ค้าปลีก โหมอีเวนต์ สู้ไวรัส

24 ก.พ. 2563 | 23:00 น.

ค้าปลีกมึน “ไวรัสโคโรนา-กราดยิง” ฉุดตัวเลขนักช็อปวูบ ปรับแผนปลุกมู้ดฟื้น “เซ็นทรัล” ทุ่มกว่า 500 ล้าน จัด 1,500 อีเวนต์ทั่วประเทศ “ฟิวเจอร์พาร์ค” ดึงร้านดังอัดโปรฯ กระหนํ่ากว่า 20 งานต่อสัปดาห์

 

ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด จากสถานการณ์ของไวรัส COVID-19 และเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช ส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการในศูนย์ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับแผนเพื่อกระตุ้นและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้อย่างปลอดภัย

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา และเซ็นทรัล เฟสติวัล เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมค้าปลีกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์พบว่าตัวเลขลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้า (Traffic) ลดลงจากปัจจัยสถานการณ์โลกและเหตุการณ์ในประเทศ โดยศูนย์การค้าทั่วไปจะมีจำนวนลดลงเล็กน้อย ส่วนศูนย์ การค้าในเมืองท่องเที่ยวจะลดลงมากกว่าเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป

อย่างไรก็ดี ซีพีเอ็นเตรียมแผนปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลา โดยเน้นจัดอีเวนต์และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ถี่ขึ้น พร้อมเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติอื่นๆ มาทดแทน เช่น ประเทศ CLMV, อินเดีย, รัสเซีย, เกาหลี เป็นต้น

นอกจากนี้ เซ็นทรัลเวิลด์ ยังเตรียมสร้างปรากฏ การณ์ happening ด้วยการจัดอีเวนต์ต่างๆ อาทิ การแสดงผลงานของศิลปินไทยที่เป็น New Aged Artists เพื่อผลักดันให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองอาร์ตโลกเทียบชั้นกระแสอาร์ตในนิวยอร์ก, Sport Event การ Co-Creation กับ Sport Influencer ชื่อดังของไทย, งาน “เสน่ห์ชวนชม” @เซ็นทรัล
พลาซา โคราช รวบรวมต้นชวนชม สายพันธุ์หายาก และสายพันธ์ุเก่าแก่ของโคราช รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท, งาน “International Cat Show” @ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว สำหรับกลุ่มทาสแมว เป็นต้น

“ในไตรมาสแรกนี้บริษัททุ่มงบกว่า 500 ล้านบาท จัดแคมเปญการตลาดที่ศูนย์การค้าทั้ง 33 สาขาทั่วประเทศ พร้อมกับจัดอีเวนต์กว่า 1,500 งาน รวมทั้งที่ศูนย์จัดเองและงานที่ลูกค้าพาร์ตเนอร์จัดขึ้น”

นายณัฐกิตติ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 อยู่ตลอดเวลาและมีมาตรการป้องกันอย่างรัดกุม และเชื่อมั่นในมาตรการของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่มีการป้องกันอย่างเข้มข้น รวมถึงตัวเลขการแพร่กระจายในประเทศไทยก็ยังควบคุมได้ หรือคนที่ติดเชื้อในหลายเคสก็ได้รับการรักษาจนหายดี ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนในเดือนมีนาคม คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นและสามารถเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนได้ บริษัทจึงเตรียมจัดแคมเปญซัมเมอร์และเทศกาลสงกรานต์ เพื่อกระตุ้นการ
จับจ่าย สร้างสีสันบรรยากาศการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มว่าคนไทยจะเที่ยวในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นค้าปลีกให้กลับมาดีขึ้นได้

แหล่งข่าวระดับสูงจากฟิวเจอร์พาร์ค กล่าวแสดงความคิดเห็นว่าจำนวนลูกค้าลดลงราว 3% เพราะหวาดกลัวและไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย อย่างไรก็ดีฟิวเจอร์พาร์ค ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอด ภัย พร้อมนำเทคโนโลยี อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เข้ามาเสริม อาทิ กล้อง CCTV, ระบบควบคุมไฟฟ้า, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ฯลฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น

ด้านแผนการปรับตัว ศูนย์ได้เพิ่มความเข้มข้นในการทำกิจกรรมทางการตลาดตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เริ่มตั้งแต่แคมเปญตรุษจีน ได้ปรับเปลี่ยนรางวัลจากเดิมที่เป็นแพ็กเกจทัวร์ปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ เป็น ทองคำหนัก 5 บาทแทน ขณะที่ในช่วงท้ายของไตรมาส 1 นี้ ศูนย์ยังคงมีบิ๊กอีเวนต์และแคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญซัมเมอร์, IAM Bangkok โชว์นวัตกรรมรถแต่ง (27 ก.พ.-2 มี.ค.) การออกบูธจำหน่ายสินค้าลดราคาของร้านค้าแม็กเนตในศูนย์ การออกบูธสินค้าจากออร์แกไนซ์ที่มาเช่าพื้นที่หมุนเวียนเปลี่ยนทุกสัปดาห์กว่า 20 งาน เพื่อจะช่วยกระตุ้นและปลุกมู้ดการจับใช้จ่ายพร้อมเพิ่มสีสันตกแต่งบรรยากาศภายในศูนย์การค้าไม่ให้เงียบเหงา

หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3551 วันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2563