ชู 6 พื้นที่จัด“ไทยแลนด์ สตรีทฟู้ด เฟสติวัล”

05 ม.ค. 2563 | 08:11 น.

รัฐบาลผนึกกำลังภาคเอกชนพร้อมเชฟระดับโลก จัดโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” เล็งเป้ายกระดับสตรีทฟู้ดไทย กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ประเดิมจัดงานแรกกุมภาพันธ์ 2020 นี้ ปิดถนนสีลมทำ Pad Thai World Record by World Gas โชว์ศักยภาพสู่ชาวโลก

        โครงการThailand Street Food Festival 2020” โดยโครงการดังกล่าวนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีมูลค่ากว่าปีละ 3 ล้านล้านบาทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นซึ่งโครงการดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชนทุกภาคส่วนทั้ง ระดับประเทศและระดับท้องถิ่นได้ร่วมผลักดันเพื่อขับเคลื่อนภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืนสู่อนาคต

ชู 6 พื้นที่จัด“ไทยแลนด์ สตรีทฟู้ด เฟสติวัล”

       ที่ผ่านมาสตรีทฟู้ดของไทยเราโด่งดังไปทั่วโลกโดยได้รับการจัดอันดับจากสถาบันระดับโลกมากมาย อาทิ สำนักข่าว CNN จัดอันดับให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีอาหารริมทาง หรือ สตรีทฟู้ด ดีที่สุดในโลก เพราะมีรสชาติอร่อย หลากหลาย และมีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวสามารถเสาะหาอาหารได้ตลอดทั้งวันทุกพื้นที่ ในราคาย่อมเยา”

   โดยยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมาภาพรวมตลาดอาหารริมทางในประเทศไทย หรือสตรีทฟู้ดส์ มีมูลค่า 276,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 ถึง 4.3% และยังเติบโตต่อเนื่องอีก 4 ปีติดต่อกัน โดยคาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 340,000 ล้านบาท ในปี 2564 คิดเป็นอัตราขยายตัวเฉลี่ย 5.3% ต่อปีจากการประเมินในปี 2559 มีผู้ประกอบการอิสระที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารริมทางประมาณ 103,000 ร้าน คิดเป็น 69% ของร้านอาหารทั้งหมด และเป็นมูลค่าราว 228,000 ล้านบาท โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 5.4% ต่อปี

ชู 6 พื้นที่จัด“ไทยแลนด์ สตรีทฟู้ด เฟสติวัล”

    นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า  การท่องเที่ยว เชิงอาหาร (Street food) ในประเทศไทย นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวของประเทศ เนื่องจากอาหารไทยได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากซึ่งประเทศที่มีนักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวเชิงอาหาร หรือ สตรีทฟู้ด (Street food) ในประเทศไทย 5 อันดับแรก

      ประกอบด้วย จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา จึงเห็นได้ว่าการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร จะเป็นส่วนช่วยผลักดันเศรษฐกิจของประเทศได้ ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้มีการจัดรณรงค์เรื่องการท่องเที่ยว เชิงอาหาร โดยทางกระทรวงได้มีการจัดการด้านนโยบายเพื่อรองรับแผนงานดังกล่าว เพื่อส่งเสริมศักยภาพของประเทศไทยในฐาStreet Food อันดับ 1 ของโลก ให้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาชาวโลก

        อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตาม
โยบายรัฐบาล โดยในปี 2563 นี้ จะจัดให้มี โครงการ Thailand Street Food Festival 2020” โดยเริ่มกิจกรรมแรกในช่วงวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์  ณ บริเวณถนนสีลม คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 100,000 คนโดยประมาณการว่าจะมีเงินหมุนเวียนประมาณกว่า 500 ล้านบาท ตลอด 2 วันของการจัดงาน"

         “รัฐบาลได้จัดให้มีโครงการThailand Street Food Festival 2020”พื่อเป็นเวทีโปรโมทการท่องเที่ยวด้านอาหารของประเทศไทย GASTRONOMY TOURISM  เนื่องจากสตรีท ฟู้ด เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก "

          ด้าน นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาล ได้มีนโยบายส่งเสริมกิจกรรม "วอล์คกิ้ง สตรีท" ( walking street )ในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่สำคัญทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ครั้งนี้หน่วยงานของทั้งภาครัฐและเอกชนจะได้มาร่วมกันผลักดันโครงการการท่องเที่ยว เชิงอาหาร (Street food) ในประเทศไทยผ่านโครงการ Thailand Street Food Festival 2020

เชื่อมั่นว่าจะเป็นการช่วยยกระดับและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในระดับสากล

     “ โครงการนี้ เบื้องต้น จะมีทั้งสิ้น 6 ครั้ง โดยครั้งแรก จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 1 - 2 กุมภาพันธ์ 2020 ณ บริเวณถนนสีลม ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้น ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม  ณ จ.พระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 3 คือวันที่ 3 – 6 เมษายน ณ พัทยา จ.ชลบุรี ครั้งที่ 4 ในวันที่ 25 - 26 เมษายน  ณ จ.เชียงใหม่, ครั้งที่ 5 จะจัดขึ้นในวันที่ 1 - 3 พฤษภาคม ณ จ.ขอนแก่น ครั้งที่ 6 จะจัดระหว่างวันที่ 30 – 31 พฤษภาคม ณ จ.ภูเก็ต โดยสถานที่ทั้ง6แห่งดังกล่าวนี้ถือเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ           
          เนื่องจากเป็นพื้นที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวภาคค่ำ(
NightTourism)และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเป็นการเสริมศักยภาพให้ภาพรวมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโดยรวม ให้ได้รับการบูรณาการ และมีศักยภาพยิ่งขึ้น

