คลัง เตรียมเพิ่มทุนเอ็กซิมแบงก์ 

09 ธ.ค. 2562 | 02:59 น.

รมว.คลัง เห็นชอบเพิ่มทุนเอ็กซิมแบงก์ 15,000 ล้านบาท หวังดูแลผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้มากขึ้น รับเศรษฐกิจผันผวนปีหน้า


นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เห็นชอบหลักการ เพิ่มทุนให้เอ็กซิมแบงก์อีก 15,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีทุนเพิ่มจาก 20,000 ล้านบาท เป็น 35,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการปล่อยกู้ตามยุทธศาสตร์ธนาคารอีก 10 ปีข้างหน้า รวมถึงใช้ดูแลผู้ส่งออกไทยให้สามารถแข่งขัน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนในปีหน้า รวมถึงการเกิดสงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ

“ที่ผ่านมาได้นำเรื่องการเพิ่มทุนหารือกับรมว.คลัง แล้ว ซึ่งทางคลังก็เห็นด้วยว่ามีความจำเป็นที่จะต้องทำ โดยเฉพาะในช่วงที่ภาคการส่งออกกำลังมีปัญหา และธนาคารพาณิชย์ทั่วไปเข้มงวดการปล่อยกู้ เอ็กซิมแบงก์จะต้องมีบทบาทมากขึ้น เข้าไปช่วยดูแลให้ผู้ประกอบการยืนหยัดทำการค้าขายต่อได้ ซึ่งขั้นตอนจากนี้ธนาคารจะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เพื่อนำแผนงานการเพิ่มทุนเสนอให้พิจารณา เพื่อดูรูปแบบความเหมาะสมในการเพิ่มทุน”นายพิศิษฐ์ กล่าว

สำหรับแหล่งเงินที่ใช้เพิ่มทุน จะนำมาจากกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งมีเงินอยู่เพียงพอ แต่แนวทางการเพิ่มทุนยังต้องพิจารณาว่าจะเพิ่มทุนครั้งเดียวทั้งหมด 15,000 ล้านบาท หรือแบ่งการเพิ่มทุนเป็น 2 ระยะ เช่น ครั้งแรก 8,000 ล้านบาท ครั้งที่สอง 7,000 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการพิจารณา และน่าจะได้ข้อสรุป สามารถเพิ่มทุนได้สำเร็จได้ภายในกลางปีหน้า 

 

ทั้งนี้เมื่อเพิ่มทุนสำเร็จจะช่วยให้เอ็กซิมแบงก์ สามารถปล่อยกู้ให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในต่างประเทศไทยได้ เช่น ในกลุ่มซีแอลเอ็มวี กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ซึ่งยังมีความต้องการพัฒนาถนน โรงไฟฟ้า เขื่อนเพิ่มเติม และยังมีการลงทุนขนาดใหญ่กว่าเดิม ซึ่งหากใช้เงินทุนปัจจุบันของเอ็กซิมแบงก์ก็จะปล่อยกู้เองไม่ได้ ต้องพึ่งพาธนาคารพาณิชย์อื่นในการปล่อยกู้ร่วมด้วย

ทั้งนี้ตามระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กำหนดไว้ว่าการปล่อยกู้ต่อหนึ่งโครงการจะทำได้สูงสุดไม่เกิน 25% ของเงินทุนธนาคาร ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีทุนจดทะเบียน20,000 ล้านบาท จะปล่อยกู้สูงสุดต่อโครงการได้แค่ 5,000 ล้านบาท แต่หากเพิ่มทุนเป็น 35,000 ล้านบาทสำเร็จ จะทำให้ธนาคารปล่อยกู้ได้โครงการมากถึง 8,000-9,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอทำให้ธนาคารเป็นผู้นำในการปล่อยกู้แต่โครงการได้

“เมื่อเพิ่มทุนสำเร็จจะช่วยให้ธนาคารเป็นผู้นำในการกำหนดนโยบายสินเชื่อและสนับสนุนนโยบายของรัฐในการขยายลงทุนไปกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งช่วยให้รัฐบาลขยายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ และยังช่วยแก้ปัญหาธนาคารพาณิชย์บางแห่ง ไม่ยอมปล่อยกู้ไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านในโครงการที่มีความเสี่ยงสูง หรือหากปล่อยก็คิดดอกเบี้ยแพงได้ด้วย โดยปัจจุบันเอ็กซิมแบงก์สามารถปล่อยกู้ส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มซีแอลเอ็มวีเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการขยายตัวเฉลี่ยถึง 10%"นายพิศิษฐ์ กล่าว