สุดไฮเทค! ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 สจล.

05 เม.ย. 2563 | 04:29 น.

สจล. เปิดตัว “KMITL GO FIGHT COVID-19” ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 พร้อมมาตรการเยียวยานักศึกษาท่ามกลางการเรียนยุคโควิด

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า สจล. เปิดตัวศูนย์ KMITL GO FIGHT COVID-19 ศูนย์รวมองค์ความรู้ และนวัตกรรมในด้านการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคโควิด-19 บริหารงานโดยสำนักงานบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS) เพื่อตอบสนองความต้องการความช่วยเหลือของโรงพยาบาล และหน่วยงานทุกภาคส่วนในด้านการพัฒนานวัตกรรม และองค์ความรู้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

 

สุดไฮเทค! ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 สจล.

 

การใช้งานประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI คัดกรองแม่นยำ พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ

 

ศูนย์รวมนวัตกรรมดังกล่าวจะทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ และส่งต่อนวัตกรรมให้แก่โรงพยาบาล และหน่วยงานที่สนใจ โดยมีนวัตกรรม อาทิ ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative pressure room) โมเดลเครื่องช่วยหายใจ (GO RES) ประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น ทั้งนี้ ศูนย์รวมนวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 จัดตั้งขึ้นภายใต้โครงการ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง ไร้ขีดจำกัด (KMITL 60th Year: Go Beyond the Limit)  สำหรับโรงพยาบาลและหน่วยงานที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม และรับคำแนะนำด้านการพัฒนานวัตกรรมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สำนักงานบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมพระจอมเกล้าลาดกระบัง (KRIS)

 

ศูนย์รวมนวัตกรรม KMITL GO FIGHT COVID-19 ถูกจัดตั้งขึ้นเฉพาะกิจ เพื่อสนองมาตรการเชิงรุกของ สจล. ในการเป็นผู้ช่วยเหลือด้านนวัตกรรม ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีทีมนักพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม สจล. ที่พร้อมให้คำปรึกษาด้านองค์ความรู้การนำนวัตกรรมต่างๆ ไปใช้ รวมถึงการผลิตเพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาล และหน่วยงานที่มีความต้องการ โดยศูนย์ KMITL GO FIGHT COVID-19 มีนวัตกรรมที่พร้อมใช้งาน ได้แก่

 

สุดไฮเทค! ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 สจล.

 

ห้องแยกโรคความดันลบ (Negative pressure room) ห้องคัดกรองเชื้อโรค ซึ่งจะปรับความดันภายในห้องให้เป็น Negative หรือมีแรงดันต่ำกว่าห้องข้างเคียง เพื่อไม่ให้อากาศซึ่งอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนภายใน ไหลออกมาสู่ห้องภายนอก ซึ่งโดยปกติ ห้อง Negative pressure  มีต้นทุนการสร้างอยู่ที่ห้องละไม่ต่ำกว่า 800,000 บาท แต่นวัตกรรม Negative Pressure โดยความร่วมมือของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. และศิษย์เก่า รวมถึงได้รับคำปรึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ สจล. สามารถสร้างห้องดังกล่าวได้ในต้นทุนที่ต่ำลง เพียงประมาณ 150,000 – 200,000 บาทต่อห้อง โดยเบื้องต้น สจล. ร่วมกับกรุงเทพมหานคร อยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการสร้างห้อง Negative pressure เพื่อใช้คัดกรองเชื้อโรค ให้แก่โรงพยาบาลวชิรพยาบาลจำนวน 5 ห้อง พร้อมใช้งานได้ทันที และโรงพยาบาลสิรินธรจำนวน 3 ห้อง โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในต้นเดือนเมษายน 2563

 

สุดไฮเทค! ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 สจล.

                           โมเดลนวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจ

โมเดลนวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจ (GO RES)  สจล. มีแนวคิดการผลิตในปริมาณมาก เพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลที่มีความต้องการใช้งานกับผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับที่มีอาการติดเชื้อในปอด ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจดังกล่าว อีกทั้งจำลองคุณสมบัติของเครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ในโรงพยาบาล ให้อยู่ในขนาดที่พกพาได้ เพื่อแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาล และผู้ที่มีความจำเป็นในการใช้งาน สามารถนำไปใช้เองได้ที่บ้าน อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนการผลิต โดยนวัตกรรมเครื่องช่วยหายใจที่ผลิตขึ้นโดย หลักสูตรวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. มีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาท ในขณะที่เครื่องช่วยหายใจขนาดใหญ่ที่ใช้ในโรงพยาบาลมีต้นทุนการผลิตถึงเครื่องละเกือบ 1 ล้านบาท

 

 

สุดไฮเทค! ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 สจล.

                          ระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ

ประตูสแกนอุณหภูมิระบบ AI คัดกรองแม่นยำ พร้อมระบบพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้ออัตโนมัติ สจล. พัฒนาเครื่องมือดังกล่าวขึ้นเพื่อคัดกรองบุคคลและพ่นละอองน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าหรือออกจากสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น สนามบิน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น อีกทั้งการคัดกรองด้วยระบบ AI จะช่วยลดความเสี่ยงในการใช้คนตรวจ ซึ่งอาจเกิดการแพร่เชื้อระหว่างผู้ใช้งานและผู้คัดกรองได้ ทั้งนี้ วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบิน สจล. ได้นำร่องใช้งานนวัตกรรมดังกล่าวเพื่อคัดกรองบุคคลก่อนเข้าอาคาร และพร้อมต่อยอดนวัตกรรมดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ในวงกว้าง

สุดไฮเทค! ศูนย์รวมนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 สจล.

 

ศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า ในด้านของการเรียนการสอนที่มีมาตรการปรับรูปแบบเป็นออนไลน์ทั้งหมด เพื่อสอดรับกับมาตรการลดระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ของกระทรวงสาธารณสุข โดย สจล. ได้ดำเนินการติดตามผลการเรียนในรูปแบบออนไลน์ และรับฟังปัญหาของนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง และได้ออกมาตรการช่วยเหลือนักศึกษา อาทิ ประกันสุขภาพ ฯลฯ ที่จะทยอยประกาศเพื่อเป็นการช่วยนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบ