คาดจีน 2.8 แสนคน ทะลักเที่ยวไทยช่วงตรุษจีน

14 ม.ค. 2563 | 08:04 น.

“แอตต้า” ประเมินช่วง 7 วันเทศกาลตรุษจีน คาดคนจีนทะลักเที่ยวไทย 2.8 แสนคน ห่วงค่าบาทแช็ง 10 % ทำทัวริสต์หนีไปประเทศเพื่อนบ้าน 

นายวิชิต ประกอบโกศล  นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวหรือ (แอตต้า) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนปีนี้ว่า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยในราว 2.8 แสนคน ช่วงระหว่างวันที่ 25 –31 กุมภาพันธ์ หรือมีจำนวนใกล้เคียงกับปีที่แล้ว 

ส่วนการระบาดของโรคปอด อักเสบที่เกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นมณฑลหู่เป่ย เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับการเดินทางของคนจีนที่มาเที่ยวประเทศไทยเนื่องจากรัฐบาลไทยมีมาตรการดูแล และป้องกันที่เข้มข้น ถึงการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินที่มาเมืองอู่ฮั่น

“ผมคิดว่าคงไม่มีการระบาดเหมือนโรคซาร์ส และทางรัฐบาลจีนก็เข้มงวดและมีมาตรการป้องกันระบาดไม่ให้ขยายวงเพราะมีประสบการณ์จากโรคซาร์สมาแล้ว” นายกแอตต้ากล่าว 

คาดจีน 2.8 แสนคน ทะลักเที่ยวไทยช่วงตรุษจีน

อย่างไรก็ดีเป้าหมายนักท่องเที่ยวในปีนี้คาดว่าจะมีจำนวน 40.5-41 ล้านคนจากปีที่แล้วคาดว่าจะมีจำนวน 39.7 ล้านคน ซึ่งถือว่าเติบโตมาก ส่วนนักท่องเที่ยวจากตลาดจีนคาดว่าสิ้นปี 2563 จะมีจำนวน11.5 ล้านคน ส่วนปี 2562 คาดว่าจะมีจำนวน 11 ล้านคน

ทั้งนี้ปัญหาหลักของการท่องเที่ยวไทยคือได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้ราคาทัวร์ปรับขึ้น 10 % ซึ่งถือว่าแพงมากเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งในภูมิภาคและหากค่าเงินมีแนวโน้มแข็งค่ามาอยู่ที่ 28-29 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ  อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยคงได้รับผลกระทบหนักทั้งท่องเที่ยวและส่งออก เพราะเที่ยวเมืองไทยจะแพงมากเสียเปรียบประเทศอื่น ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดระดับบนอย่าง ญี่ปุ่น ดูไบ  ระดับรอง อย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย และระดับล่างเช่น เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา ที่ดึงส่วนแบ่งทางการตลาดนักท่องเที่ยวจีนไปเป็นจำนวนมาก

คาดจีน 2.8 แสนคน ทะลักเที่ยวไทยช่วงตรุษจีน

ดังนั้นสิ่งที่แอตต้าต้องการให้ รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น 1. การเพิ่มงบสนับสนุนในการทำการตลาดเพิ่มในจีน 2. เรื่องฟรีวีซ่า ที่เคยขอไปแล้ว 3. การดูแลค่าเงินที่ไม่ให้แข็งจนเกินไป และ 3. เรื่องตารางเวลาบิน (สล็อตไทม์) ของสายการบิน เพื่อให้สามารถกระจายนักท่องเที่ยวช่วงรอตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินไม่ให้กระจุกตัว ได้อย่างรวดเร็ว 

ส่วนเรื่องอี-วีซ่า แม้สถานฑูตไทยจะเริ่มใช้กับนักท่องเที่ยวจีน แต่ยังคิดเงื่อนไขที่ต้องไปสแตมป์วีซ่าที่สถานฑูต ซึ่งเป็นเพียงการกรอกข้อมูลส่งผ่านออนไลน์ เพื่อขอวีซ่าเท่านั้น ต่างจากประเทศอื่นที่เป็นการขอวีซ่าผ่านออนไลน์โดยตรง ประเทศไทยควรทำในลักษณะนี้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวไม่ต้องยุ่งยากไปสแตมป์วีซ่าที่สถานฑูต ซึ่งทั้งหมดหากรัฐบาลให้การสนับสนุนก็จะช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่มขึ้น