ดึง"ไทยเที่ยวไทย" สู้ศึกโคโรนา  ปั๊มรายได้ 1.13 ล้านล้าน

04 ก.พ. 2563 | 03:40 น.

การสกัดไวรัสโคโรนาที่รัฐบาลจีนสั่งให้บริษัทนำเที่ยวหยุดจัดทัวร์นำนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกทั่วโลก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) คาดว่าในช่วง 3 เดือนนี้หลังเทศกาลตรุษจีน (ก.พ.-เม.ย. 63) จีนจะหายไปร่วม 2 ล้านคน สูญเสียรายได้ไปราว 1 แสนล้านบาท ททท.ต้องเร่งหาตลาดอื่นเข้ามาชดเชย “ไทยเที่ยวไทย” เป็นตัวช่วยสำคัญ อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

 

ไทยเที่ยว 172 . คน-ครั้ง

การเดินทางเที่ยวในประเทศของคนไทยในปี 2562 จากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ภาพรวมในปีที่ผ่านมาดูไม่คึกคัก แต่ก็มีคนไทยเที่ยวในประเทศถึง 167 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้า และการจัดโปรโมชันในเส้นทางบินระหว่างประเทศ ของสายการบินต้นทุนตํ่า ทำให้ราคาทัวร์เที่ยวต่างประเทศก็เฉียดๆกับเที่ยวในประเทศ ก็จัดว่าเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบ 

ในปีนี้ททท.จึงต้องแก้เกมใหม่ กระตุ้นให้เกิดความถี่ในการเดินทาง และเพิ่มวันพักค้างของนักท่องเที่ยวไทยให้เพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่าจากความกังวลเรื่องของไวรัสโคโรนา คนไทยส่วนหนึ่งก็น่าจะมองการเดินทางเที่ยวในประเทศแทนไปเที่ยวนอก โดยในปี 2563คาดการณ์ว่าการเดินทางเที่ยวในประเทศจะอยู่ที่ 172 ล้านคน-ครั้ง ขยายตัว 3% สร้างรายได้ราว 1.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%

หนุนเที่ยวภาคเดียวกัน                        

แม้ความห่วงใยในปีนี้ก็ยังมีท้าทายตรงที่เศรษฐกิจองค์รวมยังไม่นิ่ง พฤติกรรมของคนปัจจุบันที่มีแนวคิดต้องไปเที่ยวต่างประเทศ ความล่าช้าของงบประมาณปี 2563 ที่ทำให้ททท.ต้องปรับแผนกระตุ้นตลาดให้สอดรับกับงบประมาณที่ได้รับในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้

การทำตลาดไทยเที่ยวไทยในปีนี้จึงไม่ได้ทำการตลาดแบบหว่านในภาพรวม แต่จุดโฟกัสหลัก จะเน้น 2 เรื่องหลัก เรื่องแรก คือกระตุ้นการเดินทางภายในภูมิภาค เน้นการเดินทางระยะใกล้ไม่เกิน 300 กิโลเมตร โดยดึงอีเว้นต์ช่วงก..-มี..นี้กระตุ้นให้เกิดความถี่เดินทางข้ามจังหวัดเพิ่มขึ้น เช่น ทะเลที่ระยอง กับพัทยาก็ไม่เหมือนกัน เรานำมาขายได้ การนำเรื่องของอาหาร โปรดักต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกดึงมาเป็นจุดขาย

ดึง"ไทยเที่ยวไทย" สู้ศึกโคโรนา  ปั๊มรายได้ 1.13 ล้านล้าน

 

180เส้นทางเที่ยวข้ามภาค

เรื่องที่ คือกระตุ้นให้เกิดการเดินทางข้ามภูมิภาค ในปีนี้ททท.ได้จัดทำแคมเปญ 60 เส้นทางความสุข สำหรับกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเที่ยวไทยใน 3 ฤดูกาลของไทย เพื่อนำเสนอจุดขายใน 180 แหล่งท่องเที่ยว โดยมีทั้งเส้นทางที่นักท่องเที่ยวโหวตและททท.คัดเลือกขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวแคมเปญท่องเที่ยวฤดูหนาว 60 เส้นทาง หรือ Hello Winter ในภาคเหนือไปแล้ว สำหรับเส้นทางต่อไปก็จะเปิดตัว 60 เส้นทางความสุข Hello Sumer เป็นต้น

