ร้านตัดผมร้องรัฐเปิดให้บริการเดือนพฤษภาคม

20 เม.ย. 2563 | 00:00 น.

ผู้ประกอบการร้านตัดผมประสานเสียงร้องรัฐผ่อนคลายเกณฑ์เปิดให้บริการได้เดือนพฤษภาคม โอดรายได้หายแต่ยังมีรายจ่าย ชี้หากยังปิดต่ออีก 1 เดือนเดือดร้อนหนัก

ภายใต้การประกาศใช้พระราชกำหนด (พรก.) ฉุกเฉินของรัฐบาลมีผลทำให้สถานให้บริการต่างๆต้องปิดกิจการลงชั่วคราว  เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) โดยอาชีพหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งผู้ประกอบการ และผู้ใช้บริการก็คือ ร้านตัดผม หรือร้านเสริมสวย

ร้านตัดผมร้องรัฐเปิดให้บริการเดือนพฤษภาคม

เจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ต้องการให้รัฐบาลผ่อนคลายกฏเกณฑ์ให้ร้านกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม  เนื่องจากที่ผ่านมาหลังจากที่ต้องปิดกิจการชั่วคราวไป  ตนไม่มีรายได้เข้ามาเลย  แต่ยังมีรายจ่ายที่ยังต้องจ่ายตามปกติให้กับพนักงานในร้าน  ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้สรุปว่าจะปรับลดเงินเดือนของพนักงานลงเท่าไหร่  เพื่อช่วยกันประครองธุรกิจให้สามารถอยู่รอดได้  โดยมีการช่วยเหลือด้วยการให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้

“ตอนนี้ตนยังไม่ได้สรุปว่าจะปรับลดเงินเดือนพนักงานลงเท่าใด  เพราะต้องการรอดูสถานการณ์ว่าสิ้นเดือนนี้รัฐจะผ่อนคลายเกณฑ์ให้กลับมาเปิดให้บริการได้หรือไม่  โดยหากยังต้องปิดต่อแล้วเปิดให้บริการได้เดือนมิถุนายนก็คงจะลำบากหนัก  โดยเฉพาะพนักงานในร้านซึ่งบางคนมีการทำประกันสังคม  ทำให้ไม่ได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด  ขณะที่บางคนไม่มีประกันสังคมก็ยังมีเงินเยียวยาจากกระทรวงการคลังเข้ามาช่วยได้บ้าง  ขณะที่โดยส่วนตัวเองก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง  แต่หากยังต้องปิดให้บริการต่ออีกนานก็คงแย่ไม่แตกต่างกัน”

ทั้งนี้  ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นกัน  แต่ทางร้านเองก็จะต้องมีมาตรการในการป้องกันอย่างเต็มที่ตามที่กระทรวงสาธารณสุข หรือที่ภาครัฐกำหนด  ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย การวัดอุณหภูมิร่างกาย  การมีเจลแอลกอฮอล์ไว้ล้างมือ  Face shield และการทำความสะอาดอุปกรณ์ด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังให้บริการ  โดยจะต้องยึดเป็นหลักปฏิบัติที่เคร่งครัดทั้งผู้ให้บริการ  และผู้ใช้บริการ

ร้านตัดผมร้องรัฐเปิดให้บริการเดือนพฤษภาคม

อย่าไรก็ดี  หากรัฐยังไม่ผ่อนเกณฑ์และยังคงให้ปิดกิจการต่อในเดือนพฤษภาคม  ตนอาจจะต้องกลับมาทบทวนแผนธุรกิจใหม่อีกครั้ง  เพราะเวลานี้ตนได้ขอให้พนักงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครต่อ  ทั้งที่พนักงานต้องการเดินทางกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัด  เพราะไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากในกรุงเทพฯได้ 

“ทุกคนต่างก็กลัวติดเชื้อโควิด-19 ด้วยกันทั้งนั้น  แต่ด้วยภาระค่าใช้จ่ายและรายได้ของแต่ละคนที่แตกต่างกัน และการได้รับการช่วยเหลือที่ยังไม่ครอบคลุม ทำให้ทุกคนเองก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีรายได้มาประครองชีวิตให้สามารถอยู่รอดได้”

เจ้าของร้านตัดผมชาย (บาร์เบอร์) แห่งหนึ่ง กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ต้องการให้รัฐฯผ่อนคลายเกณฑ์เพื่อให้กลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งในช่วงเดือนพฤษภาคม  เพราะที่ผ่านมาตนไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม  หรืออาจจะมากกว่าในการซื้ออุปกรณ์ป้องกันตนเองจากการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 และค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะต้องอยู่บ้านตลอด  หากยังต้องปิดกิจการต่อไปอีกในเดือนพฤษภาคมคงจะลำบากมากกว่านี้  แม้ว่าตนเองจะไม่มีพนักงานที่ต้องดูแลก็ตาม 

ร้านตัดผมร้องรัฐเปิดให้บริการเดือนพฤษภาคม

“ตนไม่มีพนักงานที่ต้องดูแล  แต่ก็ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวอีกมากที่ต้องดูแล  ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว บ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างที่เป็นรายจ่ายไม่ได้ถูกชะงักลงตามไปด้วย”