‘ลิกมันไลท์ติ้ง’ ปั้น Smart Lighting รับเทรนด์ตลาดโลก

05 ม.ค. 2563 | 09:32 น.

​​​​​​​“ลิกมันไลท์ติ้ง” เดินหน้ารุกธุรกิจส่องสว่าง ชูเทคโนโลยี 4.0 ปั้น Smart Lighting รับเทรนด์โลกเผยทุ่มกว่า 180 ล้านบาท ขยายไลน์การผลิตพร้อมรุก ตลาดใน-ต่างประเทศ พร้อมเปิดตัว Lighting workshop Studio อินโนเวชันเซ็นเตอร์ระดับโลก

 

นายศักดิ์ชาย มานะวงศ์สกุล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลิกมันไลท์ติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคมไฟและระบบแสงสว่างคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์Ligman” เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ยุทธศาสตร์ในการทำงานนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการดำเนินงานทั้งในและต่างประเทศ ผ่านรูปแบบการทำการตลาดที่หลากหลาย ตามแผนการดำเนินธุรกิจของทีมงานที่มีอยู่ทั่วโลกการจัดโปรโมชัน และการร่วมงานแฟร์ ประเทศเยอรมนี เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก โดยเน้นใน 3 ลุ่มประเทศ ได้แก่ 1. กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว อาทิ สหรัฐ อเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย 2. กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ ประเทศในกลุ่มเอเชีย และ 3 กลุ่มประเทศแอฟริกา โดยตลาดหลักคือกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีกำลังซื้อมีเทคโนโลยีที่รองรับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ

 

ทั้งนี้แนวทางการทำธุรกิจของบริษัทนั้นจะให้ความสำคัญกับ 5 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ 1. สถาปนิก 2. นักออกแบบแสงสว่าง 3. นักออกแบบตกแต่งภายใน interior Designer 4. นักภูมิศาสตร์ และ 5. นักออกแบบงานระบบ ด้วยจุดเด่นเรื่องของคุณภาพสินค้า ความปลอดภัย เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการ โดยมีการออกแบบและผลิตเองตั้งแต่ต้นนํ้าจนถึงปลายนํ้า โดยโมเดลธุรกิจหลักคือ การออกแบบผลิตภัณฑ์โคมไฟฟ้าภายนอกอาคาร (เอาต์ดอร์) คิดเป็นสัดส่วน 95% ส่วนอีก 5% เป็น ผลิตภัณฑ์โคมไฟภายในอาคาร (อินดอร์)

 

จากเทรนด์ธุรกิจไลติ้งที่มีการปรับเปลี่ยนเป็นหลอดแอลอีดีและสามารถประหยัดพลังงานได้อย่างน้อย 30% ทำให้บริษัทมีแนวทางในการออกแบบ ผลิต ทดสอบและจำหน่าย ไปทั่วโลก โดยมีไทยเป็นฐานผลิตและจำหน่ายหลัก โดยปัจจุบันกำลังการผลิตราว 85% ส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก ใน 65 ประเทศ มีบริษัทย่อยที่ใช้ในการส่งออกอีก 13 บริษัท ซึ่งเป็นการลงทุนเองทั้งหมด 100%”

 

ด้านตลาดต่างประเทศซึ่งเป็นตลาดหลักที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 95% นั้น หลังจากบริษัทได้เข้าไป ลงทุนและจัดตั้งโรงงานที่สหรัฐอเมริกาเพื่อใช้เป็นศูนย์กลางของ North America มีห้องทดสอบที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของอเมริกา รวมถึงสาธารณรัฐเช็ก ที่มีทั้งสำนักงาน โรงงาน และโชว์รูม เพื่อใช้เป็นฐานในการจำหน่ายในกลุ่มประเทศยุโรป และแอฟริกาเหนือ ขณะที่ไทย มีหน้าที่ส่งออกวัตถุดิบ ไปให้แก่บริษัทย่อยทั้ง 13 บริษัทในเครือทั่วโลก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างมองหากลุ่มประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยปัจจุบันบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดในระดับโลกอยู่ที่ไม่ถึง 1% ทำให้มองว่ายังมีโอกาสทางการตลาดและเติบโตได้อีกมาก

‘ลิกมันไลท์ติ้ง’  ปั้น Smart Lighting  รับเทรนด์ตลาดโลก

นายศักดิ์ชาย กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการลงทุนในประเทศไทย บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุน 120 ล้านบาท ในการขยายกำลังการผลิตและเครื่องจักรเพิ่มเติม ในโรงงานที่จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดเวลา ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกควบคู่กับการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เป็นเทรนด์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์โคมที่เล็กลง เน้นความสวยงาม มีแสงสว่างมากขึ้น การนำเทคโนโลยี 4.0 เข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์และการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น การออกแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับโรงงานที่สามารถควบคุมผ่านระบบ wireless, wi-fi, bluetooth ในการเปิด-ปิดคอมพิวเตอร์หรือสั่งการให้แสงสว่างเพิ่มหรือลดได้

 

นอกจากนี้ยังจับมือกับพาร์ตเนอร์ระดับโลกกว่า 10 รายเดินหน้าสู่ Smart Lighting ทั้งจอแอลอีดีสำหรับกล้องวงจรปิด ลำโพง Speaker หรือปุ่มการใช้งานกรณีฉุกเฉิน อินเตอร์คอมพ์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือ IoT ที่บริษัทคิดค้นพัฒนาขึ้น นอกจากนี้ยังมี light connect นวัตกรรมด้านแสงสว่างที่จะเชื่อมต่อและสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับการใช้ชีวิต เช่น การใช้งานผ่านระบบสั่งการอัจฉริยะ ระบบควบคุมผ่านมือถือ รวมทั้งการพัฒนาสินค้าใหม่ออกวางจำหน่ายทั้งในกลุ่มเอาต์ดอร์ 10 หมวดผลิตภัณฑ์ และอินดอร์ 5 หมวดผลิตภัณฑ์ หรือคิดเป็นปริมาณ 300-400 รายการต่อปี

 

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว Lighting workshop Studio บนพื้นที่ 650 ตารางเมตร จากพื้นที่ แฟล็กชิพสโตร์ ทั้งหมด 1,500 ตารางเมตร ภายใต้งบลงทุน 30 ล้านบาท ถือเป็นสตูดิโอแห่งแรกในเอเชีย-แปซิฟิกเพื่อจำลองการติดตั้งจริง เพื่อให้พันธมิตร และผู้ที่สนใจได้เข้าชม ซึ่งลูกค้าจะได้รับชมการติดตั้งหลอดไฟของแต่ละประเทศในแต่ละโลเกชัน การดีไซน์การให้แสงสว่าง ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้เป็นศูนย์ให้ความรู้ให้แก่ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าหมายการเติบโต 5% จากปีก่อน ที่มียอดขายทั่วโลก 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายในต่างประเทศ 85% และในประเทศ 15% ปัจจุบันลิกมันไลท์ติ้งมีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่ม Outdoor Lighting ในประเทศราว 25% และ Indoor Lighting 2% ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจไลติ้งในเมืองไทย มีมูลค่าราว 15,000 ล้านบาท มีการเติบโตราว 5% ต่อปี

 

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,537 วันที่ 5-8 มกราคม 2563

‘ลิกมันไลท์ติ้ง’  ปั้น Smart Lighting  รับเทรนด์ตลาดโลก