ททท.เน้นผลักดันให้เกิดการเดินทางจริง โดยทำแคมเปญในแต่ละฤดูท่องเที่ยวร่วมกับพันธมิตรต่างๆ อาทิ สายการบิน โรงแรม จัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อแพ็กเกจเดินทางไปท่องเที่ยว รวมถึงสำนักงานในประเทศของททท.ทุกแห่งก็สนับสนุนให้ทราเวล เอเยนต์ ในพื้นที่ ร่วมกันขายแพ็กเกจในเส้นทางที่กำหนดไว้ในแคมเปญนี้ด้วย และร่วมกับออนไลน์ ทราเวล เอเยนต์ (OTA)ในการกระตุ้นตลาดข้ามภาคด้วย ไม่ใช่แค่ประชาสัมพันธ์แคมเปญเท่านั้น

นอกจากนี้ททท.ยังจะเน้นเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่ต้องทำให้เกิดความเป็นรูปธรรมในการเดินทางเที่ยวได้จริง ซึ่งททท.จะร่วมกับทราเวล เอเยนต์ในแต่ละภาค จัดทำโครงการที่เกี่ยวกับซีเอสอาร์ รวมไปถึงหยิบประเด็นข้อกังวลในเรื่องของโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป มากระตุ้นให้คนเดินทาง เช่น ในภาคเหนือจะทำโครงการ Forest Therapy เที่ยวอุทยานรับพลังธรรมชาติ

เนื่องจากมีผลวิจัยจากญี่ปุ่นพบว่าการอยู่ในป่าเพียง 2 ชม.หรือถอดรองเท้าเดินในป่า สามารถลดกระแสคลื่นในโทรศัพท์มือถือที่สะสมอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้ ซึ่งมือถือเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนไปแล้ว เราจึงนำผลวิจัยนี้มาทำให้เกิดการท่องเที่ยวได้ เป็นต้น

 

ดันปลดล็อกขยายกลุ่มไมซ์

รวมถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวปัจจุบันจะเห็นว่าคนไทยเดินทางเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะการขับรถเที่ยว ททท.จะมีการหารือร่วมกับบริษัทนํ้ามัน เช่น บางจาก หรือปตท.ในการกระตุ้นท่องเที่ยว เช่น การสะสมแต้มการเติมนํ้ามันที่จะได้รับเพิ่มขึ้น การส่งเสริมการขาย Flash Sale “บอกรัก เมืองไทยร่วมกับผู้ประกอบการออกบูธนำเที่ยวแคมเปญพิเศษที่สยามสแควร์

อีกตลาดที่ททท.จะเข้าไปให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น คือกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งเดิมเรามองกลุ่มซีเนียร์ อายุ 60 ปี มาเที่ยวพร้อมลูกหลาน แต่ในปีนี้จะปรับใหม่มาเน้นกลุ่มคนอายุมากกว่า 50 ปี เพราะกลุ่มเหล่านี้ยังอยู่ในวัยทำงานมีกำลังจ่าย และนิยมเดินทางท่องเที่ยวกันเองในกลุ่มเพื่อน ไม่ต้องรอลูกหลานพาไปเที่ยว ททท.จะเข้าไปขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากขึ้น และการนำโซเชียลมีเดีย เข้าไปสร้างให้เกิดการเดินทางเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

การผลักดันให้เกิดการจัดสัมมนาดูงาน ของกลุ่มปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งททท.ได้เสนอขอให้รัฐบาลปลดล็อกให้กลุ่มเหล่านี้สามารถจัดสัมมนาดูงานในประเทศได้ การขยายกลุ่มโรงเรียน-ศิษย์เก่า เพื่อกระตุ้นตลาดไมซ์และทำให้เกิดการเดินทางเที่ยวในวันธรรมดา

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,545 วันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ 2563