานที่เพิ่ม เริ่ม1มิ.ย.

และหากเราผลิตไม่ทัน ต้องสั่งจองล่วงหน้าโดยใช้เวลาเป็นปี แต่ไทยสนับสนุนและเจรจาในระดับรัฐบาลเพื่อให้เชื่อมโยงกับต่างประเทศ โดยมีส่วนช่วยเขาทั้งการสนับสนุนงบประมาณและเงินทุนประเดิมลงไปเพื่อให้กลุ่มอาเซียนช่วยกันวิจัย เรื่องนี้เราเป็นจุดเริ่มต้น อีกทั้งยังสนับสนุนการดำเนินงานในระดับชาติเพื่อเอาคนเก่งขึ้นมาทำงาน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ได้รายงานถึงผลการตรวจกิจการ/กิจกรรม ตามมาตรการหลัก 5 ข้อ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 3-21 พ.ค. โดยตรวจทั้งสิ้น 353,495 กิจการ/กิจกรรม ปฏิบัติตามมาตรการครบ 304,946 กิจการ/กิจกรรม ปฏิบัติตามมาตรการไม่ครบ 43,415 กิจการ/กิจกรรม ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 5,134 กิจการ/กิจกรรม หรือคิดเป็นเพียง 1.5%

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ศบค. เห็นชอบต่อ "พรก.ฉุกเฉิน" ถึงสิ้นเดือน มิ.ย.63

เปิดตัว "หมอบุ๋ม" ผู้ช่วยโฆษกศบค.(คลิป)

เตรียมลุ้น ลด "เคอร์ฟิว" เป็น "เที่ยงคืน-ตีสี่"

 

ขณะที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เสนอวาระพิจารณาการขยายการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย. ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.ยังคงมีความจำเป็นต้องต้องบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะต้องการเอกภาพ ความรวดเร็ว ความต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานกลางในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจาก พ.ร.บ.โรคติดต่อไม่เพียงพอ ต้องประกอบกับกฎหมายอีกกว่า 40 ฉบับ ซึ่งต้องมาอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึงจะปฏิบัติการป้องกันโรคได้ นายกฯเน้นย้ำว่า การขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุขเป็นจุดหมายหลัก

 2.เป็นการรองรับในระยะต่อไป เพราะประเทศไทยอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการผ่อนปรน ที่จะมีระยะที่ 3 และ 4 จะมีความเสี่ยงสูงกว่าการผ่อนปรนในระยะที่ 1 และ 2 ดังนั้น เมื่อมีความเสี่ยงสูง แต่ตัวกำกับกลับหย่อนลงก็จะลำบาก จะให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่พฤติกรรมเสี่ยงสูงกลับมา จึงไม่สมดุลกัน เราจึงต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องให้มีมาตรการทางกฎหมายเพื่อกำหนดการบริหารจัดการให้เหมาะสมกับการผ่อนปรนในระยะต่อไป

และ3.สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังไม่สิ้นสุด หลายประเทศยังมีการแพร่ระบาด มีการติดเชื้อสูงอยู่ แม้ไทยจะดำเนินผ่อนปรนครบทั้ง 4 ระยะแล้วก็ยังต้องความพร้อมในการเปิดประเทศ มาตรการทางกฎหมาย แผนบริการจัดการวิกฤติเพื่อรองรับความเสี่ยงที่จะกลับมาของโรค ถ้าไม่มีกฎหมายควบคุมตัวเลขที่สูงในต่างประเทศจะไหลมาที่ไทยได้ ที่ประชุม ศบค.จึงเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน