โรยัล คานิน  เด้งรับเทรนด์  เลี้ยงหมา-แมวพุ่ง

27 มี.ค. 2563 | 05:04 น.

โรยัล คานิน ชี้เทรนด์เลี้ยงหมา-แมวในไทยพุ่งสูงถึง 21 ล้านตัว ใน 5 ปี เร่งเปิดแผนสร้างแบรนด์ พร้อมปูพรมสินค้าใหม่กว่า 30 รายการ เปิดแอพพลิเคชันให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ผู้เลี้ยง

สพญ.วรัทยา ประสมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรยัล คานิน (ประเทศไทย) ผู้นำด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้แบรนด์โรยัล คานิน” (ROYAL CANIN) ประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า จากเทรนด์การเลี้ยงสัตว์ในเมืองไทยที่ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเข้าสู่สังคมเดี่ยวครอบครัวลงเล็กมากขึ้น ประกอบกับคนส่วนใหญ่ไม่นิยมมีบุตรและเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก โดยกลุ่มคนเลี้ยงสุนัข 60-65% และแมว 35-40% ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องหรือคิดเป็น 21 ล้านตัว จากช่วง 5-6 ปีก่อนมีเพียง 12 ล้านตัว ขณะที่ 70-80% ของร้านเพ็ตช็อปที่วางจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขและแมว ซึ่งสะท้อนความนิยมในการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ชนิดที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางการดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวเท่านั้น เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญในสัตว์เลี้ยงกลุ่มดังกล่าว โดยจะยังคงให้ความสำคัญกับช่องทางสัตว์เลี้ยงแบบเฉพาะทาง ร้านเพ็ตช็อป โรงพยาบาลสัตว์ และกลุ่มผู้เพาะพันธุ์ เพื่อสร้างการเข้าถึงและรู้จักในตัวแบรนด์มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มผู้เลี้ยงสุนัข 35% และแมว 30% เท่านั้นที่ใช้อาหารสำเร็จรูปสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

โดยจะให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เลี้ยงถึงความสำคัญของการให้สุนัขและแมวรับประทานอาหารสำเร็จรูป พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวแอพพลิเคชันในชื่อโรยัล คานิน คลับซึ่งถือเป็นแอพพลิเคชันแรกสำหรับสัตว์เลี้ยงในไทยเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เลี้ยงอย่างสุนัขและแมวแต่ละสายพันธุ์ที่เลี้ยงถึงวิธีการดูแลที่ถูกต้อง โดยปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด 2.1 แสนรายแล้ว

โรยัล คานิน  เด้งรับเทรนด์  เลี้ยงหมา-แมวพุ่ง

สพญ.วรัทยา ประสมทรัพย์

ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโดยรวมโต 2-3% ขณะที่ในส่วนของตลาดสัตว์เลี้ยงแบบเฉพาะมีการเติบโต 5-6% จากมูลค่าตลาดรวมสัตว์เลี้ยง 1.5 หมื่นล้านบาท ดังนั้นแน่นอนว่าบริษัทจะเน้นโฟกัสการทำตลาดไปยังช่องทางแบบเฉพาะทางหรือร้านเพ็ตช็อป โรงพยาบาลสัตว์ ผู้เพาะพันธุ์ เท่านั้น เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่แบรนด์ในกลุ่มพรีเมียม

พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ในปีนี้ทั้งสิ้น 30 รายการ โดยจะเน้นในกลุ่มแคร์ (ผลิตภัณฑ์เพื่อดูแล) ใน 10 ความต้องการพิเศษ หรือผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัขและแมวที่ต้องการการดูแลแบบพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีปัญหาผิวหนัง อาหารสำหรับสุนัขและน้องแมว หลังทำหมัน เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง K9 Care Nutrition และอาหารสำหรับน้องแมว กลุ่มอาหารสำหรับบำรุงขน และอาหารโปรตีนสูง เป็นต้น

อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยมีสัตว์เลี้ยง (สุนัข,แมว) มากถึง 21 ล้านตัว โดยแบ่งเป็นสุนัข 14 ล้านตัว คิดเป็น 67% แมว 7 ล้านตัว หรือคิดเป็น 33% โดยในปี 2562 อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 3.54 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 42% หรือมีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในปีนี้คาดว่าตลาดจะเติบโตเพิ่มขึ้น 5% คิดเป็นมูลค่ารวม 3.7 หมื่นล้านบาท

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,559 วันที่ 22-25 มีนาคม 2563