ทอท.ยันยังไม่มีนโยบายขึ้นค่าPSC

10 ธ.ค. 2562 | 05:31 น.

ทอท.ยันไม่มีนโยบายเพิ่มภาระให้แก่ประชาชน กรณีหากต้องนำรายได้จากค่าบริการผู้โดยสารขาออกสมทบทุนกองทุนเพื่อการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศยาน

 

หลังจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งให้กรมท่าอากาศยาน(ทย.) เร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเงินที่ได้จากการจัดเก็บค่าบริการผู้โดยสาขาออก (PSC) ของทุกสนามบินนอกเหนือไปจากสนามบินของ ทย. ในอัตราไม่เกิน 10% มาเข้าบัญชีเงินทุนหมุนเวียนของทย. จนเกิดกระแสว่าท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.)อาจจะปรับค่าPSC เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาเข้ากองทุนของทย.เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น

โดยปีที่ผ่านมา ทอท. มีรายได้จากผู้โดยสารขาออก (PSC) 26,743 ล้านบาท หากทอท.ต้องแบ่งรายได้จากค่า PSC 10% เข้ากองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยาน รายได้ในส่วนนี้ของทอท.ก็จะหายไปราว 2,674 ล้านบาท

ปัจจุบันทอท.จัดเก็บ PSC จากผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบิน 2 ประเภท คือผู้โดยสารขาออกเส้นทางระหว่างประเทศ คนละ 700 บาท และผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ คนละ 100 บาท โดย ทอท.คำนวณค่า PSC จากต้นทุนจากการบริหารจัดการ และการบริการต่าง ๆ

  ทอท.ยันยังไม่มีนโยบายขึ้นค่าPSC

 

ต่อเรื่องนี้ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ชี้แจงถึงกรณีที่มีข่าวว่า ทอท. จะปรับค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge : PSC) หากต้องนำรายได้ของ ทอท. สมทบให้กับกองทุนเพื่อการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศยานว่า คณะกรรมการ ทอท. ยังมิได้มีการพิจารณาเรื่องนี้ และ ทอท.ไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มภาระให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ได้สั่งการให้ ทอท. หาแนวทางลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน

ทอท.ยันยังไม่มีนโยบายขึ้นค่าPSC

                                                 นิตินัย  ศิริสมรรถการ

 

ทอท.ในฐานะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม พร้อมให้การสนับสนุนนโยบายของกระทรวงคมนาคมที่จะพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาคของกรมท่าอากาศยานทั้ง 28 แห่ง ให้มีมาตรฐานและมีศักยภาพเพิ่มขึ้น ให้บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงภาพรวม รวมทั้งประโยชน์ของประเทศโดยรวมแล้ว เป็นนโยบายที่ดี และ ทอท.ในฐานะหน่วยงานที่มีความพร้อม และมีประสบการณ์ พร้อมจะให้การสนับสนุนทุก ๆ ด้าน รวมไปถึงการสนับสนุนด้านการบริหารจัดการท่าอากาศยานภูมิภาคบางแห่งที่มีศักยภาพสูง เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่หนาแน่นมาจากการใช้บริการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตได้ ตลอดจนท่าอากาศยานบางแห่งที่มีโอกาสในการเพิ่มรายได้ พัฒนาให้เป็นท่าอากาศยานนานาชาติ เช่น ท่าอากาศยานอุดรธานี และท่าอากาศยานบุรีรัมย์

 

 

นายนิตินัย กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาประโยชน์ของประเทศโดยรวมแล้ว นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี และทอท.พร้อมสนับสนุนซึ่งเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำการศึกษาข้อมูล เพื่อเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่ง ทอท. พร้อมจะให้การสนับสนุนข้อมูลทุกๆ ด้านที่ ทอท. มี ให้แก่คณะทำงานศึกษา เพื่อที่จะสามารถเดินไปด้วยกันได้ตั้งแต่ต้น หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นชอบแนวทางการดำเนินการมาอย่างไรแล้ว ทอท.จะได้ปรับแนวทางการดำเนินงานของ ทอท. ให้สอดรับไปในทิศทางเดียวกัน

 

 ทอท.มีความมั่นใจว่า การนำรายได้บางส่วนสมทบให้กับกองทุนเพื่อการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาค จะไม่กระทบต่อผลประกอบการของ ทอท. เนื่องจากกระทรวงคมนาคมมีนโยบายที่จะให้ ทอท. รับจ้างบริหารท่าอากาศยานนานาชาติบางแห่งที่กรมท่าอากาศยานกำกับดูแลอยู่ ซึ่ง ทอท. จะมีรายได้จากการรับจ้างบริหารท่าอากาศยานนานาชาติเพิ่มขึ้น จะทำให้ผลประกอบการของ ทอท. น่าจะดีขึ้น และจะเป็นการสร้างมาตรฐานท่าอากาศยานภูมิภาคให้นานาชาติยอมรับ รวมถึงเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยมากขึ้นด้วย หากว่าท่าอากาศยานในประเทศไทยมีการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถเชื่อมโยง สนับสนุนกัน เพื่อให้บริการประชาชนได้เพิ่มขึ้น