ชู 6 พื้นที่จัด“ไทยแลนด์ สตรีทฟู้ด เฟสติวัล”

    ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการท่องเที่ยวนั้นถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยสร้างรายได้ ที่มีมูลค่าเป็นอันดับหนึ่งของการค้าบริการรวมของประเทศ โดยคิดเป็น ร้อยละ 10 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross domestic product: GDP) การท่องเที่ยว ก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องประมาณ 2 ล้านคน โดยองค์การการค้าโลก(WTO)เผยว่าประเทศไทยสามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.65 ล้านล้านบาท คว้าอันดับ 3 ของประเทศที่ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกประจำปี 2559 2560  และล่าสุดต้นปี 2019 ที่ผ่านมา รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มสู่ 3 ล้านล้านบาท          
      
ขณะที่มาสเตอร์การ์ดได้เผยผลสำรวจเมืองสุดยอดจุดหมายปลายทางด้านอาหารและการชอปปิ้ง กรุงเทพฯ ติดอันดับ 3 เมืองที่มีการใช้จ่ายด้านอาหารมากที่สุด และติดอันดับที่ 6 ของเมืองที่มีการใช้จ่ายด้านการชอปปิ้งมากที่สุด เช่นกัน “ททท.เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งทางที่จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยมากขึ้น และเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวเชิงอาหารในประเทศ ซึ่งรัฐบาลและภาคเอกชนกลุ่มต่างๆ อาทิ ธนาคารออมสิน กลุ่มบุญรอด และเวิลด์แก๊ส ฯลฯสามารถร่วมกันสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง สมดุล ยั่งยืนได้ร่วมกัน”

 

        ในส่วนธนาคารออมสิน นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า “ธนาคารฯได้มีการเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและยกระดับให้กับผู้ค้าอาหารริมทางและได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่นโครงการ Street Food เปลี่ยนชีวิต by GSB ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายอาหารริมทางของภาครัฐบาล ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงในอาชีพขายอาหารให้มีความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและเพื่อให้ผู้บริโภคได้บริโภคอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าสู่ Thailand 4.0 โดยที่ให้มีการชำระเงินค่าอาหารและบริการทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือได้ในงาน”

      นอกจากนี้  ชมกมล พุ่มพันธ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายก๊าซหุงต้ม แบรนด์เวิลด์แก๊ส  กล่าวว่า “โดยทางบริษัทจะเข้าร่วมกิจกรรม โดยจะเนรมิตรสวรรค์ของนักชิมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยการนำเสนอ “ผัดไทเวิลด์เร็คคอร์ดโดยเวิลด์แก๊ส” ด้วยการเชิญกินเนสเวิลด์เร็คคอร์ด มาร่วมบันทึกสถิติของกระทะ ผัดไทที่ยาวที่สุดในโลก และปริมาณผัดไท 1 กระทะที่มากที่สุดในโลก โดยกระทะมีความกว้าง 99 เซนติเมตร มีความยาว 110 เมตร แก๊ส 110 ท่อ พร้อมคนผัด 110 คน มีน้ำหนักผัดไทย 2200 กิโลกรัม และสามารถเสิร์ฟให้คนทานได้มากกว่า 22,000 ชุด

      ทางด้านเชฟชุมพล  แจ้งไพร เชฟมิชินลินสตาร์สองดาวคนไทยคนแรกของโลกในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน “ Thailand Street Food Festival 2020   ” กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาต่อยอดธุรกิจสตรีทฟู้ดของประเทศไทยให้มีความเป็นมืออาชีพโดยร่วมมือกับสถาบันคุณวุติวิชาชีพ เพื่อผู้ประกอบการสตรีทฟู้ด ให้มีความรู้เพียบพร้อมสำหรับการบริหารจัดการ Street food ให้มีความสะอาด รักษาสิ่งแวดล้อมฯลฯ  โดยในปีนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และยิ่งใหญ่ระดับโลก พร้อมคัดสรร STREET FOOD ระดับ 5 ดาว จำนวนกว่า 100 ร้านค้า มาร่วมในงานนี้  พร้อมทั้ง 400 ร้านดังจากการคัดเลือกทั่วประเทศ และ 60 Food Truck ระดับแนวหน้า

ชู 6 พื้นที่จัด“ไทยแลนด์ สตรีทฟู้ด เฟสติวัล”


      อีกไฮไลต์คือการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นลุ้นรับคูปองอิเล็คทรอนิกส์(e-coupon) สำหรับทานฟรี ทุกๆวัน ของการจัดงาน  โดยแต่ละวัน ประชาชน และ นักท่องเที่ยวมีสิทธิ์ทานฟรี. มูลค่า 200 บาท  ต่อคน/จำนวน 2,000 สิทธิ์ต่อวัน นอกจากนี้จะมีการโหวตคะแนนจากประชาชน เพื่อหาสุดยอด  Street food โดยการโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น  และสุดท้าย การจัด Festival ครั้งนี้ จะมีศิลปินนักร้องและดาราชื่อดังมากมาย ซึ่งพร้อมจะมาเพิ่มความสนุกสนานให้กับงานนี้อย่างล้นหลามอีกด้วย