ไทยสมายล์รับมือโคโรนา ปั๊มยอดขายตั๋วผ่านสตาร์อัลไลแอนซ์       

27 ก.พ. 2563 | 03:00 น.

 

ไทยสมายล์ ปรับแผนรับมือโควิด-19 ขยายเวลายกเลิก 3 รูตบินสู่จีนยาวไปถึงสิ้นเดือนเม..นี้ เผยไฟลต์บินระหว่างประเทศหดตัว ส่วนในประเทศบุ๊กกิ้งยังพุ่ง 70-80% พร้อมดันรายได้เพิ่มจากการเข้าร่วมเป็นคอนเนกติ้ง พาร์ตเนอร์ สายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ ประเดิมให้บริการแล้ว 3 แอร์ไลน์ มั่นใจได้ 7-8 สายภายในปีนี้

นางชาริตา ลีลายุทธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า จากสถาน การณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารในเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองต่างๆ ในสาธารณรัฐประชาชนจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการยกเลิกการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ทำให้สายการบินยังคงต้องขยายเวลาการยกเลิกเที่ยวบิน 3 เส้นทางบินสู่จีน ได้แก่ กรุงเทพฯ-ฉงชิ่ง กรุงเทพฯ-ฉางซา และกรุงเทพฯ-เจิ้งโจว ออกไปอีกจนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสที่เกิดขึ้น ยังส่งผลกระทบต่อเส้นทางบินระหว่างประเทศในเส้นทางอื่นๆอีกด้วย อาทิ ฮ่องกง ที่มีจำนวนผู้โดยสารลดลง ซึ่งเส้นทางบินระหว่างประเทศของไทยสมายล์ คิดเป็นสัดส่วน 50% ในจำนวนนี้เป็นเส้นทางบินจีน 10% ที่ตอนนี้ได้ยกเลิกชั่วคราวไป 3 จุดบิน ส่วนที่เหลือเป็นเส้นทางบินไปยังอินโดไชน่า อินเดีย แม้จะยังคงมียอดการจองล่วงหน้าเป็นปกติ แต่สายการบินก็ต้องจับตาดูบุ๊กกิ้งอยู่

ส่วนเส้นทางบินภายในประเทศ ที่คิดเป็นสัดส่วน 50% ปัจจุบันมีอัตราการบรรทุกเฉลี่ยราว 70-80% ถือว่าไม่กระทบเหมือนเส้นทางบินระหว่างประเทศ และไทยสมายล์ได้เพิ่มเที่ยวบิน 3 เส้นทางบินภายในประเทศ ตลอดเดือนมีนาคมนี้ ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงราย เพิ่มเป็น 4 เที่ยวบินต่อวัน เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ เพิ่มเป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน (เฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์) และเส้นทางกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ เพิ่มเป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน

ไทยสมายล์รับมือโคโรนา ปั๊มยอดขายตั๋วผ่านสตาร์อัลไลแอนซ์       

ชาริตา ลีลายุทธ

อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้สายการบินกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาปรับลดเป้าหมายการเติบโตของผู้โดยสารและธุรกิจในปีนี้ลง รวมถึงปรับแผนรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันสายการบินยังให้ความสำคัญกับมาตรการที่เกี่ยว ข้องกับการให้บริการผู้โดยสารและด้านสุขลักษณะ ทั้งบนเครื่องบิน และการบริการภาคพื้นดิน ได้แก่ มาตรการในการคัดกรองผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก การรักษาความสะอาดในห้องผู้โดยสารบนเครื่องบิน ทั้งด้านอุปกรณ์ เครื่องใช้ในการบริการและพนักงานที่ปฏิบัติงาน รวมถึงติดตามประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามสถาน การณ์และมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิด ในการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ

 

นอกจากนี้การที่สายการบินไทยสมายล์ ได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมเป็น Connecting Partner (คอนเนกติ้ง พาร์ตเนอร์) รายล่าสุดของกลุ่มพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลแอนซ์ ที่เพิ่งจะมีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะทำให้ไทยสมายล์มีช่องทางในการขายเพิ่มมากขึ้นจาก 28 สายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ เนื่องจากสายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ สนใจเชื่อมต่อเที่ยวบินภายในประเทศของไทยสมายล์ ที่ปัจจุบันไทยสมายล์ทำการบินอยู่ 10 เส้นทาง รวมกว่า 200 เที่ยวบินต่อวัน เพราะปัจจุบันการบินไทย เปิดให้บริการเส้นทางบินในประเทศอยู่เพียง 3 เส้นทางเท่านั้น โดยส่วนใหญ่ไทยสมายล์จะทำการบินแทน

ดังนั้นต่อไปผู้โดยสารในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ ที่ใช้บริการไทยสมายล์เชื่อมต่อเที่ยวบินภายในประเทศ ก็จะเปลี่ยนเครื่องโดยได้รับความสะดวกมากขึ้น สามารถใช้บัตรโดยสารใบเดียวตลอดเส้นทางได้ สามารถนำแต้ม สะสมไมล์หรือแลกแต้มกับสายการบินอื่นๆในเครือข่ายได้ และผู้ใช้บริการในชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่งของสายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ ก็สามารถใช้บริการห้องรับรอง (เลานจ์) ของสายการบิน อื่นๆในเครือข่ายได้ เนื่องจากจะต้องมีการพัฒนาระบบสารสนเทศร่วมกัน

 

ในระยะแรกของการเป็นคอนเนกติ้ง พาร์ตเนอร์ กับสายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ ไทยสมายล์ ได้เริ่มต้นการให้บริการกับ 3 สายการบินในเครือลุฟท์ฮันซ่าซึ่งเป็นพันธมิตรในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ ได้แก่ สายการบินลุฟท์ฮันซ่า,สวิสอินเตอร์เนชั่นแนล แอร์ไลน์, ออสเตรียนแอร์ไลน์ส คาดว่าจะมีโอกาสในการเพิ่มรายได้ราว 30 ล้านบาท ซึ่งตามแผนตั้งเป้าจะให้บริการสายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ ได้ราว 7-8 สายการบินภายในปีนี้ โดยในจุดเคาน์เตอร์เช็กอินของไทยสมายล์ จะมีเพิ่มในส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์สตาร์ อัลไลแอนซ์ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร

รวมถึงไทยสมายล์ยังบูรณาการแผนการบินร่วมกับการบินไทยอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเสริมธุรกิจซึ่งกันและกัน เพราะจุดแข็งของไทยสมายล์คือบริการ และต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากการก่อตั้งไทยสมายล์เริ่มจากการใช้โมเดล โลว์คอสต์ แอร์ไลน์ แต่ตำแหน่งการให้บริการของสายการบิน ไม่ใช่โลว์คอสต์ แต่เป็นรีจินัล แอร์ไลน์ ส่วนการบินไทยมีจุดแข็งด้านการตลาด มีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง การทำงานร่วมกันก็ถือว่าเอาจุดแข็งที่แต่ละฝ่ายมีมาช่วยกันสร้างความแกร่งให้ธุรกิจ นางชาริตา กล่าว

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,552 วันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 2563