อี.คิว.พลัสรุกดิจิตอลคอนเทนต์ ดันการ์ตูนไทยลงสื่อออนไลน์

09 เม.ย. 2559 | 07:00 น.
อี.คิว.พลัส กรุ๊ป ขยายไลน์ต่อยอดงานดิจิตอลคอนเทนต์ดันการ์ตูนไทยลงสื่อออนไลน์ เล็งขายงานลิขสิทธิ์ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น เดินหน้าปรับสัดส่วนรายได้ใหม่รุกเมอร์ชันไดส์ และขายลิขสิทธิ์ ตั้งเป้าสิ้นปีรายได้โต 10-15%

นายสุรนิตย์ ชุมสาย ณ อยุธยา กรรมการบริหารบริษัท อี.คิว.พลัส กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แนวโน้มตลาดดิจิตอลยังคงเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดได้ใช้งบลงทุนกว่า 2 ล้านบาทเพื่อขยายงานด้านดิจิตอลคอนเทนต์ โดยเตรียมขยายงานด้านการสร้างแอนิเมชันจากคอนเทนต์การ์ตูนไทยที่บริษัทมี รวมถึงการเปิดช่องทางบน Youtube คือช่อง E.Q.Plus Official ทั้งนี้ได้วางกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มเด็ก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันกลุ่มเด็กเหล่านี้จะยังใช้สื่อโซเชียลมีเดียไม่มากนัก แต่มองว่ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้คืออนาคต

“การขยายงานดิจิตอลเกิดขึ้นจากแนวคิดว่า อยากให้เด็กๆ ที่ยังอ่านหนังสือไม่คล่องได้ดูแอนิเมชันความรู้สนุกๆ ที่เราทำเองในทุกกระบวนการ โดยเริ่มจากการนำคอนเทนต์ยอดนิยมอย่าง “ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง มาสร้างเป็นแอนิเมชันชุดแรก อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้หยุดตัวเองเพียงแค่ธุรกิจหนังสือเท่านั้น แต่บริษัทยังมองกว้างกว่านั้นโดยการวางตัวเองเป็นคอนเทนต์โพรไวเดอร์ที่สร้างคาแรกเตอร์การ์ตูนไทย ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในธุรกิจต่างๆได้หลากหลาย นอกจากนี้บริษัทยังได้วางแผนจับมือร่วมกับพาร์ตเนอร์ต่างๆ มากขึ้น”

ขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าจำหน่ายคาแรกเตอร์ลิขสิทธิ์การ์ตูนไปตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งการขยายงานครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเติบโตในแง่ของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการผลักดันและเป็นการสร้างวัฒนธรรมไทยให้ไปเติบโตในต่างประเทศอีกด้วย

ด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ปีนี้ยังคงให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน เนื่องจากที่ผ่านมาการ์ตูนรูปแบบเล่มของอีคิวพลัส ค่อนข้างได้รับความสนใจทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ประเทศมาเลเซีย ประเทศเกาหลีใต้ เป็นต้น ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจนี้ยังเป็นหัวหอกสำคัญของอีคิวพลัสโดยมีสัดส่วนรายได้กว่า 90-100% แต่ในปีนี้หลังจากที่ขยายงานด้านดิจิตอล สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะปรับเปลี่ยนไปเป็นธุรกิจสิ่งพิมพ์ 70-80% เมอร์ชันไดส์ 10% และขายลิขสิทธิ์ 10%

สำหรับช่วงที่ผ่านมาบริษัทสามารถขายลิขสิทธิ์การ์ตูนความรู้ได้กว่า 100 ปก เช่น ซีรีส์ชุดมหันตภัยโลก ซีรีส์ชุดวายร้ายใกล้ตัว ซีรีส์ชุดเจาะตำนานรอบโลก และซีรีส์จากคอนเทนต์การ์ตูนไทยอีกจำนวนมาก อาทิ ลา ฟลอร่า โปเม่ ไดโนฟาร์ม ซูคีเปอร์จิ๋ว ด็อกเตอร์ เอ็กซ์ เดวิล และปีนี้คาดว่าจะสามารถเจรจาขายลิขสิทธิ์ได้อีกราว 50 ปก ถือเป็นความสำเร็จทั้งในปริมาณของยอดขายและคุณภาพของผลงานที่มาจากคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งและการสื่อสารที่ดีของตัวการ์ตูน

ปัจจุบันบริษัทผลิตหนังสือปีละประมาณ 50 ปก แบ่งเป็น ตลาดการ์ตูนความรู้ในประเทศไทย ส่วนแบ่งอยู่ที่ 25% ของหนังสือทุกประเภท ซึ่งในตลาดการ์ตูนความรู้ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อลิขสิทธิ์ประมาณ 60 % และเป็นการ์ตูนความรู้ฝีมือคนไทยคือ 40 % ขณะที่ด้านรายได้ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% เมื่อเทียบจากปีก่อน พร้อมรักษาส่วนแบ่งตลาดการ์ตูนความรู้ฝีมือคนไทยสูงสุดเป็นอันดับ 1

สำหรับด้านกำลังซื้อของผู้อ่านในปีนี้มีอัตราลดลง รวมถึงธุรกิจร้านหนังสือที่จะขายได้น้อยลงเช่นกัน เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมซบเซา ขณะที่ธุรกิจหนังสือก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบไม่น้อย อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าแม้ภาพรวมตลาดจะทรงตัว แต่ธุรกิจด้านคาแรกเตอร์การ์ตูนจะยังคงเติบโต เช่น สติ๊กเกอร์ไลน์ เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,146 วันที่ 7 - 9 เมษายน พ.ศ. 2559