ท่องเที่ยวใจชื้นได้ซอฟต์โลน 1 หมื่นล.ต่อลมหายใจ

            นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าจากมาตรการเยียวยาผลกระทบไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 2  ของรัฐบาล ทั้งการช่วยเหลือภาคธุรกิจและการจ่ายเงิน 5 พันบาทเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ออกมาล่าสุด ผมมองว่าตอบโจทย์และตรงความประเด็นการแก้ปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้นในขณะนี้

            โดยเฉพาะมาตรการดูแลและเยียวยาผู้ประกอบการ ในการเพิ่มสภาพคล่อง วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 150,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% 2 ปี สินเชื่อ ไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย และการพักต้นเงินลดดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้ฯ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
              ทั้งยังเพิ่มเติมเป็นการเฉพาะกรณีให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบมาหลายเดือนแล้ว ที่จะมีการแบ่งเงินจำนวน 1 หมื่นล้านบาท จากมาตรการซอฟต์โลน 1.5 แสนล้านบาท ภายใต้มาตรการดูแลเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนาระยะที่1 ให้กับธนาคารออมสิน เพื่อปล่อยกู้ให้แก่ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวเป็นการเฉพาะ  และให้ธนาคารออมสินเป็นผู้นำหลักในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยเร็ว  เพื่อประคองให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดได้ในภาวะเช่นนี้
               ทั้งนี้ซอฟต์โลนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวพยายามเรียกร้องมาโดยตลอด นับจากได้รับผลกระทบตั้งแต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งก็หวังว่ามาตรการที่ออกมาอย่างดีนี้ เราจะเห็นการเข้าถึงได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่ได้และยังคงการจ้างงานไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งมาตรการนี้จะสายต่อลมหายใจให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโดยเฉพาะเอสเอ็มอี โดยคาดว่าจะได้เม็ดเงินในต้นเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะเป็นซอฟต์โลนจากธนาคารออมสินต่อรายกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท และยังมีวงเงินจากเอสเอ็มอีแบงก์ กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย
                 “เราไม่ได้ขอรัฐบาล แต่ท่องเที่ยวแค่ขอยืมปล่อยออกมา ก่อนที่ลมหายใจจะขาด อ็อกซิเจนจะหมด โจร อาชญากรรม จะเกิดมากมาย การรักษาธุรกิจให้อยู่ได้ ก็จะเป็นการรักษาคนในระบบให้รอวันฟื้นตัวได้ต่อไป และรักษาแรงงานในภาคการท่องเที่ยวกว่า 4 ล้านคน ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ” นายชัยรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

               อย่างไรก็ตามก่อนที่ครม.จะมีมติดังกล่าว ทาง  16 สมาคมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ได้แก่ สทท.,สายการบินไทยแอร์เอเชีย,สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์,สมาคมโรงแรมไทย,สมาคมสปาไทย,สมาคมภัตตาคารไทย,นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว,สมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจ,สมาคมเรือไทย,สมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย,สมาคมผู้ประกอบการขนส่งทั่วไทย,สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ(ไทย),สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว,สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศและสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย ได้นำทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้รัฐบาลและสถาบันการเงินช่วยเหลือทางการเงินเร่งด่วน

            ได้แก่ 1. มาตรการเยียวยาหนี้เก่า โดยขอพักชำระเงินต้นเป็นเวลา 12 เดือน ขอชำระดอกเบี้ย 50% แรกในระยะเวลา 12 เดือนแรก และขอเลื่อนชำระดอกเบี้ย 50% หลัง เป็นระยะเวลาเป็นระยะเวลา 12 เดือนหลัง และขอกู้เพิ่มให้เต็มวงเงินเดิม

          2. มาตรการปล่อยเงินกู้เร่งด่วนช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว(ซอฟต์โลน) โดยปล่อยเงินกู้เร่งด่วนจำนวน 9 เดือน (เมษายน ถึงธันวาคม 2563) ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยอนุมัติวงเงินกู้ 70% ของรายจ่ายผู้ประกอบการในแต่ละราย ซึ่งผู้ประกอบการยื่นหลักฐานแสดงรายจ่าย เช่น เงินเดือน ค่าประกันสังคม ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือรายจ่ายประจำต่างๆ โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 2% เป็นระยะเวลา 24 เดือนเริ่มชำระวันที่ 1 มกราคม2565 เป็นต้นไป และชำระเงินต้น เริ่มชำระตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม2566 เป็นต้นไป และขอให้มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวมีผลบังคับใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป